HomeBrand Move !!การตลาดดับร้อน! เครื่องดื่มเปิดศึก”ไซซิ่ง”รุกซัมเมอร์ สลิมแคนมาแรง!

การตลาดดับร้อน! เครื่องดื่มเปิดศึก”ไซซิ่ง”รุกซัมเมอร์ สลิมแคนมาแรง!

แชร์ :

 beverage drink market

เครื่องดื่มเข้มกลยุทธ์ “ไซซิ่ง” เปิดศึกซัมเมอร์พิชิตคู่แข่งไซซ์ 10 บาทสุดฮิตอุดช่องโหว่ “กำลังซื้อ” ด้าน “สลิมแคน” พระเอกชูโรง ทุกค่ายเรียงคิวปรับโฉม ล่าสุด “เย็นเย็น” เปิดตัวกระป๋องสลิม 12 บาท เพิ่มพื้นที่เชลฟ์ในโมเดิร์นเทรด เล็งลงทุน 500 ล้านสร้างไลน์ผลิตกระป๋อง ด้าน “เอส” ชูไซซิ่ง “คุ้มค่า” กระตุ้นยอด เร่งอุดช่องว่างในโมเดิร์นเทรดสู้โค้ก-เป๊ปซี่

ADFEST 2024

Santos Or Jaune


“ซัมเมอร์นี้” แม้กำลังซื้อและภาวะเศรษฐกิจไม่เป็นใจ แต่การแข่งขันในตลาดเครื่องดื่มยังคงทวีความดุเดือด โดยพระเอกยังคงเป็น “น้ำอัดลม” ต้อนรับฟุตบอลโลกที่กำลังจะมาถึงในอีก 2-3 เดือนข้างหน้ากับเจ้าประจำ “ชาเขียว” โดยมีน้องใหม่มาแรงเครื่องดื่ม “สมุนไพร” เป็นตัวสอดแทรกเข้ามากระตุ้นตลาดอีกแรง

อย่างไรก็ตาม สังเกตได้ว่ากลยุทธ์ที่ทุกค่ายงัดมาใช้ปีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของ “รสชาติใหม่ ๆ” หรือโปรโมชั่นที่ดุเดือดเหมือนปีที่ผ่านๆ มาแต่กลับเป็นเกมของ “ไซซิ่ง” โดยมีความหลากหลายของ “แพ็กเกจจิ้ง” มาเป็นหัวหอกในการพิชิตศึกหน้าร้อนนี้

สลิมแคน” แรงฉุดไม่อยู่ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้แพ็กเกจจิ้งที่มาแรงที่สุดของตลาดเครื่องดื่มที่เป็นกระแสมาตั้งแต่ปีที่แล้ว คือ “สลิมแคน” หรือกระป๋องทรง “ผอมสูง” แทนกระป๋องรูปทรงเดิมที่ใช้มาอย่างยาวนานในตลาดเครื่องดื่มเมืองไทย โดยเฉพาะน้ำอัดลม ทั้งนี้ กระแสดังกล่าวมี “เป๊ปซี่” เป็นผู้นำเทรนด์ หลังเปิดตัวกระป๋องสลิมมาแทนที่กระป๋องทรงเดิมตั้งแต่กลางปีที่แล้ว

ขณะเดียวกันก็ใช้กลยุทธ์ไซซิ่งเจาะเข้ามาในช่องว่างตลาด โดยปรับขนาดและราคาจาก 325 มล. 14 บาท เหลือ 245 มล. ราคา 12 บาท เหมาะต่อการดื่ม 1 ครั้ง ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้มากกว่าในราคาที่ถูกกว่า จนเมื่อกลางกุมภาพันธ์โคคา-โคลาก็เปิดตัวโค้ก “กระป๋องสลีค” ขนาด 325 มล.และ “กระป๋องสลิม” ขนาด 240 มล. ตามเทรนด์ของคนรุ่นใหม่เช่นเดียวกัน

แหล่งข่าวจากบริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังเปิดตัวไปเมื่อกลางกุมภาพันธ์ ได้รับการตอบรับที่ดีมาก จากการทำเทสต์ชัดเจนว่าผู้บริโภคชอบโค้กมากขึ้น

“โคคา-โคลาเมืองนอกมีแพ็กเกจจิ้งหลากหลายมาก เราก็เลือกที่ถูกใจผู้บริโภคคนไทย จริง ๆ แพ็กเกจจิ้งทรงนี้มีในไทยหลายปีแล้ว แต่อยู่ทางภาคใต้ในส่วนของหาดทิพย์ เน้นเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว เพิ่งมาปรับทั้งประเทศเมื่อต้นปี เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคซึ่งชื่นชอบดีไซน์ลักษณะนี้ ทำให้เกิดความตื่นเต้น”

