“วัยรุ่น” เป็นกลุ่มเป้าหมายที่นักการตลาดอยากเข้าถึงมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อในระดับหนึ่ง และตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว กล้าทดลองสินค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสินค้า “เครื่องดื่ม” ที่การแข่งขันสูงอย่าง “ชาเขียว” การส่งแบรนด์ให้เข้าไปถึงใจวัยรุ่นจนนำไปสู่การซื้อสินค้าจริง เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก
ด้วยเหตุนี้เองภารกิจเอาใจขาโจ๋ ในเวอร์ชั่นมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งแต่ไม่ไร้สาระของ “โออิชิ” จึงเกิดขึ้นด้วยแคมเปญ “Oishi FruitO The Tutortainment” (http://www.tutortainment.com) หวังว่าจะสร้างภาพลักษณ์และทำให้เกิด Engagement กับกลุ่มเป้าหมายผ่านกิจกรรมติวตำราเรียนในแบบที่วัยรุ่นชอบ หยิบเอาเนื้อหาสาระ มาแปลงเป็นภาษาและเหตุการณ์ที่วัยรุ่นเข้าใจง่าย ดังที่จะได้เห็นจากคลิปตัวอย่าง
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=srbbedAFPwk[/youtube]
แต่กว่าจะออกมาเป็นแคมเปญที่เห็นกันอยู่ในตอนนี้ Brand Buffet ขอเจาะลึกเบื้องหลังผ่าน อรรถวุฒิ เวศรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการของบริษัท Adapter Digital ซึ่งสร้างสรรค์ผลงานออกมาเป็นบทสรุป ดังนี้
1. โจทย์ของงาน “Oishi FruitO The Tutortainment” ต้องการสื่อสาร Personality ของ Brand ว่า สนุกแต่มีสาระ มาคนละฟีล แต่รวมกันแล้วฟิน! เหมือนโออิชิฟรุตโตะที่รวมชาเขียวคุณภาพกับความหวานฉ่ำซ่อนเปรี้ยวของสองผลไม้ อร่อยฟรุตฟรุตไปเลย ฝั่งออนไลน์จึงทำหน้าที่ Activate ตัว Brand Personality ใหม่นี้ให้กับกลุ่ม Target วัยทีนมัธยมต้นถึงปลาย ด้วยความสนุกที่ไม่ธรรมดาเพื่อส่งผ่าน Key Message เหล่านี้ไปให้ถึงกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นมัธยมต้นถึงปลาย ที่เป็นเด็กหน้าห้อง หรือสนใจเรื่องการเรียน
2. อินไซต์ที่นำไปสู่การคิดงานนี้มาจากไอเดียที่ว่า อรรถวุฒิกล่าวว่า “วัยทีน ชอบ engage กับอะไรที่สนุกๆ (fun lead) เล่นง่ายๆ (easy to participate) แต่ได้อะไรที่สามารถตอบโต้ได้ทันที (Real-time response) เราเลยพัฒนาเป็น FruitO Tutortainment มาคนละฟีล แต่รวมกันแล้วฟิน! จึงขนทัพ 3 อาจารย์เมพฟรุตฟรุต จัดเต็มด้วย 3 วิชาหลักอย่าง วิทยาศาสตร์, คณิตศาสตร์ และภาษาศาสตร์ ที่จะมาติวฮา ตอบโดนกันแบบ Real-time ไม่ว่าจะมึนกับโจทย์ไหน หรือจะสงสัยเรื่องอะไร พวกเขาจะตอบให้หายข้องใจ!!”
