บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเดินหน้าสร้างความแปลกใหม่ให้ตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางหรือซีเซ็กเม้นต์ในประเทศไทย ประกาศเปิดตัวรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 ใหม่ รุ่นปี 2013 ปรับโฉมเสริมความเป็นสปอร์ตรอบคันทั้งภายในและภายนอก ทั้งเครื่องยนต์ 1.6 และเครื่องยนต์ 2.0 ที่ถูกถ่ายทอดความเป็นสปอร์ตจาก DNA ของรถต้นแบบสปอร์ตโรดสเตอร์ที่ขับสนุกมาสด้า MX-5 กับคอนเซ็ปต์ “Jinba-Ittai” หรือ “Oneness” เมื่อคุณกับรถเป็นหนึ่งเดียวกัน
นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 คือรถยนต์ที่ได้รับการการันตีมาแล้วจากลูกค้าทั่วโลกกว่า 3 ล้านคัน รวมทั้งลูกค้าชาวไทยอีกกว่า 4 หมื่นคัน สำหรับการปรับโฉมเพิ่มความสดใหม่ให้กับมาสด้า3 ในครั้งนี้ จะส่งผลให้รถมาสด้า3 เป็นรถยนต์ให้ความสปอร์ตมากที่สุด รวมทั้งการเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกหลากหลายและโดดเด่นเหนือคู่แข่ง คาดว่าจะส่งผลให้ยอดขายรถมาสด้า3 มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นไปอีก ผมมั่นใจว่าการเพิ่มความคุ้มค่าให้กับรถมาสด้า3 โฉมใหม่ในครั้งนี้ จะทำให้ลูกค้าเกิดความภาคภูมิใจมากยิ่งขึ้น และนั่นคือจุดมุ่งหมายหลักของแนวทางของ ซูม-ซูม แบบยั่งยืนของมาสด้า
“ปัจจุบันเรามียอดจำหน่ายมาสด้า3 ไปแล้วมากกว่า 40,000 คัน และรถมาสด้า3 ยังช่วยส่งเสริมให้ยอดขายและภาพลักษณ์ของมาสด้าแข็งแกร่งยิ่งขึ้น สำหรับการเปิดตัวมาสด้า3 ใหม่ ในครั้งนี้คาดว่าจะทำให้ยอดขายของมาสด้าเติบโตและครองใจผู้บริโภคในกลุ่มรถยนต์นั่ง คาดว่าภายในสิ้นปีนี้มาสด้าจะมียอดการจำหน่ายอยู่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของภาพลักษณ์ต่อไปยิ่งๆ ขึ้นอีกด้วย” นายโชอิชิ ยูกิ กล่าวเพิ่มเติม
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ตลาดรถยนต์นั่งคอมแพ็คคาร์ หรือ ซี-คาร์ เป็นกลุ่มรถหลักในตลาดประเทศไทย และเป็นตลาดที่มีการเติบโตที่ทรงตัวมาโดยตลอด และมีโอกาสที่เราจะสามารถขยายฐานลูกค้าได้กว้างมากยิ่งขึ้น ลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็นลูกค้าที่มีความคาดหวังค่อนข้างสูง ทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์ดีไซน์ที่งามสง่า สมรรถนะการขับขี่ ความคุ้มค่าคุ้มราคา อุปกรณ์ที่เพิ่มความหรูหราสะดวกสบาย คุณภาพของวัสดุที่นำมาประกอบ และระบบความปลอดภัยที่มั่นใจ รวมถึงความประหยัดทั้งค่าบำรุงดูแลรักษาและการประหยัดน้ำมัน
สำหรับมาสด้า3 ใหม่ นอกจากเป็นรถยนต์ที่มีอุปกรณ์ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ มีความคุ้มค่าสมราคาแล้ว ยังมีความสปอร์ตที่โดดเด่นเหนือกว่ารถอื่นในคลาสเดียวกัน ด้วยรูปลักษณ์ความสวยงามของดีไซน์ทั้งภายในภายนอก ซึ่งแตกต่างจากรถในกลุ่มคอมแพ็คที่มักเน้นแต่ความหรูหราเพียงอย่างเดียว ซึ่งจุดขายนี้โดนใจลูกค้ากลุ่มพรีเมียมผู้รักรถสปอร์ตหรู การปรับโฉมเข้าสู่ตลาดในครั้งนี้จะส่งผลเราสามารถสร้างความแตกต่างจากรถยนต์แบบเดิมๆ