จากความจริงที่น่าเศร้าใจที่ว่า หญิงไทยยอมรับการถูกทำร้ายเป็นอันดับ 2 ของโลก (จากการสำรวจขององค์กรสหประชาชาติ, 2555) และหญิงเมื่อโดนทำร้าย ไม่ประสงค์จะร้องเรียนหรือแจ้ง มีจำนวนมากเป็นเท่าตัวของกลุ่มที่ประสงค์ร้องเรียน (ที่มา : www.violence.in.th , รวบรวมข้อมูลโดยศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันการกระทำความรุนแรงในครอบครัว กระทรวงการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์)
นั่นแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงไทยถูกทำร้าย แต่กลับเพิกเฉยต่อการกระทำความรุนแรง นิตยสาร Marie Claire เล็งเห็นความสำคัญของประเด็นนี้ และคิดว่าควรปลุกกระแสให้ผู้หญิงไทยตระหนักว่าปัญหาเรื่องความรุนแรงในผู้หญิงไม่ใช่เรื่องปกติที่จะยอมรับได้ และกล้าแสดงออกมากขึ้นเมื่อถูกทำร้าย จึงริเริ่มแคมเปญที่อยากสื่อสารถึงผู้หญิง โดยเริ่มจากสื่อสิ่งพิมพ์ (Print Ad) ในนิตยสาร โดยอาศัยพลังความคิดสร้างสรรค์ของเอเย่นซี่ BBDO Bangkok แต่ทางบีบีดีโอคิดว่า การสื่อสารผ่านสิ่งพิมพ์เป็นการนิตยสาร ที่มีลักษณะให้ข้อมูลเพียงทางเดียว (One Way Communication) ขณะที่พฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน ใช้สื่อโซเชี่ยล มีเดียไม่น้อยกว่าสื่อสิ่งพิมพ์ อีกทั้งโซเชี่ยลมีเดียอย่าง Instagram ก็เป็นสื่อที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้หญิง ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของแคมเปญนี้
Marie Claire และ BBDO Bangkok จึงขยายแคมเปญจากการับสื่อเพียงอย่างเดียว ให้กลายเป็นแคมเปญที่ผู้บริโภคสามารถ Action ร่วมกับกิจกรรมในครั้งนี้ได้ โดย เฟสแรก สื่อสารผ่าน อาสาสมัคร 7 นักแสดง/นางแบบชื่อดังที่มีฐานผู้ติดตามจำนวนมาก (Follower) ได้แก่ คริส – พลอย หอวัง หญิง รฐา (ญาญ่า หญิง), จอย ชลธิชา, จิ๊บ ปกฉัตร, พลอย รัตนรัตน์ และ จ๊ะ จิตตาภา จากการสื่อสารในขั้นแรก็นำไปสู่ เฟส 2 ชักจูงให้ผู้หญิงในประเทศไทยร่วมกันทำสัญลักษณ์ใต้ตา โดยใช้เครื่องสำอาง หรือ ลิปติกใดๆก็ได้ ถ่ายรูป และอัพโหลดในอินสตาแกรม และ/หรือโซเชียลเน็ตเวิร์คของตนเอง ติดแท็กใต้ภาพ #WomenAgainstAbuse ในวันต่อต้านและยุติการใช้ความรุนแรงในสตรี (Stop Violence Against Women’s Day) วันที่ 25 พฤศจิกายน โดยคาดหวังว่าจะช่วยปลุกพลังของผู้หญิงให้เข้าใจถึงปัญหาสังคมในปัจจุบัน ไม่เผิกเฉย และกล้าเปิดเผยหรือร้องเรียนเกี่ยวกับความรุนแรง
[youtube]https://www.youtube.com/watch?v=h8fm9a_pjBQ[/youtube]