มร.คาเบียร์ ซาลูจา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด – จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงการจัด THE BLACKLIST ครั้งใหม่ภายใต้รูปแบบที่เอ็กซ์คลูซีฟยิ่งขึ้นครั้งนี้ว่า “หัวใจของการจัดเอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้ครั้งใหม่จากจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ก เลเบิ้ลที่เราให้ชื่อว่า “THE BLACKLIST – THE ICONIC JOURNEY” คือการหยิบเรื่องราวการเดินทางครั้งประวัติศาสตร์ และความสัมพันธ์อันแนบแน่นของแบรนด์จอห์นนี่ วอล์กเกอร์กับกลุ่มบุคคลเหนือระดับในเมืองไทยเมื่อเกือบ 100 ปีก่อนกลับมาสร้างสรรค์ใหม่อีกครั้ง
โดยเราจำลองเส้นทางรถไฟที่ช่วยให้จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ก เลเบิ้ลกลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไทย ให้แขกรับเชิญระดับเอลิสต์ที่มีชื่อเสียงจำนวนเพียง 100 ท่านได้มาร่วมสัมผัส เพื่อเป็นการเน้นย้ำความเป็นนักบุกเบิก และการเลือกทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด แสดงให้เห็นถึงความกล้า และความมุ่งมั่นในสไตล์ของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ภายใต้การจัดปาร์ตี้ที่สร้างสรรค์ขึ้นจากเรื่องราวในประวัติศาสตร์อันแสนพิเศษ และเปี่ยมด้วยสไตล์ยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา
สำหรับ “THE BLACKLIST – THE ICONIC JOURNEY” ครั้งนี้ นอกจากจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์แห่งการเดินทางอันยาวไกลของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ผ่านเส้นทางรถไฟจากสก็อตแลนด์ มาถึงประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อเกือบ 100 ปีมาแล้ว ยังเป็นการสานต่อการจัดปาร์ตี้ที่เอ็กซ์คลูซีฟที่สุดสำหรับชาวแบล็คลิสต์ ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2007 โดยการจำลองการเดินทางครั้งประวัติศาสตร์ขึ้นอีกครั้งบนสายรถไฟโอเรียนท์ เอ็กซ์เพรสที่มุ่งหน้าจากสถานีรถไฟหัวลำโพง กรุงเทพฯ สู่เมืองอยุธยา มหานครแห่งความรุ่งโรจน์ทางวัฒนธรรม เมืองที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ทั้งยังเป็นเมืองแรกในภาคกลางที่จอห์นนี่ วอล์กเกอร์เดินทางไปถึง
โดยในปาร์ตี้สุดเอ็กซ์คลูซีฟครั้งนี้ แขกระดับเอลิสต์และบุคคลผู้มีชื่อเสียงที่ได้รับเชิญ อาทิ ภูริ หิรัญพฤกษ์, อรจิรา กุลดิลก, วิริฒิพา แย้มนาม, ณัฐบูร ไตรณัฐี และ ยศสินี ณ นคร, วรสิทธิ์-ปาลาวี อิสสระ, เจย์-จริยดี สเปนเซอร์, แดน เหตระกูล, บุญญาภาณิ์ เบญจรงคกุล, ปราการ ไรวา, สธน ตันตราภรณ์ ฯลฯ ที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางตามรอยประวัติศาสตร์แห่งความยิ่งใหญ่ของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ภายใต้บรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟบนขบวนรถไฟซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรามีระดับสอดรับกับธีม The Iconic Journey อย่างลงตัว
บนขบวนรถไฟ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ก เลเบิ้ลจัดเตรียมความพิเศษไว้รอแขกเหรื่อทุกคนในทุกๆส่วน ตั้งแต่การจัดแบ่งขบวนรถไฟออกเป็นห้องต่างๆ อาทิ ห้อง Observation Room ที่พร้อมให้ทุกคนสนุกกับ live DJ สดๆ จากดีเจเซเลบริตี้อย่าง “ปลาวาฬ-วรสิทธิ์ อิสสระ” รวมถึง “ดีเจดีใจ” ดีเจระดับท็อปของประเทศซึ่งเคยเล่นประจำร้านด้งอย่าง Hyde & Seek, Mellow และ Blue Velvet มาแล้ว ห้อง Piano Bar ที่มาพร้อมการแสดงสดของนักร้องและนักเปียโนคุณภาพนำทีมโดยบุรินทร์ บุญวิสุทธิ์, สธน ตันตราภรณ์ และ มิ้นท์-อรรถวดี จิรมณีกุล
