ธนาคารกสิกรไทยลุยแบงก์แอสชัวรันส์ครึ่งปีหลัง ออกแคมเปญ “ประกันชีวิต หยุดได้หายห่วง” พุ่งเป้าตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าอาชีพอิสระที่ต้องการหลักประกันในชีวิต ชูจุดขายจ่ายเบี้ยต่ำ เริ่มต้นวันละ 19 บาท ความคุ้มครองชีวิตสูงสุด 200% ของทุนประกัน เข้าโรงพยาบาล ชดเชยสูงสุด 365 วัน โชว์ผลงานครึ่งปีแรกเบี้ยประกันรวมกว่า 21,000 ล้านบาท โต 34% ตั้งเป้าสิ้นปีเบี้ยประกันรวมกว่า 40,000 ล้านบาท ครองส่วนแบ่ง 24% ขึ้นแท่นอันดับ 1
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ในครึ่งปีหลัง เพื่อครองความเป็นอันดับ 1 ของตลาด ธนาคารฯ จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่เจาะลึกถึงกลุ่มที่เป็น Sub-Segment เพื่อให้เข้าถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในทุกมิติ จึงได้ออกแคมเปญ “ประกันชีวิต หยุดได้หายห่วง” เจาะกลุ่มผู้มีอาชีพอิสระที่ไม่มีรายได้ประจำในรูปแบบเงินเดือน ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงระบบประกันได้ และเป็นกลุ่มที่ต้องการการชดเชยรายได้ที่สูญเสียไปหากจำเป็นต้องหยุดงาน
แคมเปญ “ประกันชีวิตหยุดได้หายห่วง” มีจุดเด่น คือ เบี้ยประกันต่ำ เริ่มต้นเพียงวันละ 19 บาท ในกรณีที่ผู้เอาประกันเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ ต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล จะได้รับเงินชดเชยวันละ 500 บาท สูงสุดถึง 365 วัน ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบเมื่อขาดรายได้จากการหยุดงาน โดยมีทุนประกันรวม 100,000 บาท ให้ความคุ้มครองชีวิตสูงสุดถึง 200% ของทุนประกัน ระยะเวลาชำระเบี้ยประกัน 20 ปี แต่ความคุ้มครองนานจนถึงอายุ 95 ปี สามารถใช้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีได้ และเมื่อครบสัญญาจะได้รับเงินคืน 100% ของทุนประกัน
นอกจากนี้ ผู้สมัครกรมธรรม์ในแคมเปญ “ประกันชีวิต หยุดได้หายห่วง” จะได้รับโปรโมชั่นพิเศษ ชำระค่าเบี้ยประกันผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย ด้วยการผ่อนค่าเบี้ยประกันปีแรก ในอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน ที่ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และเพื่อให้แคมเปญดังกล่าวสามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง ธนาคารฯ ได้ทุ่มงบการตลาดกว่า 30 ล้านบาท ในการสร้างภาพยนตร์โฆษณาความยาว 30 วินาที ซึ่งจะเริ่มออกอากาศทั่วประเทศ ในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้
แคมเปญ “ประกันชีวิต หยุดได้หายห่วง” จะช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มอาชีพอิสระ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นหัวหน้าครอบครัวได้อย่างตรงจุด เพราะเมื่อต้องหยุดงาน รายได้ที่เคยมีจะหายไป แต่ภาระค่าใช้จ่ายยังคงอยู่ ดังนั้น การมีเงินชดเชยดังกล่าว นอกจากจะช่วยลดภาระของผู้ทำประกันแล้ว ยังสร้างความอุ่นใจให้แก่ครอบครัวที่อยู่ข้างหลังอีกด้วย ทั้งนี้ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีลูกค้าสมัครกรมธรรม์ในแคมเปญนี้ 20,000 ราย คิดเป็นค่าเบี้ยประกันราว 140 ล้านบาท