แม้การช้อปปิ้งออนไลน์ยังคงเติบโตอย่างไม่หยุดหย่อน แต่เหล่าผู้บริโภคที่ชื่นชอบความสะดวกสบายของการช้อปปิ้งผ่านสมาร์ทโฟนนั้นก็ยังคงมีจำนวนมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยผลสำรวจล่าสุดเกี่ยวกับการช้อปปิ้งออนไลน์ของ “มาสเตอร์การ์ด” ได้เผยว่านักช้อปชาวจีนและชาวไทยจำนวนเกินครึ่ง (59.4% และ 51.2% ตามลำดับ) ได้จับจ่ายซื้อสินค้าผ่านอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ของพวกเขา
ผลสำรวจดังกล่าวเป็นตัวชี้วัดแนวโน้มของผู้บริโภคด้านการช้อปปิ้งออนไลน์ โดยได้ทำการสำรวจใน 25 ตลาด ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2556 รายงานสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประกอบไปด้วยการสัมภาษณ์ผู้เข้าร่วมจำนวน 7010 คนจาก 14 ตลาด ซึ่งถูกถามคำถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์ของพวกเขา ผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกจำนวนสองในสามจับจ่ายใช้สอยผ่านช่องทางออนไลน์ โดยผู้เข้าร่วมการสำรวจในประเทศจีนเกือบ 100% ระบุว่าพวกเขาได้ซื้อของออนไลน์อย่างน้อยหนึ่งครั้งในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ตามด้วยผู้บริโภคในเกาหลีใต้ (97%) และออสเตรเลีย (90%) ที่หลงใหลการช้อปปิ้งบนอินเทอร์เน็ตไม่แพ้กัน
นอกจากนั้น ผลสำรวจยังเผยให้เห็นอีกว่า ผู้ร่วมการสำรวจจากอินเดียที่ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการช้อปปิ้งนั้น พุ่งสูงจากร้อยละ 53.1 ในปี 2555 เป็นร้อยละ 80 ในปี 2556 ส่งผลให้ตัวเลขของชาวอินเดียที่ช้อปปิ้งออนไลน์ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 70.9 ในปี 2555 เป็นร้อยละ 87.8 ในปี 2556
ช้อปปิ้งด้วยมือถือ
ความแพร่หลายของโทรศัพท์มือถือที่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ ทำให้ผู้บริโภคหันมาช้อปปิ้งผ่านทางโทรศัพท์มือถือ โดยได้รับความนิยมมากที่สุดในจีน (59.4%) ไทย (51.2%) อินเดีย (47.1%) และอินโดนีเซีย (46.7%)
ในแง่ของอัตราการเติบโต ตลาดหลักๆ ที่มีแนวโน้มการช้อปปิ้งผ่านมือถือเพิ่มมากขึ้นนั้นได้แก่ไต้หวัน (เพิ่มขึ้น 17% จากปี 2555) อินเดีย (เพิ่มขึ้น 16.8%) และฟิลิปปินส์ (เพิ่มขึ้น 11.4%) ในขณะที่ผู้บริโภคจากนิวซีแลนด์ (15.0%) ญี่ปุ่น (22.9%) และออสเตรเลีย (24.8%) มีความตั้งใจในการช้อปผ่านมือถือลดน้อยลง
จากทั้ง 14 ตลาดในเอเชียแปซิฟิก เหตุผลอันดับต้นๆ ที่ทำให้คนหันมาช้อปปิ้งออนไลน์นั้นได้แก่ ความสะดวกสบาย (46.8%) ความสามารถในการช้อปได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด (41.3%) และการเพิ่มขึ้นของแอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้การช้อปปิ้งออนไลน์นั้นง่ายยิ่งขึ้น (40.8%) โดยสินค้าประเภทเสื้อผ้าและแฟชั่นได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการช้อปปิ้งผ่านสมาร์ทโฟน (26.0%) ตามมาด้วยการซื้อแอพพลิเคชั่น (22.4%) และเพลง (18.8%)
สำหรับการช้อปปิ้งผ่านโทรศัพท์มือถือในประเทศไทยนั้น ความสะดวกสบายมีความสำคัญสำหรับชาวไทยค่อนข้างมาก (59.8%) ตามด้วยจำนวนแอพพลิเคชั่นออนไลน์ช้อปปิ้งที่เพิ่มขึ้น (51.0%) และที่น่าแปลกใจก็คือ ผู้บริโภคชาวไทยถึงร้อยละ 61.4 ชื่นชอบการช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านคอมพิวเตอร์มากกว่าการซื้อของในร้านค้าปกติ (51.6%) ตามด้วยการช้อปปิ้งด้วยแทบเล็ต (40.1%)
ปิแอร์ เบอร์เรต์ หัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คณะที่ปรึกษามาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่สินค้าประเภทเสื้อผ้าและเครื่องประดับแฟชั่นได้แซงขึ้นอันดับ 1 นำหน้าแอพพลิเคชั่นสำหรับประเภทสินค้าที่ถูกซื้อผ่านสมาร์ทโฟน สิ่งนี้เป็นเครื่องบ่งชี้ด้านความแข็งแกร่งและความสำเร็จของร้านค้าในการสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งผ่านมือถือที่ดีและสะดวกขึ้นให้แก่ผู้บริโภค”
ส่วนเทคโนโลยีใหม่ๆ บนมือถือก็ยังคงดึงดูดความสนใจในหมู่ผู้บริโภคทั่วภูมิภาคด้วยเช่นกัน โดยแอพพลิเคชั่นแนว mobile banking มีระดับความสนใจและความคุ้นเคยจากผู้บริโภคมากถึงร้อยละ 48.7 ตามด้วยแอพช้อปปิ้งผ่านเกมส์บนมือถือ (in-game-app shopping) อยู่ที่ร้อยละ 35.7 และแอพช้อปปิ้งผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค (in-social-networking-app shopping) อยู่ที่ร้อยละ 34.9
ความปลอดภัยยังคงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิกให้ความสำคัญเป็นหลักเมื่อช้อปปิ้งออนไลน์ (85.3%) โดยผู้ร่วมการสำรวจจากอินโดนีเซีย (92%) จีน (91.8%) มาเลเซีย (91.2%) สิงคโปร์ (89.8%) และออสเตรเลีย (89.3%) ต่างกล่าวว่าความปลอดภัยเป็นประเด็นหลักที่พวกเขาให้ความสนใจ ตามด้วยคุณค่าของสินค้า (84.8%) และความสะดวกในการชำระเงิน (84.6%)
“ผลสำรวจแสดงให้เห็นถึงความต้องการอย่างแรงกล้าทั้งในด้านความปลอดภัยและโซลูชั่นการชำระเงินที่สะดวกสบายให้แก่ผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิก ผู้ซึ่งก้าวเข้าสู่ไลฟ์สไตล์แบบดิจิตัลมากขึ้นเรื่อยๆ มาสเตอร์การ์ดทุ่มเทอย่างมากเพื่อมอบความสะดวกและตัวเลือกในการชำระเงินที่ปลอดภัย เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งไร้รอยต่อที่ดียิ่งขี้นกว่าเดิม” ปิแอร์ กล่าวเสริม