หากมองด้วยสายตาของนักการตลาด “นักกีฬาชื่อดัง” น่าจะมีบทบาทไม่ต่างไปจาก “พื้นที่โฆษณา” ชั้นเลิศ ในยุคทุนนิยมครองเมืองสักเท่าไหร่นัก สังเกตได้จากแบรนด์สินค้ากว่าค่อนโลกที่พร้อมใจกันกำเงินก้อนโตกระโดดเข้ามาให้การสนับสนุนและดึงเหล่านักกีฬาเซเลบมาเป็น “พรีเซ็นเตอร์” แบบไม่แคร์ว่าสินค้าของตนจะเกี่ยวข้องกับกีฬามากน้อยเพียงใด
ส่งผลให้สงครามสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งขยายตัวกินพื้นที่การตลาดทั่วโลก ไล่ตั้งแต่อาหารเสริมธุรกิจขายตรงไปจนถึงแบตเตอรี่รถยนต์ก็ยังมี
ทว่าไลน์สินค้าสปอนเซอร์ที่น่าสนใจสุดเห็นจะเป็นหมวด “แอ็กเซสซอรี่” โดยเฉพาะ “นาฬิกา” ซึ่งส่วนมากมักเป็นแบรนด์ดังระดับ “ลักเซอรี่” ที่ขับเคี่ยวแข่งขันกันอย่างดุเดือดบนคอร์ตเทนนิสรายการใหญ่ ๆ จนบางครั้งสนามกีฬาก็แทบจะไม่แตกต่างไปจากรันเวย์โชว์สินค้าใหม่ ถือเป็นความตื่นตาตื่นใจของเหล่าแฟชั่นนิสต้าหัวใจสปอร์ตอย่างแท้จริงเพื่อ เป็นการเอาใจนักสะสมนาฬิกาชั้นนำ“ประชาชาติธุรกิจ” จึงได้คัดเลือกแบรนด์หรูดีไซน์งามมาให้ชมกันอย่างจุใจ
เริ่มจาก “Seiko” แบรนด์นาฬิกาลักเซอรี่จากแดนอาทิตย์อุทัยบนข้อมือของ“โนวัก ยอโควิช” นักเทนนิสมือ 1 ของโลกและแชมป์วิมเบิลดันปีล่าสุด ที่เพิ่งใช้วันรับถ้วยแชมป์แกรนด์สแลมของอังกฤษเป็นพื้นที่อวดโฉมล่าสุดของนาฬิการุ่น “Seiko Astron GPS Solar Chronograph Novak Djokovic Limited Edition” ออกสื่อเรียกร้องความสนใจคนรักนาฬิกาไปแล้วทั่วโลก
แต่สำหรับใครที่สนใจอยากได้นาฬิกาข้อมือแบบเดียวกับแชมป์วิมเบิลดัน 2014 ขอเตือนว่าอย่าจำสับสนกับ “The Seiko Astron GPS Solar Chronograph” รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นที่จะวางขายช่วงเดือนกันยายนนี้เพียง 7,000 เรือน เพราะรุ่นของโนวักจะวางขายเดือนพฤศจิกายน และยังมีลิมิเต็ดเอดิชั่นยิ่งกว่า ด้วยการมีลายเซ็นมือหนึ่งของโลกสลักหลังจำนวนแค่ 2,500 เรือนเท่านั้น
แบรนด์ต่อมายังอยู่ที่นาฬิกาลักเซอรี่อย่าง “Rolex” ซึ่งมี “โรเจอร์ เฟเดเรอร์”นักหวดลูกสักหลาดจอมเก๋าเจ้าของสถิติแชมป์แกรนด์สแลม 17 สมัย เป็นพรีเซ็นเตอร์คนสำคัญของแบรนด์ ที่ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวรุ่น “The Oyster Perpetual Datejust II” ลายทูโทนสีเงินสลับทอง บนเวทีวิมเบิลดันเดียวกันกับยอโควิช น่าสนใจว่าการแข่งขันวิมเบิลดันครั้งที่ผ่านมา
นักเทนนิสที่มี Rolex เป็นสปอนเซอร์หลักมักจะทำผลงานกันไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นัก อาทิ “หลี่ นา” มือวางอันดับ 2 ของโลกชาวจีน กับ Rolex รุ่น The Oyster PerpetualDatejust 36 หน้าปัดชมพูล้อมเพชร ที่พ่ายให้กับ “บาร์โบร่า ซาห์ลาโวว่า-สเตรียโคว่า” ในรอบ 3 ไป 2 เซตรวด
