หลังจากเปิดบริการปีเศษ ME by TMB ถือว่าประสบความสำเร็จในแง่ของจำนวนลูกค้าที่ตอนนี้มีการเปิดบัญชีใหม่ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ ทั้งๆ ที่มีสาขาเพียงแค่ 5 สาขา แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อบริการของ ME ว่าเป็น Self-Service Banking อย่างเต็มรูปแบบ ลูกค้าใช้บริการผ่าน Electronic Channel ต่างๆ ได้โดยไม่ต้องมี Passbook หรือ ATM เลย สามารถทำธุรกรรมทั้งหมดด้วยตัวเอง และนั่นเป็นคอนเซ็ปท์ DIY ที่ถูกเซ็ทขึ้นตั้งแต่ต้น ตามเทรนด์ผู้บริโภคที่นิยมทำอะไรด้วยตัวเองเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากกว่า
ความสำเร็จของ ME เริ่มต้นจากการวางโมเดลให้การธนาคารรูปแบบใหม่แห่งนี้ดำเนินงานภายใต้แนวคิดที่สอดคล้องกับชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง ตามที่ รัชดา เสริมศิลปกุล ผู้อำนวยการการตลาดและการขาย ME กล่าวถึงปัจจัยที่ผู้บริโภคคิดเมื่อต้องการเลือกใช้`บริการการทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ต ไว้ว่า มี 3 ด้าน ประกอบด้วย ความสะดวก ที่ต้องสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน ประการต่อมาก็คือความปลอดภัย เพราะถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องบริการทางการเงิน สุดท้ายเป็นเรื่องของผลตอบแทน และสำหรับ ก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการทั้ง 3 ด้าน
1.ความสะดวก มีทั้งการทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ต หรือจะโทรศัพท์เข้ามาติดต่อคอลเซ็นเตอร์ 0 2502 0000 ก็ทำได้ทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง หรือการตอบคำถามทางโซเชี่ยล มีเดียก็มีเจ้าหน้าที่ดูแลพร้อมคอยตอบคำถามไม่ว่าจะเป็น Facebook.com/MEbyTMB หรือจะเป็น Twitter @MEbyTMB ก็ตาม
2.ความปลอดภัย การโอนเงินออกจาก ME จะโอนไปยังบัญชีที่เป็นชื่อของลูกค้าเท่านั้น ซึ่งเป็นธนาคารใดก็ได้ โดยที่ลูกค้า นำมาผูกไว้ตอนลงทะเบียนเปิดบัญชี ไม่สามารถโอนออกไปยังบัญชีชื่อคนอื่นได้ ซึ่งเรื่องนี้ ผู้บริหารของแบรนด์มั่นใจกับความปลอดภัย จนครั้งหนึ่งที่ทีมงานต้องถ่ายทำหนังโฆษณาและต้องใช้เลขที่บัญชีในภาพยนตร์โฆษณา ผู้บริหารจึงให้เลขที่บัญชีส่วนตัวของตัวเองใส่ในภาพยนตร์โฆษณาเลยทีเดียว
3.ผลตอบแทน เนื่องจาก ME ใช้คอนเซ็ปท์ที่ลูกค้าดำเนินธุรกรรมด้วยตัวเอง (Self-Service Banking ) ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานต่ำกว่าธนาคารทั่วไป จึงนำเอาต้นทุนที่ลดลงมาเพิ่มเป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับลูกค้าได้
นอกจากแนวคิดและประโยชน์ด้านผลิตภัณฑ์ที่กล่าวมาแล้ว การตลาดก็เป็นอีกประเด็นที่ทำให้ ME by TMB ได้รับตอบรับในเชิงบวกมาโดยตลอด ทั้งเรื่องการตลาดออนไลน์ และแคมเปญส่งเสริมการขาย ซึ่งแนวคิดอิงมาจากการสำรวจและอาศัยความต้องการของลูกค้าว่าพฤติกรรมของลูกค้าเป็นอย่างไร ต้องการอะไร ก็จะมีกิจกรรมการตลาดรองรับ
“ปัจจุบันเรามีแฟนในเฟซบุ๊คหลักแสนไลค์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เราเชื่อว่ามีความสนใจใน ME จริงๆ ทั้งๆ ที่แทบไม่เล่นเกมส์แจกของรางวัล หรือ การแจกก็จะเป็นเหมือนการแจกความสนุกคืนกลับไปให้ลูกค้าหรือแฟนเพจในเทศกาลบางครั้ง เพราะเราเชื่อว่าการแจกรางวัลอาจจะทำให้ได้คนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงมาเป็นแฟน แต่เราใช้คอนเซ็ปท์สร้างคอนเทนต์แบบ Smart Attitude ให้คำแนะนำเรื่องการออมเงิน การบริหารเงินมาสร้างความสนใจ และเรายังตั้งเป้าหมายของการตอบข้อซักถามหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุดเพื่อความพอใจของลูกค้า ข้อดีของการสร้างฐานแฟนที่มีตรงกับกลุ่มเป้าหมายก็คือ บางครั้งเวลามีคนมาโพสต์ถามในเฟซบุ๊คหรือเว็บไซต์อื่นๆ ที่เป็นแฟนของเรามาช่วยกันตอบแทนทีมงานของเรา ซึ่งทางทีมงานรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง และอยากขอบคุณลูกค้าทุกๆ ท่านเท่าที่ทำได้”
และแคมเปญการตลาดที่ได้รับผลตอบรับที่ดีที่สุดของ ME ก็คือ กิจกรรม “เพียงแค่บอก ดอกก็เพิ่ม” ที่ผู้บริหารเล่าว่า คิดขึ้นมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่พอมีคนเริ่มใช้งาน บัญชี ME ก็จะไปชักชวนเพื่อนมาใช้บริการเพิ่มเอง ดังนั้นทาง ME จึงเล็งเห็นว่าในเมื่อผู้บริโภคเดิมเป็นกระบอกเสียงให้ธนาคารเช่นนี้ ลูกค้ารายนั้นก็ควรได้สิทธิพิเศษเพิ่มเติมไปด้วย อีกทั้งผลตอบรับของแคมปญยังได้ฟีดแบ็คดีเกินคาดทำให้โปรโมชั่น “เพียงแค่บอก ดอกก็เพิ่ม” ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว ต้องกลับมาอีกครั้งหนึ่ง เพียง
ผู้ที่เป็นลูกค้า ME ที่ชวนเพื่อนมาเปิดบัญชีก็รับดอกเบี้ยสูงสุด 3.75% นานต่อเนื่อง 2 เดือน หรือเท่ากับ 5 เท่าของดอกเบี้ยออมทรัพย์ทั่วไปในตลาด โดยชวน 1 คน จะได้ +0.25% จากอัตราดอกเบี้ยปกติ 3% และชวนสูงสุดได้ 3 คน จึงรวมเป็น 3.75% โปรโมชั่นพิเศษ ถึง 31 ตุลาคม ปีนี้ สมัครด่วนที่ WWW.MEBYTMB.COM โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 0-2502-0000
[Advertorial]