นอกจากตลาดน้ำอัดลมแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปลายปีก่อน “สปอนเซอร์” ก็เปิดตัวกระป๋องรูปแบบใหม่ “สลีคแคน” ที่นอกจากลดการใช้อะลูมิเนียมลงแล้ว ที่สำคัญคือการขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ โดยเฉพาะเจาะกลุ่มนักปั่นจักรยานซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ จากขนาดกระป๋องที่พอดีในการพกพา

ส่วนรายล่าสุดที่เตรียมร่วมขบวน คือ “เอส” ของเสริมสุข ที่เตรียมเข็น “สลิมแคน”ในราคา 10 บาท ออกมาชิงชัยตามเทรนด์ที่เกิดขึ้น รวมถึงอิชิตันก็ส่ง “เย็นเย็น” สลิมแคนออกมาเขย่าตลาดตั้งแต่ปลายมีนาคมที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน

10 บาทอุดช่องว่างกำลังซื้อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การใช้กลยุทธ์ไซซิ่งที่ชัดเจนขณะนี้ คือ กรณีที่ทุกค่ายยังหันมาแข่งในไซซ์ 10 บาท ที่ชูจุดขาย “ซื้อง่ายไม่ต้องทอน” ทั้งโค้ก เป๊ปซี่ และเอส ที่โปรโมตขนาดนี้กันอย่างเต็มที่ เพื่อตอบโจทย์

กำลังซื้อในช่วงนี้ โดยรายที่ชัดเจนที่สุดคือ เป๊ปซี่ที่เปิดตัว

“เป๊ปซี่ เท็น” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ซ่าเต็มที่…เป๊ปซี่สิบบาท” ขวดเพ็ตรูปทรงใหม่ราคา 10 บาท เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่องทางร้านอาหารที่ยังเป็น “ช่องโหว่” สำคัญของเป๊ปซี่จากการไม่มีขวดแก้ว โดยใช้เมสเซจที่ว่า “ไม่ต้องวางมัดจำค่าขวด ไม่ต้องเผชิญกับปัญหาขวดแตก และขวดเปล่าใช้แล้วยังสามารถนำไปขายทำกำไรได้อีกต่อ” แก่ผู้ประกอบการ ร้านค้า-ร้านอาหาร

นายจรณชัย ศัลยพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริษัทสัมพันธ์ บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า เป๊ปซี่ขวดเพ็ตขนาด 345 มล. ราคา 10 บาท รูปทรงใหม่จะเป็นหัวหอกในการรุกช่องทางร้านอาหาร โดยปรับให้เป็นทรงสลิมที่มีความทันสมัย และเหมาะกับช่องทางดังกล่าวมากขึ้น

ขณะที่โค้กก็ปรับกระป๋อง “โค้ก มินิ” 10 บาท มาเป็น “สลิมแคน” เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่วนเอสก็เตรียมออกกระป๋องสลิม 10 บาท ออกมาอุดช่องว่างเรื่องกำลังซื้อเช่นเดียวกัน จากเดิมที่มีขนาดแพ็กเกจจิ้งที่เป็นขวดแก้ว “คูลแฮนด์” 250 มล. ราคา 10 บาทอยู่แล้ว

“ตัน” ทุ่ม 500 ล.ผุดไลน์กระป๋อง

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการบริษัท อิชิตัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทได้เปิดตัวไซซิ่งใหม่ของชาเขียวผสมจับเลี้ยงแบรนด์ “เย็นเย็น” เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ในขนาด 240 มล. ราคา 12 บาท เพื่อขยายช่องทางจำหน่ายของเย็นเย็น รวมถึงการเพิ่มพื้นที่เชลฟ์ในโมเดิร์นเทรด ทำให้มีสินค้าในราคาและขนาดที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้หลากหลาย ช่วยเพิ่มโอกาสการดื่มมากขึ้น

ปัจจุบันเย็นเย็นมีขนาด 400 มล. ในราคา 15 บาท ซึ่งขณะนี้มีการจัดโปรโมชั่น 2 ขวด 20 บาทในร้านเซเว่นฯ เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงหน้าร้อน

