HomeFeaturedรู้ลึก รู้จริง Digital Natives บริโภคสายพันธุ์ใหม่ นักการตลาดต้องรู้ !!

รู้ลึก รู้จริง Digital Natives บริโภคสายพันธุ์ใหม่ นักการตลาดต้องรู้ !!

แชร์ :

 

digital native mindshare research

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

มายด์แชร์ ประเทศไทย (Mindshare Thailand)  เอเยนซี่เครือข่ายด้านการตลาดและการสื่อสาร  เผยผลการวิจัย “Growing Up as Digital Natives” งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ใช้ทำการศึกษาโดย วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) และร่วมเฝ้าสังเกตุพฤติกรรม กลุ่มเป้าหมายที่ทำการศึกษาคือ กลุ่มผู้ใช้อินเตอร์เน็ตอายุ 9-24ปี ประกอบกับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ (Quantitative Analysis) วัตถุประสงค์การทำวิจัยในครั้งนี้เพื่อมุ่งสำรวจพฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ต และทำความเข้าใจผลกระทบจากโลกดิจิตอลของกลุ่มดิจิตอลเนทีฟ (Digital Natives)  Brand Buffet สรุปสาระสำคัญดังนี้

 

ดิจิตอลเนทีฟ (Digital Natives) คือ ?

กลุ่มคนที่เกิดหรือเติบโตในยุคเทคโนโลยีดิจิตอลและคุ้นเคยกับการใช้คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ดิจิตอล และอินเตอร์เน็ต  จากสถิติพบว่าประมาณ 51 % ของประชากรผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทยเป็นดิจิตอลเนทีฟ (Digital Natives)  ซึ่งคิดเป็น 13% ของจำนวนประชากรอายุ 14-65 ปี หรือคิดเป็น 8,570,890 คน

 Thai Internet user Digital Natives

“ดิจิตอลเนทีฟ (Digital Natives)  ในงานวิจัยได้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ

1. Digitally Born  2.  Evolving Digital

 

1. กลุ่ม Digitally Born

กลุ่มวัยรุ่นที่ใช้อินเตอร์เน็ตที่มีอายุระหว่าง 14-17 ปี (88%)

เริ่มใช้อินเตอร์เน็ตตั้งแต่อายุ 9 ปี เด็กกลุ่มนี้รู้จักและใช้อินเตอร์เน็ตเป็นจากสิ่งแวดล้อม เช่น  โรงเรียน  ครอบครัว และ เพื่อน   และเนื่องจากยังเป็นนักเรียน เด็ก ยังไม่มีเงินมากนักกลุ่มนี้จึงไม่ใช่กลุ่มที่ใช้อินเตอร์เน็ตตลอดเวลา (Always on)  แต่ใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อเชื่อมต่อระหว่างเพื่อนๆ เช่นใช้เพื่อแชทไลน์ (Line) ใช้เข้าโซเซียลเน็ทเวิร์ค (Social network) เพื่ออัพเดทและติดตามสถานะ  และ “เพื่อน” จึงมีบทบาทสำคัญมากต่อกิจกรรมของพวกเขา    ส่วนเพื่อความบันเทิง เช่น ดูรายการทีวีออนไลน์ หรือเล่นเกมออนไลน์ ยูทูป ผ่านทางสมาร์ทโฟนที่พวกเขาสามารถเชื่อมต่อได้ง่าย รวดเร็วและทุกที่ ดังนั้น gadget ที่พวกเขาต้องมี คือ  สมาร์ทโฟน   และเด็กกลุ่มนี้ยังมีพฤติกรรมการหาข้อมูล (Search)เพื่อทำการบ้านบ้าง

ส่วนเรื่องการช๊อปปิ้งออนไลน์เด็กกลุ่มนี้จะยังไม่เริ่ม  เนื่องจากยังไม่มีเงิน หรือบัตรเครดิต  นอกจากนี้จากการศึกษาพบว่า ผู้บริโภคกลุ่มนี้จะกลายเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญสำหรับการทำการสื่อสารผ่านทีวีดิจิตอลในอนาคตอันใกล้นี้  เนื่องจากทีวียังมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันและดารายังคงเป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลต่อเด็กกลุ่มนี้    

digitally born

 

กิจกรรม  ใน 1 วัน (เกี่ยวกับจอ)

77 เล่นอินเตอร์เน็ต 1-4 ชม.

54%   ดูทีวี  1-4 ชม.

36%   เข้าอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือ 

58%   ดูวีดีโอออนไลน์/ทีวีออนไลน์ อย่างน้อย 30 นาที


digital born activities with screen

 

 

2. กลุ่ม  Evolving Digizen

กลุ่มผู้บริโภคที่ใช้อินเตอร์เน็ตที่มีอายุระหว่าง 18-24 ปี (65%)  มีอัตราการเติบโตสูงไม่เท่ากับ  Digitally Born