อาจารย์ ลิซ่า ณ โตเกียว เดอปาครี – ภาษาศาสตร์
อาจารย์ โปรฟรุตเซอร์ เลิศพลังวิทย์ – วิทยาศาสตร์
อาจารย์ สมการ ถูกต้อง – คณิตศาสตร์
3. การ Execute งานให้ออกมาเป็นแคมเปญจริงก็เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจ เพราะต้องตอบคำถามที่เข้ามาแบบเรียลไทม์ ทั้งในรูปแบบที่เป็นข้อความ, ภาพประกอบ หรือ วีดีโอ ทำให้ทีมงานต้องเป็นแบบ ทีมเวิร์ค Agile มีทีมเฉพาะกิจที่จะหา solution ที่เหมาะสมสำหรับคำถามต่างๆ สำหรับ เพราะไม่มีทางรู้ล่วงหน้าว่าจะเจอคำถามแบบไหน ซึ่งทางทีมเฉพาะกิจจะเป็นคนเลือกว่า คำถามไหนควรตอบเป็นข้อความ, เป็นรูปภาพ หรือวิดีโอ โดยเลือกจากความน่าสนใจของคำถาม และ opportunity ในการเกิด social share ของคำตอบ
4. สเน่ห์ของแคมเปญนี้อีกอย่างอยู่ที่ “3 อาจารย์เมพฟรุตฟรุต” ซึ่งใช้เวลาออดิชั่นค่อนข้างนาน เพราะต้องมีความโดดเด่น อาจารย์สอนภาษาต้องสามารถสวมบทบาทของอาจารย์ภาษาที่สำเนียงดี แอคติ้งเว่อร์ อาจารย์คณิตศาสตร์ที่ดูเป็นเด็กเนิร์ด และเก่งเลขจริงๆ และสุดท้ายอาจารย์วิทยาศาสตร์ที่ต้องดูดุ จริงจังซึ่งทั้ง 3 คนนี้ มีคาแรคเตอร์ที่ตรงใจทีมงาน ไม่ต้องปรุงแต่งมากที่สำคัญทั้งสามคนดูน่าแกล้ง ซึ่งกลุ่มทาร์เกตน่าจะชอบ
5. แคมเปญนี้เป็นแคมเปญที่เล่นบนเว็บไซต์ http://www.tutortainment.com ซึ่งเล่นผ่าน PC, Mobile และ Tablet ได้ เพราะจากข้อมูลล่าสุดของ GlobalWebIndex ที่ survey ข้อมูลผู้ใช้งานออนไลน์ในประเทศไทยพบว่า เกิน 63% ของวัยรุ่นยุคนี้ใช้อินเตอร์เนทผ่านทางมือถือ โดยเฉพาะการใช้งาน social media ที่สูงถึง 75% ทำให้ต้องทำ campaign รองรับการใช้งานผ่านทางโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตได้ด้วย ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าการใช้งานผ่านทาง mobile device จะยิ่งสูงขึ้นไปอีก งานนี้ทีมงาน adapter จึงต้องจัดเต็มกับการทำงานที่รองรับโมบายล์ ดีไวซ์
6. เป้าหมายของแคมเปญนี้ในบทบาทของสื่อออนไลน์ ก็คือ ทำให้เกิดทัศนคติที่ดี (Brand Perception) กับแบรนด์และมีปฏิสัมพันธ์ (Engagement) กับแบรนด์ จึงมุ่งเน้นไปที่คนเข้ามาถาม และเพื่อทำให้เกิดกระแสตลอดเดือนกรกฏาคม ทีมงานทำออกมาหลายหลายส่วน เริ่มจาก introduce ทั้ง 3 อาจารย์ให้เป็นที่รู้จัก, daily micro video (ทำตอบคำถามทุกวัน), สรุปคำถาม-คำตอบเด็ดประจำอาทิตย์ (weekly top Q&A) ซึ่งจะทยอยปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง
7. แคมเปญออนไลน์นี้มีความสอดคล้องกับแคมเปญที่ปรากฏให้เห็นบนสื่อหลักที่ได้นักแสดงวัยรุ่น น้องแพทรีเซียมาแสดงนำ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า “โออิชิ ฟรุตโต” เป็นเครื่องดื่มของวัยรุ่นที่มีทั้งความสนุกและคุณประโยชน์เป็นองค์ประกอบที่ครบถ้วนทั้งสองด้าน
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=cTGsq1KDZiY[/youtube]
8. ฟีดแบ็คของแคมเปญนี้เพียงแค่ 3 วันหลังจากเริ่มแคมเปญก็มีคำถามถึงกว่า 25,000 คำถาม มีคนเข้ามาดูคำถามคำตอบในเว็บไซต์กว่า 100,000 คน และมีคนแชร์คำถามคำตอบไปมากกว่า 10,000 ครั้ง รวมถึง video แนะนำอาจารย์มีคนดูไปมากกว่า 150,000 วิว นอกจากนี้ จากการจับ brand mention ในออนไลน์และ social media ต่างๆ มีคนพูดถึง brand Oishi FruitO มากกว่าช่วงที่ผ่านมาถึง 500% และเป็น Positive เกือบ 30%
ตัวอย่างคำถามสุดฟรุ้งฟริ้ง
สำหรับผู้อ่านที่อยากทดสอบความรู้กับ 3 อาจารย์เมพฟรุตฟรุต ว่าจะสรรหาคำตอบมาเกรียน ซ่า ท้าทายความสามารถได้ขนาดไหน เชิญไปส่องได้ที่ http://www.tutortainment.com ขอบอกเลยว่าเท่าที่ไปเฉียดๆ เล็กน้อย ถึงไม่ได้ถามแค่ไปตามอ่าน ตามดูคลิปวิดีโอก็ฮาแล้ว ยิ่งทิ้งคำถามไว้ให้อาจารย์ได้ตอบจะฟินยิ่งกว่า ถึงจะเลยวัยกลุ่มเป้าหมายแล้วแต่ก็ยังสนุกได้อยู่ หรือจะเข้าไปแล้วแอ๊บฟรุ้งฟริ้งก็ไม่ว่ากัน พร้อมกับลุ้นตั๋วหนังฟรีๆอีกด้วย
[Advertorial]