บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรายใหญ่ของกลุ่มธุรกิจ โคคา-โคลา ในประเทศไทย แถลงว่า คณะกรรมการของบริษัทได้ลงมติแต่งตั้ง นายพรวุฒิ สารสิน ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด จากตำแหน่งรองประธานกรรมการในปัจจุบัน ทั้งนี้คณะกรรมการยังได้ลงมติเลื่อนตำแหน่ง นายพงส์ สารสิน ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด จากเดิมที่ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ อีกด้วย
มร. มานูเอล อาร์โรโย ประธานหน่วยธุรกิจภูมิภาคอาเซียนของเดอะ โคคา-โคลา คอมปะนี ประจำกรุงเทพฯ กล่าวว่า “ในรอบ 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา เราได้เห็นประวัติศาสตร์การพลิกเกมที่สำคัญที่สุดเกิดขึ้นในประเทศไทย ร่วมถึงการเป็นพันธมิตรที่ยาวนานเกือบ 60 ปี ในประเทศไทยก็นับว่าเป็นสิ่งที่พิเศษมาก เรามีความยินดี เป็นอย่างยิ่งกับการแต่งตั้งผู้บริหารทั้งสองตำแหน่งในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการตอบแทนผลการดำเนินงานที่โดดเด่น ของไทยน้ำทิพย์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงการขยายธุรกิจให้โตขึ้น ถึงสองเท่านับตั้งแต่ปี 2540 กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลาเป็นผู้นำด้านตลาดเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นผู้นำด้านตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 56.7% นับถึงเดือนมิถุนายน 2556”
ในการแต่งตั้งครั้งนี้ คณะกรรมการของบริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด กล่าวถึงนายพรวุฒิ ว่าเป็นกำลังสำคัญในการริเริ่มและผลักดันให้บริษัทก้าวขึ้นสู่ระดับนานาชาติ รวมถึงการขยายธุรกิจเข้าไปในประเทศลาว
นอกจากนี้ นายพรวุฒิยังเป็นแกนนำหลักในการพัฒนาศักยภาพและการลงทุนครั้งยิ่งใหญ่ของระบบซัพพลายเชน และความสามารถในการกระจายสินค้าของเราให้ทันสมัยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งความคิดริเริ่มเหล่านี้ล้วนเป็นกุญแจสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของโคคา-โคลาทั้งสิ้น
นายพรวุฒิ สารสิน กล่าวว่า “วิสัยทัศน์ของเราคือ การทำให้บริษัทไทยน้ำทิพย์เป็นองค์กรผู้ผลิตเครื่องดื่มระดับโลก ที่มีการผลิต การกระจายสินค้า และการขายล้ำหน้าที่สุดในโลก พร้อมด้วยเทคโนโลยีและระบบการทำงานที่จะช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น และทำให้ไทยน้ำทิพย์เป็นองค์กรที่พนักงานอยากทำงานด้วยมากที่สุด เรามุ่งมั่นในการเป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ ไม่เพียงในประเทศไทยเท่านั้น ยังรวมถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออก-เฉียงใต้ทั้งหมดอีกด้วย”
นายพรวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ประสิทธิภาพในการดำเนินงานของเรารุกหน้าขึ้นอย่างมาก โดยเราได้นำวิธีการใหม่ๆ ที่มีความนอกกรอบอย่างสิ้นเชิงมาพัฒนาการกระจายสินค้าของเรา ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้ระบบโลจิสติกส์และการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ของเรามีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 50% ส่งผลให้ต้นทุนโลจิสติกส์ลดลง และขณะเดียวกันก็เพิ่มกำไรให้กับร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าของเราด้วย นับเป็นการสนับสนุนให้ไทยน้ำทิพย์กลายเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ลูกค้าอยากทำงานด้วย”
ในช่วงต้นปีนี้ กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลาในประเทศไทยได้ประกาศลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาทเพื่อขยายขีดความสามารถในด้านการผลิต ซึ่งประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในตลาดที่มีอัตราการเติบโต รวดเร็วที่สุดในโลก โดยที่แบรนด์สินค้าของโคคา-โคลามีการเติบโตในอัตรา 27% ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2556