Digital Trend: BLURRED LINES, Is it Public or Private?
ดิจิตอลได้เปลี่ยนโลกจริงของเราไปแล้ว…..จากเดิมผู้บริโภคมักถือ “ความเป็นส่วนตัว” เป็นสิทธิพิเศษอย่างหนึ่งในการใช้ชีวิตที่ไม่อยากให้ใครเข้ามาวุ่นวาย แต่ในยุคปัจจุบัน กระแสมาแรงอย่าง สื่อออนไลน์ โซเชียลมีเดีย และเรียลิตี้ทีวี กลับเปลี่ยนมุมมองที่ผู้บริโภคมีต่อ “ความเป็นส่วนตัว” และ “ความเป็นสาธารณะ” ฉะนั้นคำว่า “Blurred Lines” ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงเพลงฮิตติดชาร์ทที่สาวไมลี่ย์ทำให้เป็นข่าวกระฉ่อนไปทั่วโลก แต่พูดถึงมุมมองใหม่ในโลกสื่อสารการตลาด ที่มีลูกเล่นอยู่ที่ความเป็นสาธารณะในพื้นที่ที่เคยเป็นโลกส่วนตัว และความเป็นส่วนตัวเวลาอยู่ในโลกสาธารณะ
1) Private Expression / Public Disclosure
เผยความรู้สึกส่วนตัว สู่โลกโซเชียลสาธารณะ
“If I didn’t post it, it didn’t happen.”
อินเตอร์เน็ต และโซเชียลมีเดีย คงเป็นจุดเปลี่ยนของความเป็น “ส่วนตัว/สาธารณะ” ที่เห็นได้ชัดที่สุด จากการเลือกแชร์ชีวิต แลกเปลี่ยนความรู้สึกนึกคิด กับเพียงคนในครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนสนิท ผู้คนทุกวันนี้พร้อมที่จะเปิดเผยความรู้สึกส่วนตัว และใช้โซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่ในการแสดงออกตัวตน โดยมีมุมมองที่รับได้กับการแชร์ส่วนหนึ่งของตัวเองสู่โลกสาธารณะ
ก้าวไปอีกขั้น บางคนยึดการโพสต์ในโซเชียลเป็นพื้นที่หลักในการยืนยันความเป็นตัวตน ที่เรามักจะเรียกกระแสนี้ว่า “Social Validation Junkie” เสพติดความรู้สึกได้รับการยอมรับ จากทุกๆ like ทุกๆ follow ทุกๆ comment ที่ได้รับแบบ real-time ด้วยทัศนะที่ว่า “โชว์สำคัญกว่าเป็น”
2) Private Idea / Public Spirit
ติดปีกไอเดียส่วนตัว ร่วมไปกับพลังมวลชนทั่วโลก
“Together we can do so much.”
ในไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากกระแส startup ที่มาแรง บวกกับเทรนด์การระดมทุนแบบ crowd-funding ทำให้เจ้าของไอเดียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยี งานครีเอทีฟ หรือบริการใหม่ๆ สามารถโชว์ไอเดียของตัวเองผ่านเว็บไซต์สื่อกลาง เช่น Kickstarter หรือ Indiegogo ให้คนทั่วโลกสามารถร่วมสานฝันไปกับนักคิดไฟแรง โดยการเลือกบริจาคเงินสนับสนุนคนละเล็กคนละน้อย และรับผลิตภัณฑ์นั้นเป็นของตอบแทน เมื่อโปรเจ็คนั้นกลายเป็นความจริง
สำหรับผู้นำไอเดียส่วนตัวมาสานฝันร่วมกับผู้คนสาธารณะ ความสุขที่ได้มาจาก collaborative spirit ที่แพล็ตฟอร์มเหล่านี้มอบให้ เพราะนอกจากเงินทุนที่ได้แล้ว ยังได้รับความคิดเห็น ไอเดีย และกำลังใจจากผู้สนับสนุนทั่วโลก นับว่าเป็นหนึ่งในแรงผลักดันที่ทรงพลังทีเดียว
3) Private Property / Public Borrow
ไลฟ์สไตล์สาธารณะเก๋ๆ จากการแชร์ทรัพย์สินส่วนตัว
“Life is to be shared.”