ส่วน “แคโรไลน์ วอซเนียกกี้” ผู้ใส่ Rolex รุ่นเดียวกับหลี่ นา ก็ตกรอบ 4 ไปด้วยน้ำมือของสเตรียโคว่าเช่นเดียวกัน ด้าน “โจ-วิลเฟร็ด ซองก้า” ใส่ Rolex รุ่นเดียวกับเฟเดเรอร์ก็ไปแพ้ให้กับยอโควิชในรอบ 4 แบบไม่ต้องลุ้นอะไรมากเช่นเดียวกับแบรนด์ “Audemars Piguet” ที่ได้ตัว “สตานิสลาส วาวรินก้า”แชมป์ออสเตรเลียนโอเพ่น 2014 มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ แถมตอนนี้กำลังดันรุ่น “Royal Oak Offshore Selfwinding” หน้าปัด 8 เหลี่ยมเป็นเอกลักษณ์สีดำสนิท แทรกเลเยอร์ด้วยสีส้มของเข็มนาทีและควอร์เตอร์แรกของนาฬิกา
น่าเสียดายแทนนาฬิกาหรูจากสวิตเซอร์แลนด์อย่าง “Richard Mille” ในศึกวิมเบิลดัน 2014 อยู่พอสมควร ที่ไม่มีโอกาสได้โชว์ตัวรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นเฉพาะสำหรับ “ราฟาเอล นาดาล” อย่าง “RM27-01” ซึ่งมาพร้อมดีไซน์เท่เรียบหรู เปลือยกลไกการทำงานของนาฬิกา เพราะเขาดันไปพลาดท่าพ่ายให้กับ “นิก เคียร์กอส” มือวางอันดับ 66 ของโลกในรอบ 4 แบบพลิกความคาดหมาย
ทำให้ Richard Mille ต้องร้องเพลงรอจนกว่าแกรนด์สแลมสุดท้ายของปี 2014 อย่าง “ยูเอส โอเพ่น” เปิดฉากขึ้นในช่วงปลายสิงหาคมนี้ อีกทั้งยังต้องลุ้นให้นาดาลระเบิดฟอร์มเก่งกลับมาป้องกันแชมป์ให้ได้ เพื่อเปิดโอกาสให้ได้โชว์ตัวนาฬิกาข้อมือตัวลิมิเต็ดตอนชูถ้วยแชมป์ เช่นเดียวกับ “De Bethune” อีกหนึ่งแบรนด์หรูจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่ให้การสนับสนุน “กาเอล มงฟิล์ส” ด้วยการส่งรุ่น “DB28 Black Matte Model” ไปให้ใส่ เพียงแต่ผลงานของนักเทนนิสมือวางอันดับ 21 ชาวฝรั่งเศส กลับจอดป้ายลงแค่เพียงรอบ 2 หลังพ่ายมือรองอย่าง “ยิริ เวเซรี่” ไป 3-2 เซต
อีกคนที่น่าเสียดายมากสุดคงหนีไม่พ้น “แอนดี้ เมอร์เรย์” แชมป์เก่าเมื่อปี 2013 และขวัญใจชาวสหราชอาณาจักร ที่ฟอร์มสะดุดพ่ายให้กับ “กริกอร์ ดิมิตรอฟ” มือวางอันดับ 11 ชาวบัลแกเรียไป 3 เซตรวดแบบสู้กันไม่ได้ ส่งผลให้หมดสิทธิ์ป้องกันแชมป์ตั้งแต่รอบควอร์เตอร์ไฟนอล รวมทั้งอดโชว์นาฬิกา “Rado” คอลเล็กชั่น “Hyper Chrome Court” รุ่น “Grass Court” แทรกสีเขียวสะท้อนแสงสร้างจุดดึงดูดสายตา
Rado คอลเล็กชั่น “Hyper Chrome Court” มีอยู่ทั้งหมด 3 แบบตามชนิดคอร์ตที่ใช้แข่งขันคือ Grass Court, Clay Court และ Hard Court
อย่างไรก็ตาม หากยูเอส โอเพ่น 2014 มีนักเทนนิสพรีเซ็นเตอร์นาฬิกาข้อมือแบรนด์ไหนได้แชมป์ เชื่อว่าน่าจะมีรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นปล่อยออกมายั่วน้ำลายนักสะสมทั่วโลก ก่อนสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน
Partner : ประชาชาติธุรกิจ