หลังจากเปิดตัวแคมเปญชุดใหม่ AIS 3G 2100 “ดูแลกันด้วยใจ ไปต่อด้วยกัน”ซึ่งเป็นภาพยนตร์โฆษณาที่เล่าเรื่องความดูแลเอาใจใส่ที่พนักงานเอไอเอสมีต่อลูกค้าออกมา Brand Buffet ได้มีโอกาสพูดคุยกับ เป็ด-ชนัษฐพล เธียรศรี Creative Director บริษัท JWT Bangkok ครีเอทีฟผู้คิดงานโฆษณาชิ้นนี้แล้วพบว่า ความแปลกของโฆษณาที่เน้นสร้างภาพลัษณ์องค์กร (Corporate Image) ชิ้นนี้ มีมุมมองที่น่าสนใจหลายอย่าง และยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการคิดงานโฆษณา จึงสรุปออกมาเป็นประเด็นสำคัญดังนี้
1. แคมเปญ AIS 3G 2100 “ดูแลกันด้วยใจ ไปต่อด้วยกัน” มาจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง เมื่อลูกค้าของเอไอเอสไปเที่ยวที่เกาะห่างไกลไม่สามารถติดต่อกับใครได้แต่เกิดมีปัญหาเส้นเลือดในสมองแตก สิ่งที่หลายคนยังไม่รู้ก็คือ แม้ว่าโทรศัพท์จะอยู่ในที่ที่ไม่มีสัญญาณ ถึงอย่างไรก็ยังสามารถโทรติดต่อเข้า Call Center ได้ เอไอเอสจึงเลือกหยิบเอาเรื่องราวนี้มาชูในงานโฆษณา ซึ่งนับว่าเป็นความกล้าหาญและแปลกกว่าโฆษณาอื่นๆ ในธุรกิจโอเปอเรเตอร์ที่มักมุ่งเน้นเรื่องความแรง คมชัดของสัญญาณ แต่เอไอเอสกลับชูเรื่อง “บริการ” เป็นจุดเด่นในโฆษณา ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักของงานโฆษณาชิ้นนี้ที่อยากเน้นเรื่องความใส่ใจลูกค้า
2. คำว่า “ดูแลกันด้วยใจ ไปต่อด้วยกัน” มีความหมายถึงการดูแลกันและกันของทั้ง เอไอเอสและลูกค้า ที่คู่เคียงข้างกันเสมอมา และในฐานะที่เป็นเบอร์ 1 ในธุรกิจมาโดยตลอด เอไอเอสก็คาดหวังว่าลูกค้าจะอยู่เคียงข้างกันต่อไป กลุ่มเป้าหมายหลักของงานชิ้นนี้จึงเน้นไปที่ฐานลูกค้าเดิม ส่วนผู้บริโภคกลุ่ม Non-AIS ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายรอง แต่ก็อยากให้แบรนด์เอไอเอสอยู่ในใจผู้บริโภคทั่วไปเช่นกัน
3. ภาพยนตร์โฆษณาเรื่องนี้ ไม่เน้นการ Dramatize ให้ซึ้งหรือเศร้าไปเกินกว่าความเป็นจริง การที่มีคำถามว่าเรื่องราวในโฆษณาจริงหรือเปล่าถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่ทำให้เกิดคำถามและสนใจบริการของเอไอเอส
4. ความจริงแล้วเรื่องราวของงานโฆษณาชิ้นนี้ ครีเอทีฟมีหน้าที่นำเสนอเรื่องราวให้เหมาะสมพอเหมาะพอเจาะกับ Mood& Tone เท่านั้น สตอรี่บอร์ดที่เล่าเรื่องราวเป็นเรื่องที่เอไอเอสมีและพบเจออยู่แล้วทุกวัน บางเรื่องก็เป็นเรื่องน่ารักๆ เช่น มีลูกค้าโทรเข้ามาเพื่อให้ Call Center ร้องเพลงในช่วงวันเกิดของลูกค้า หรือบางเรื่องก็อาจจะมีอารมณ์ขันเกินไป กับเหตุการณ์ที่พนักงานเอไอเอสตั้งใจไปเยี่ยมลูกค้าที่โรงพยาบาล และนั่งรอเยี่อมอยู่นานจนต้องฝากกระเช้าเอาไว้ แต่นางพยาบาลเข้าใจผิดและรายงานกับภรรยาของผู้ป่วยว่ามีผู้หญิงมานั่งรอเฝ้าสามีของเธอ จนกว่าจะเข้าใจเรื่องราว ก็หวิดมีงานเข้าไปตามๆ กัน เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวมากมายที่เอไอเอสบริการลูกค้า เพียงแต่เมื่อนำมาทำโฆษณาก็เลือกเรื่องจริงที่เหมาะสมมาเล่าให้ลงตัว
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=YHHIvWs4jlE[/youtube]
5. นอกจาก TVC แล้ว ภายใต้แคมเปญเดียวกันนี้ ยังมีการสื่อสารอย่างครบวงจร (IMC-Integrated Marketing Communication) กล่าวคือ มีสื่ออนไลน์และออฟไลน์ เป็น Print Ad นำไปสู่กิจกรรม #AISservicetalents การรับสมัครพนักงาน Client Service Executive โดยให้ผู้ที่สนใจอยากร่วมงานกับ AIS ส่งคลิปวิดีโอเข้ามา แนะนำตัวความยาว 2 นาที แล้วตอบคำถาม 3 ข้อ เหล่านี้ 1.ทำไมถึงคิดว่าตัวเองเหมาะกับตำแหน่ง Client Service Executive 2. ถ้าหากว่ามีลูกค้าขอให้ร้องเพลงให้ฟัง จะร้องเพลงอะไร 3.เล่าเหตุการณ์ที่เคยช่วยเหลือคนอื่น โดยทั้งหมดนี้ คณะกรรมการที่จะมาเป็นผู้คัดเลือกพนักงานใหม่ของเอไอเอสจะมาจากลูกค้าตัวจริงของเอไอเอส ด้วยแนวคิดที่ว่าลูกค้าต้องได้สิทธิ์เป็นผู้เลือกคนที่จะมาดูแลตัวเอง
โดยเริ่มรับสมัครจนถึง 10 กรกฏาคม 2014 กิจกรรมนี้นอกจากจะสร้างแบรนด์ภายใต้แคมเปญเดียวกันแล้ว ยังเป็น Recruit Campaign ที่ทำให้เอไอเอสได้พนักงานที่มีใจเดียวกันมาดูแลลูกค้าต่อๆ ไปอีกด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจอยากเข้าร่วมกิจกรรม #AISservicetalents ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.ais.co.th/servicetalents
++ เงื่อนไขการสมัคร ++
เกี่ยวกับกิจกรรม (คลิก) วิธีการจัดทำวีดีโอ (คลิก)
[บทความ Advertorial]