ครึ่งหนึ่งของกลุ่มนี้ใช้อินเตอร์เน็ตตลอดเวลาผ่านทางสมาร์ทโฟนและแทปเล็ต  ชีวิตประจำวันของวัยรุ่นกลุ่มนี้จะเริ่มจากการใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อค้นหาข้อมูล (Search Engine) และใช้เข้าโซเซียลเน็ตเวิร์คเพื่อสื่อสารระหว่างกลุ่มและหาเพื่อนใหม่ผ่านทางเฟซบุค คนกลุ่มนี้ยังชอบการติดตามข่าวสารผ่านทางบล็อค (Blog) โดยเฉพาะเว็บพันทิพ   รวมไปถึงการแชร์รูปภาพพร้อมเช็คอินสถานที่แบบเรียลไทม์ และเฝ้าจับตามองไลฟ์สไตล์การแต่งตัวของเหล่าคนดังผ่านทางอินสตาแกรม แล้วนำมาปรับให้เข้ากับบุคลิกและสไตล์ของตนเอง   ดังนั้นการใช้อินเตอร เน็ตของกลุ่มนี้เพื่อวัตถุประสงค์ค่อนข้างหลากหลายกว่า Digitally Born

84% ของผู้บริโภคกลุ่มนี้เชื่อว่าอินเตอร์เน็ต  คือ  แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ผู้บริโภคกลุ่มนี้มีความหลากหลายในการใช้อินเตอร์เน็ตมากกว่ากลุ่มแรก และ 19% ของผู้บริโภคกลุ่มนี้เริ่มช๊อปปิ้งออนไลน์ และผู้บริโภคกลุ่มนี้โดยส่วนใหญ่มีการค้นหาข้อมูลออนไลน์เกี่ยวกับสินค้าที่พวกเขาสนใจจะซื้อ ดังนั้นในอนาคตเด็กกลุ่มนี้น่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญที่ให้ความสนใจในเรื่องอีคอมเมิร์ส (E-Commerce)

 Evolving Digizen Mindshare

กิจกรรมออนไลน์ยอดฮิต (Top Online Activities )

1. Search Engine  93%

2. Social Networking  89%

3. Online Video  75%

4. Email  64%

5. Listen to Music  64%

6. Instant Messaging  62%

top online activities

 

+++ 8  เทคนิคสื่อสาร เจาะกลุ่ม Digital Natives +++

1) ตอบสนองความต้องการหลักของกลุ่มนี้ให้ตรงจุด (Cater to their needs) ซึ่งก็คือ ความสะดวกและความรวดเร็ว  อย่าขั้นตอนเยอะ  ถ้าหากมีของฟรีหรือของตัวอย่างให้ลองจะดีมาก

2) ทำให้แบรนด์อยู่ในทุกที่ที่กลุ่มนี้เข้าถึง (Be everywhere)  Search Engine Marketing (SEM) คือ  เครื่องมือสำคัญสำหรับกลยุทธ์ “Always on”ในการผลักดันให้แบรนด์ปรากฏอยู่ในสายตาของกลุ่มดิจิตอลเนทีฟ

3) ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม ช่องทางการสื่อสารที่มีอยู่แล้ว (Utilize key players) นักการตลาดควรใช้ช่องทางหลักๆที่มีอยู่แล้วในโลกออนไลน์ เช่น เฟซบุค ยูทูป อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ ไลน์ รวมไปถึงพันทิพ เป็นต้น เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มนี้ เพราะผู้บริโภคกลุ่มนี้ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว

4) สื่อสารผ่านมือถือและแท็ปเล็ต (Mobilize to meet them) เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มนี้ไม่สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้โดยปราศจากการใช้มือถือและแท็ปแล็ตในการสื่อสารและใช้อินเตอร์เน็ต ดังนั้นนักการตลาดจึงไม่ควรละเลยช่องทางการสื่อสารนี้ในการเข้าถึงดิจิตอลเนทีฟ

5) สร้างเนื้อหาให้แปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร (Make it unconventional) ในการดึงความสนใจจากผู้บริโภคกลุ่มนี้ นักการตลาดควรสื่อสารด้วยเนื้อหาที่ให้ความบันเทิง น่าตื่นเต้น และน่าค้นหา และต้องเป็นเรื่องที่มีความทันสมัยกับสถานการณ์ในสังคมที่กำลังเกิดขึ้นเพื่อให้ผู้บริโภคเหล่านี้สามารถแชร์และส่งต่อกันได้

6) พลังของปากต่อปาก (Don’t ignore the power of WOM) ยังคงเป็นสิ่งหลักที่นักการตลาดควรให้ความสำคัญในการสื่อสารกับกลุ่มนี้ เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มนี้ใช้การสื่อสารหลักผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิรค์ และการแชร์ความเห็นต่างๆผ่านกลุ่มเพื่อน

7) เข้าหาด้วยเกมส์และกลุ่มเพื่อน (Gamify with friends) กลยุทธ์นี้มีบทบาทเป็นอย่างยิ่งต่อกลุ่ม “Digitally Born” เพราะผู้บริโภคกลุ่มนี้ชอบเล่นเกมส์ โดยเฉพาะหากได้เล่นกับเพื่อนผ่านช่องทางออนไลน์

8) ปรับตัวตามได้อย่างรวดเร็ว (Be ADAPTIVE) พฤติกรรมออนไลน์ของกลุ่มดิจิตอลเนทีฟสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เพราะพวกเขาเติบโตขึ้นในสังคมที่เทคโนโลยีดิจิตอลมีการเติบโตและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นนักการตลาดจึงควรมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในโลกปัจจุบัน


แชร์ :

You may also like