นอกจากนี้ ยังมีกล่องยูเอชทีขนาด 250 มล. ในราคา 10 บาท

นายตันกล่าวว่า “สลิมแคน” กำลังเป็นเทรนด์ของเครื่องดื่ม โดยแพ็กเกจจิ้งและไซซิ่งใหม่ ๆ นั้นถือว่ามีผลต่อการขาย ทำให้ผู้บริโภคเกิดความตื่นเต้น การเลือกเปิดตัวแพ็กเกจจิ้งนี้กับเย็นเย็น เพราะวางเป็นไฮไลต์ของอิชิตันตลอดปีนี้ ปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 8% ในตลาดชาเขียว 16,500 ล้านบาท โดยตั้งเป้า 25% ในสิ้นปีนี้ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า

“ข้อดีของกระป๋องยังให้อารมณ์ของความเย็นได้มากกว่า โดยเฉพาะเวลาแช่น้ำแข็งจะดีกว่าเมื่อเทียบกับกล่องยูเอชที เพราะเย็นเร็ว และไม่เปื่อย”

นายตันกล่าวอีกว่า การเปิดตัวแคนถือเป็นครั้งแรกของอิชิตัน ขณะนี้ยังใช้รูปแบบจ้างผลิต แต่หากได้รับการตอบรับที่ดีก็มีแผนจะขยายไปสู่เครื่องดื่มตัวอื่นๆ โดยจะใช้เวลาทดลองประมาณ 6 เดือน โดยมีแผนลงทุนไลน์การผลิตกระป๋องอย่างจริงจังในอนาคต โดยใช้พื้นที่ส่วนต่อขยายของโรงงานเดิมที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ พระนครศรีอยุธยา ซึ่งต้องใช้งบฯ 400-500 ล้านบาท

“เอส” ส่งไซซิ่งสู้โค้ก-เป๊ปซี่

ขณะที่ “เอส” เตรียมปรับโฉมรูปลักษณ์กระป๋องใหม่ในต้นเดือนเมษายนนี้ หนึ่งในนั้นคือ สลิมแคน 10 บาท แหล่งข่าวจากบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) กล่าวว่ากลยุทธ์ช่วงซัมเมอร์นี้นอกจากกิจกรรมตลาดยังมีแพ็กเกจจิ้งใหม่ ๆ อีกหลายขนาดทั้งขวดเพ็ต กระป๋อง และขวดแก้ว โดยแนวทางจะแตกต่างจากทางโคคา-โคลาและเป๊ปซี่ ไฮไลต์คือการเปิดตัวไซซ์ขนาดราคาประหยัด คุ้มค่า ตอบโจทย์กำลังซื้อผู้บริโภค

“เอสจะไม่ใช่แค่เปิดตัวสลิม แต่จะมีอีกหลากหลายขนาดที่จะออกมาเผด็จศึกในช่วงซัมเมอร์และตลอดปีนี้ มาจากที่เราได้ทดลองทำตลาดหลาย ๆ ไซซ์มากว่า 1 ปี ทำให้เกิดการเรียนรู้ว่าไซซ์ไหนตอบโจทย์ผู้บริโภค บางไซซ์ก็จะดึงออกแล้วเอาไซซ์ใหม่เข้าไป โดยเน้นกระตุ้นทั้งโมเดิร์นเทรด ร้านค้า และร้านอาหาร”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันช่องทางโมเดิร์นเทรดถือเป็นจุดที่เอสยังไม่แข็งแกร่งมากนัก เนื่องจากเป็นช่องทางที่ผู้บริโภคจะเลือกที่ “แบรนด์” ที่คุ้นเคยเป็นหลัก แตกต่างจากช่องทางร้านอาหาร ซึ่งเอสเป็นผู้นำอยู่ในปัจจุบัน

ขณะเดียวกัน เนื่องจาก “เป๊ปซี่” ซึ่งไม่มีขวดแก้ว ทำให้สรรพกำลังทั้งหมดจึงทุ่มมาที่โมเดิร์นเทรดผ่านกลยุทธ์ไซซิ่งกับขวดเพ็ต โดยใช้ขนาด Super Value Pack ที่ทำให้ราคาต่อหน่วยของเป๊ปซี่ในโมเดิร์นเทรดต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับน้ำอัดลมค่ายอื่นๆ เป็นผลให้เป๊ปซี่สามารถครองแชมป์อันดับ 1 ตลาดน้ำดำในตลาดโมเดิร์นเทรดได้กว่า 40% เมื่อสิ้นเมษายนปีที่แล้ว หลังจากวางตลาดได้ 6 เดือน

 

Partner : ประชาชาติธุรกิจ


แชร์ :

You may also like