ความคลุมเคลือในการแบ่งแยกระหว่างความเป็น “ส่วนตัว” และ “สาธารณะ” นั้นไม่ได้ถูกจำกัดเพียงในโลกดิจิตอล ทรัพย์สินส่วนบุคคลในชีวิตจริงก็เริ่มไม่เป็นของส่วนบุคคลอีกต่อไป เพราะการเติบโตของ sharing economy หรือ “แนวคิดเศรษฐกิจการแบ่งบัน” ที่กำลังมาแรง เมื่อผู้คนจากคนละมุมโลกสามารถเชื่อมต่อกันได้มากขึ้นผ่านอินเตอร์เน็ต
บริษัทต่างๆเริ่มเห็นโอกาสในการนำทรัพยากรส่วนตัวต่างๆที่อาจไม่ได้ใช้งานเพื่อนำออกมาใช้ประโยชน์และสร้างรายได้ เช่น การแชร์ยานพาหนะที่ให้ผู้คนปล่อยเช่ารถยนต์ส่วนตัวของตน การเปิดให้เช่าที่จอดรถที่บ้าน การใช้พื้นที่ออฟฟิศร่วมกัน การนำห้องว่างในบ้านของตนมาเปิดให้นักเดินทางเช่า (เช่น Airbnb) เป็นต้น ทำให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงวิถีชีวิตมิติใหม่ๆ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่เปิดโอกาสทางธุรกิจ พลิกโฉมรูปแบบการทำธุรกิจแบบเดิมๆโดยสิ้นเชิง
4) Private Moment / Public Space
ค้นหาพื้นที่ส่วนตัว ในวิถีวุ่นวายของคนเมือง
“Connect to disconnect.”
ในวิถีชีวิตคนเมือง พื้นที่ส่วนตัวที่แท้จริงนั้นนับวันมีแต่จะลดลงเรื่อยๆ พื้นที่อยู่อาศัยนับวันก็ยิ่งเล็กลง และพื้นที่สาธารณะต่างมีแต่ความแออัดยุ่งเหยิง อาจจะฟังดูเป็นคอนเซ็ปท์ที่ขัดกัน แต่ผู้คนเริ่มโหยหาความสงบส่วนตัวในพื้นที่สาธารณะกันมากขึ้น
เมื่อมองดูเทรนด์ใหม่ๆ เริ่มมีการใช้เทคโนโลยีและการเชื่อมต่อผ่าน social network ต่างๆ ในการ disconnect จากผู้อื่น หาที่ผ่อนคลายความเครียด และความกดดันวุ่นวาย ที่มากับ over-stimulation ของไลฟ์สไตล์คนเมือง เช่น แอพมือถือ “anti-social media” ระบุพิกัด “safe zone” ให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงการต้องพบปะกับใคร และแอพมือถือ ที่ให้ผู้ใช้สามารถ crowd-source “ความเงียบสงบ” ในเมืองใหญ่ได้ เป็นหนึ่งในโครงการ TEDxCity2.0 ที่กำลังขยายไปสู่เมืองใหญ่ทั่วโลก
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=2V2nJEqWoeA[/youtube]
ในยุคดิจิตอล การหักเหของกระแส จนถึง กระแสย้อนกระแส เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ในมุมมองด้านการตลาด การยึดติดค่านิยม และการจำกัดความแบบเดิมๆ คงใช้ไม่อีกต่อไป เพื่อก้าวล้ำไปกับลูกเล่นเทรนด์ดิจิตอลใหม่ๆ หลายๆ แบรนด์ต้องก้าวให้ทันในการตอบโจทย์ความท้าทายมิติใหม่ๆ เหล่านี้ ด้วยการสร้างสรรเทคโนโลยีตอบสนองอินไซต์ และค่านิยมใหม่ๆให้แบรนด์มีคุณค่าทั้งในโลกจริง และมิติดิจิตอล
Exclusive by McCANN Truth Central (Thailand)