เคทีซี ปักธงวิสัยทัศน์ใหม่ “Make it Better” ชูนโยบายการทำธุรกิจควบคู่การทำกิจกรรมเพื่อสังคมให้ดีขึ้นกว่าเดิม ตอกย้ำความเป็น Membership Company และองค์กรแห่งความรู้เพื่อการแบ่งปัน โดยประสานความร่วมมือกับพนักงาน สมาชิก พันธมิตรธุรกิจ จัดขบวนกิจกรรมอัดแน่นตลอดปี 2557 สร้างคุณค่าสูงสุดอย่างยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแบบองค์รวม พร้อมดูแลด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา ให้กับเยาวชนและนิสิต นักศึกษาโครงการ Learn & Earn @ KTC ใน 3 ด้านหลัก คือ การพัฒนา การเตรียมพร้อมรับ AEC และการปลูกฝังความเป็นผู้ให้
นางอุบลรัตน์ บุษยะกนิษฐ์ ผู้บริหารสูงสุด – ทรัพยากรบุคคล “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เคทีซีเป็นสถาบันการเงินที่เป็น Membership Company ซึ่งมีสมาชิกทุกภาคส่วนเป็นศูนย์กลาง โดยนอกเหนือจากการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมเพื่อสร้างประโยชน์ต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาเคทีซีเน้นการทำกิจกรรมเพื่อสังคมในเรื่องที่ใกล้ตัว โดยการสนับสนุนกลุ่มเยาวชนเป็นเป้าหมายหลักในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการริเริ่มโครงการ Learn & Earn @ KTC ขึ้นเองถึงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชน และร่วมสร้างอาชีพ รายได้พิเศษ และปลูกฝังการบริหารเงินที่มีประสิทธิภาพให้กับเยาวชนในระดับอุดมศึกษา”
“สำหรับนโยบายการทำกิจกรรมเพื่อสังคมของเคทีซีในปี 2557 และจากนี้ไป จะมีการปรับเสริมกระบวนทัศน์ของจุดหมายธุรกิจให้เข้มข้นยิ่งขึ้น เน้นการสร้าง “คุณค่าสูงสุด” และ การสร้าง “ความยั่งยืนขององค์กร” เป็นสำคัญ ด้วยเป้าหมายเชิงสังคมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน คำนึงถึงการตอบสนองความต้องการและการกระจายผลประโยชน์ให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมไปถึงการส่งเสริมสภาวะความเป็นอยู่ที่ดีและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม”
“สำหรับกลยุทธ์การทำกิจกรรมเพื่อรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR ของเคทีซี ในปี 2557 นี้ จะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก คือ ในส่วนของธุรกิจ จะยังคงเดินหน้าสนับสนุนให้สมาชิกบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลมีการวางแผนใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล เพื่อไม่ให้เกิดภาระหนี้เกินความจำเป็น รวมถึงวิเคราะห์พัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และสร้างสรรค์กิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่เป็นประโยชน์และตรงกับความต้องการของสมาชิก รวมทั้งมุ่งให้ความรู้ในรูปแบบของ กิจกรรม Knowledge Sharing และพัฒนาศักยภาพช่วยเหลือแบ่งเบาภาระสมาชิกในรูปแบบต่างๆ
ภายในองค์กร บริษัทฯ มุ่งสร้างสภาพแวดล้อมและบรรยากาศให้พนักงานทุกคนทำงานและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข มีความรักในองค์กร และมีส่วนร่วมเป็นเนื้อเดียวกับองค์กร รวมทั้งปลุกจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมให้เกิดขึ้นกับพนักงานทุกระดับอย่างจริงจังและต่อเนื่อง อีกทั้งมีส่วนร่วมคิดสร้างสรรค์และแสดงออกอย่างเต็มใจ
ภายนอกองค์กร เคทีซียังคงมุ่งเน้นการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้สมบูรณ์อย่างต่อเนื่อง โดย มุ่งส่งเสริม 4 ด้านคือ ร่างกาย / อารมณ์ / สังคมและสติปัญญา เพราะเราต้องการเห็นอนาคตของชาติเป็นคนที่ ”แข็งแรง เก่ง ดี มีสุข” โดยการจุดประกายความคิด และปลูกฝังแนวคิดให้เยาวชนมีศักยภาพในการเลี้ยงดูตนเองได้อย่างยั่งยืน การแบ่งปันความรู้ที่เป็นประโยชน์จากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้เกิดการซึมซับและนำไปปรับใช้ทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงการสร้างชุมชนสัมพันธ์ โดยแบ่งเป้าหมายเป็น 2 กลุ่ม คือ เยาวชนที่สังกัดในโครงการฯ ของเราเองคือ โครงการ Learn & Earn @ KTC และเยาวชนต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน รวมไปถึงเด็กพิเศษที่ต้องการโอกาส
นอกจากนี้ยังร่วมกับสมาชิกบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลนำคะแนนสะสมเปลี่ยนเป็นเงินบริจาคเพื่อส่งมอบให้กับมูลนิธิสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสต่างๆ ซึ่งปัจจุบันได้เข้าร่วมกับบริษัทฯ แล้วถึง 23 แห่ง” “สำหรับแผนงานของเคทีซีในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมสำหรับภายนอกองค์กร และโครงการ Learn & Earn @KTC ในปี 2557 จะเน้นการพัฒนาศักยภาพเยาวชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน และเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ภายใต้แนวคิด “เด็กไทย รู้รักษ์ไทย ก่อนก้าวไป AEC” โดยแบ่งเป็น 3 องค์ประกอบหลัก คือ
1) การพัฒนาทักษะความรู้ในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ คอร์สเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร การแนะแนวทางการศึกษาต่อ
2) การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้เพื่อเปิดโลกทัศน์และสร้างแรงบันดาลใจ โดยเปิดห้องเรียนในแต่ละหมวดวิชาให้น้องๆ ได้เลือกตามความสนใจ โดยเริ่มจากกิจกรรมแรกในวันนี้กับเวิร์คช้อปในหัวข้อ “CSR & Social Enterprise Workshop for Learn & Earn @ KTC” ซึ่งเป็นการเปิดมุมมองใหม่ในการทำธุรกิจที่เน้นการทำ CSR ผ่านการเรียนรู้เชิงปฏิบัติการ โดยเรียนรู้จากตัวอย่างของคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ น
3) ร่วมปลูกฝังบทบาทของการเป็น “ผู้ให้” โดยสนับสนุนให้เยาวชนได้มีส่วนร่วมในการคิดและร่วมกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ด้อยกว่า ในฐานะพลเมืองที่ดีของสังคมอีกด้วย” นางอุบลรัตน์กล่าวปิดท้าย