รวมไปถึง 2 ห้องพิเศษที่สะท้อนเอกลักษณ์ของความเอ็กซ์คลูซีฟในทุกๆ ส่วน ได้แก่ห้อง Gentlemen Room ที่เปิดโอกาสให้คุณสุภาพบุรุษเข้ามาสนุกกับเกมหมากรุกและเกมโป๊กเกอร์ พร้อมสังสรรค์ร่วมกันอย่างเป็นกันเอง และห้อง Powder Room ซึ่งจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ก เลเบิ้ลจัดไว้แบบไพรเวทสำหรับแขกสุภาพสตรีโดยเฉพาะที่ต้องการมีเวลาส่วนตัวร่วมกันบนขบวนรถไฟ
แขกเหรื่อในงานสามารถลิ้มรสเมนูอาหารที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ จากฝีมือของเชฟยานนิส มาร์ติโน เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟของโอเรียนท์ เอ็กซ์เพรส โดยเชฟยานนิสบอกว่า ทุกเมนูอาหารที่เสิร์ฟในงานล้วนหยิบแรงบันดาลใจมาจากจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ก เลเบิ้ลทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกวัตถุดิบในแต่ละเมนูให้มีรสชาติที่แมทช์กันอย่างลงตัวที่สุดกับรสชาติของวิสกี้ โดยก่อนที่การรับประทานอาหารจะเริ่มต้นขึ้น คุณคาเบียร์ยังเกริ่นนำด้วยประวัติความเป็นมาของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เรื่อยมาจนถึงการบรรยายถึงสไตล์อันเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์เฉพาะของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์อย่างแท้จริง
ส่วนที่เซอร์ไพรส์ทุกคนในปาร์ตี้มากที่สุด น่าจะเป็นช่วงที่ขบวนรถไฟเดินทางไปหยุดนิ่งอยู่ที่สถานีพระนครศรีอยุธยา เพราะจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ก เลเบิ้ลเลือกส่งไฮไลต์พิเศษกับการแสดงสดสุดอลังการด้วยแสงสีเสียงอันน่าตื่นตาตื่นใจที่ชวนทุกคนเดินทางผ่านช่วงเวลาอันทรงค่า ที่ช่วยให้จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลองอันเหนือระดับในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 1 ศตวรรษ พร้อมด้วยพลุไฟสุดอลังการ ซึ่งช่วยเน้นย้ำประวัติศาสตร์แห่งการเดินทางอันยาวไกลของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ และสร้างความประทับใจให้กับแขกบนขบวนรถไฟและผู้คนที่อยู่ในละแวกนั้นเป็นอย่างมาก
และเพื่อให้การบอกเล่าเรื่องราวย้อนรอยประวัติศาสตร์ของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์สมบูรณ์แบบที่สุด ในปาร์ตี้ครั้งนี้ยังมีการจัดห้อง Art of Blending ที่จำลองการสาธิตศิลปะการเบลนด์ชา ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้จอห์น วอล์กเกอร์ได้กลายมาเป็นมาสเตอร์เบลนเดอร์วิสกี้คุณภาพสูงที่ได้รับความนิยมอย่างแบรนด์จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ในเวลาต่อมา พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้แขกพิเศษทุกท่านได้ชมกับหลากหลายวิธีการสัมผัสรสและกลิ่น ซึ่งทำให้ได้กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ก เลเบิ้ลที่แตกต่างกันไป ในขณะที่ห้อง Theatre Room ยังชวนแขกเหรื่อมาผ่อนคลายอิริยาบถด้วยการชมภาพยนตร์สุดประทับใจ 2 เรื่องคือ The Artist และ Breakfast at Tiffany’s พร้อมภาพยนตร์ชิ้นเอกของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ที่ตราตรึงและสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทย จนเป็นที่กล่าวขวัญกันอย่างแพร่หลายในช่วง 1 ทศวรรษที่ผ่านมา
พร้อมไปกับการส่งท้ายความพิเศษของเอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้บนรถไฟสายโอเรียนท์ เอ็กซ์เพรสครั้งนี้ด้วยการส่งต่อโปสการ์ดสุดพิเศษที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจจากข้อความที่จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ได้กระตุ้นแรงปรารถนาในความสำเร็จในชีวิตของหลายๆ คนมาแล้ว เพื่อถ่ายทอดความประทับใจจากการเดินทางครั้งสำคัญครั้งนี้สู่คนที่รักก่อนที่การเดินทางจะกลับมาจบลงอีกครั้งที่สถานีรถไฟกรุงเทพฯ เป็นการจบท้ายที่สุดแห่งการย้อนรอยประวัติศาสตร์ระดับเอ็กซ์คลูซีฟจากจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ก เลเบิ้ลอย่างหรูหราและน่าประทับใจ