ไทย รัฐทีวีทุ่ม 6 พันล้านลุยทีวีดิจิทัล ดึงจุดแข็งคอนเทนต์ข่าว จับมือพันธมิตรจ้างผลิตรายการบันเทิง เร่งแคมเปญชิงโชคเปลี่ยนผู้อ่านเป็นผู้ชม เผยเรตโฆษณา 1.25 แสน ปลายปีลุย Connected TV เชื่อมต่อโมบาย คาดรายได้สิ้นปี 500 ล้าน คืนทุน 7 ปี
นาย วัชร วัชรพล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 HD ระบุว่า บริษัทได้ทุ่มงบฯโปรเจ็กต์ทีวีดิจิทัลระยะ 15 ปีจากนี้เป็นงบฯ 6 พันล้านบาท ต่อยอดธุรกิจเดิมและขับเคลื่อนตามการพัฒนาของสังคมที่เปลี่ยนไป แบ่งเป็นค่าไลเซนส์ 3.5 พันล้านบาท และการลงทุนต่าง ๆ อีก 2.5 พันล้านบาท ปีแรกจะใช้งบฯลงทุน 1 พันล้านบาท แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ เครื่องมือและเทคโนโลยีการผลิต 55% การผลิตคอนเทนต์ 45% การตลาดหรือส่งเสริมการขาย 5% ภายใต้สโลแกน “คิดต่างอย่างเข้าใจ” โดยไทยรัฐทีวีจะเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ข่าวทั้งหมด วางผังรายการในช่วงไพรมไทม์เป็นรายการข่าว ซึ่งแตกต่างจากช่องทั่วไปที่จะเป็น “ละคร” โดยยังคงกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มแมสเช่นเดียวกับไทยรัฐ
ขณะที่คอน เทนต์บันเทิงจะใช้การรับจ้างผลิต อาทิ ลักษ์ (666), กันตนา, โพลีพลัส, เจเอสแอล เป็นต้น ขณะนี้มีสัดส่วนของข่าวและบันเทิงอยู่ที่ 50-50 จากนี้จะยืดหยุ่นตามความเหมาะสม และการตอบรับของคนดู
ผังรายการเฟส แรกเริ่ม 24 เมษายนถึง 31 กรกฎาคมยังไม่มีละคร คาดว่าจะเริ่มกลางปีหน้า ขณะนี้มีการเช่าเวลาออกอากาศอยู่ที่ 10% ซึ่งพร้อมจะขยายให้ถึง 40% ตามที่ กสทช.กำหนดในอนาคต
นางสาวจิตสุภา วัชรพล เจ้าหน้าที่บริหารสายกลยุทธ์และการตลาด บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนตลาดช่วงแรกจะเน้นแนะนำและกระตุ้นให้เกิดการทดลองรับชม ซึ่งจะมีกิจกรรมชิง โชคเพื่อเปลี่ยนผู้อ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐมาเป็นผู้ชม ซึ่งปัจจุบันไทยรัฐมีผู้อ่านวันละ 1 ล้านฉบับ ตามสูตรของนีลเส็นคิดเป็นผู้ชมประมาณ 4 ล้านคน ในช่วงแรกตั้งเป้าดึงคนดู 50-60% ของจำนวนดังกล่าว
ขณะที่เฟส 2 หรือตั้งแต่สิงหาคม-กันยายน จะเริ่มสร้างฐานความนิยมให้กับรายการแม็กเนตต่าง ๆ ส่วนเฟส 3 ช่วงตุลาคม-ธันวาคมจะขับเคลื่อนสู่การเป็น Connected TV โดยเชื่อมต่อทีวีให้เข้ากับพฤติกรรมรับชมผู้บริโภคอย่างสมาร์ทโฟน
ส่วน อัตราค่าโฆษณาอยู่ในระดับเดียวกับผู้เล่นรายอื่น ๆ ที่ประมาณ 1.25 แสนบาท แต่ช่วงแรกเน้นขายแบบแพ็กเกจที่เรียกว่า Founder Sponsor ซึ่งปัจจุบันมีผู้สนับสนุน 5 ราย ได้แก่ เอไอเอส อีซูซุ ยูนิลี เวอร์ ธนาคารกรุงเทพ และเทสโก้ โลตัส ปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีรายได้ 500 ล้านบาทมาจากโฆษณาเป็นหลัก คาดว่าจะเริ่มมีกำไรในปีที่ 4 และคุ้มทุนใน 7 ปี รวมถึงต้องเป็น 1 ใน 5 ช่องที่ผู้บริโภคสามารถจดจำ (Top of Mind) ได้ภายใน 3 ปี
Partner : ประชาชาติธุรกิจ