“โหด มัน ฮา“รายการที่เคยโด่งดังเมื่อหลายสิบปีก่อน กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในหน้าจอทีวีเมืองไทย โดยการสนับสนุนหลักของ “โออิชิ กรีนที” ถือเป็น Branded Content ครั้งยิ่งใหญ่ของโออิชิ เบื้องหลังการตลาดสุดมันของรายการนี้ มีเรื่องราวที่น่าสนใจ ผ่านคุณสุธี ธรรมสิทธิ์บูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ดังนี้
– โปรดักท์ชั่นรายการเว่อวังอลังการเช่นนี้และออกอากาศทางช่อง 7 โออิชิ ทุ่มงบประมาณไปกับแคมเปญนี้ถึง 150 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ความเป็น “ญี่ปุ่น” ให้กับแบรนด์โออิชิ กรีนที โดยการสนับสนุนรายการ “โหดมัน ฮา“ที่เป็นสุดยอดเกมส์โชว์ในตำนานของญี่ปุ่น ครั้งนี้เป็นไปตามแนวทางการสร้างแบรนด์ของโออิชิ กรีนที ที่ย้ำชัดเป็นผู้นำแห่งนวัตกรรมหรือผู้นำแห่งคอนเท้นท์
– นอกจากการเป็น Sponsorship ทั้งสื่อก่อนและหลังเบรคของรายการ Branded Content รายการนี้ โออิชิฯ นำ Mechanic การส่งรหัสใต้ฝาโออิชิฯเข้ามาใช้เพื่อคัดเลือกผู้กล้ามาร่วมฝ่าด่านหฤโหด ดังนั้นจึงได้แฟนพันธุ์แท้ของโออิชิฯมาเป็นผู้เล่นเกมส์ ซึ่งเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี
– แคมเปญนี้ในแง่ของการส่งรหัสใต้ฝาอาจไม่เท่าช่วงการทำแคมเปญหน้าร้อนชิงโชค แต่คาดหวังในแง่ของภาพลักษณ์ของความเป็นญี่ปุ่น ความทันสมัย และอยากให้รายการโหด มัน ฮา กลายเป็นรายการที่วัยรุ่นเชื่อว่าเป็นประสบการณ์สุดมันที่ในชีวิตต้องมาลองเล่นสักครั้ง
– กลุ่มเป้าหมายของแคมเปญนี้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม 1.ผู้ใหญ่ที่ต่างก็รู้จักรายการนี้มาบ้างแล้ว 2.คนรุ่นใหม่ที่อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับคอนเทนต์ ยิ่งรายการนี้เป็นรายการที่ออกอากาศเพียงอาทิตย์ละครั้งเท่านั้นเอง เพราะต้องใช้งบประมาณและเวลาไปกับการโปรดักชั่นอย่างมาก เพียงแค่ถ่ายทำก็ใช้เวลาถึง 10 ชั่วโมงต่อวันเพื่อให้ได้ 1 เทป การรักษากระแสอย่างต่อเนื่องจึงเป็นหน้าที่ของสื่อดิจิตอล เป็นที่มาของการใช้งบประมาณในสื่อออนไลน์มากกว่าแคมเปญอื่นๆ ของโออิชิในปีนี้เลยทีเดียว
– กลุยทธ์สื่อดิจิตอล โดยกวาดเอา Online Influencers ตัวพ่อ ตัวแม่(ตัวแม่จริงๆ นะ) มาร่วมเล่นในรายการตอนพิเศษ แนะนำด่านต่างๆ ในรายการ ทั้ง เสือร้องไห้ เทยเที่ยวไทย และ แม่บ้านมีหนวด และหลังจากเผยแพร่คลิปเพียงแค่อาทิตย์เดียว ก็มีผู้ชมแล้วประมาณ 9 แสนวิวในยูทูบ พร้อมคอมเมนต์ในเชิงบวกเป็นส่วนใหญ่ ก่อนจะตัดเป็นตอนๆ ที่เน้นเฉพาะ Online Influencer แต่ละรายออกมาให้ชมกันเพิ่มเติม
[youtube]https://www.youtube.com/watch?v=TYvRxpCSNZc[/youtube]
– หลังจากเริ่มต้นออกอากาศตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ต้องบอกว่ารูปแบบรายการโหด มัน ฮาในปัจจุบันยังมีความแตกต่างกับเวอร์ชั่นญี่ปุ่นอยู่บ้าง กล่าวคือ ของญี่ปุ่นจะเน้นไปที่ตัวเกมการแข่งขันเลย ส่วนของไทยเน้นที่การเล่าเรื่อง เพื่อทำให้คนเข้าใจตัวเนื้อหารายการก่อน รวมทั้งคนไทยชอบความสนุกสนานอยู่แล้ว รายการจึงจัดเต็มเรื่องดาราทั้งตัวพระเอก นางเอกและดาวตลกครบครัน
– โต้โผใหญ่ของการซื้อลิขสิทธิ์ รายการ โหด มัน ฮา เข้ามาทำในประเทศไทย คือ กิติกร เพ็ญโรจน์ (บริษัท เฮลิโคเนีย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด) ผู้ที่เคยปลุกปั้น AF จนโด่งดังเป็นปรากฏการณ์ในวงการบันเทิงไทยมาแล้ว นอกจากโหดมันฮาแล้ว เขายังเป็นเจ้าของรายการเชพกระทะเหล็กด้วย
– รายการ Takashi’s Castle ต้นฉบับของโหดมันฮา เริ่มต้นออกอากาศครั้งแรกตั้งแต่ปี 1989 โดยมีเพียงแค่ 4 ครั้งที่เท่านั้นที่สามารถพิชิตปราสาททาเคชิได้ โดยครั้งหนึ่งที่ปราสาทถูกพิชิต ก็เพราะทหารของท่านโชกุนยิงปืนผิด ยิงใส่ท่านโชกุนเอง
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=dVwBT3T-Rvk[/youtube]
– รายการโหด มัน ฮา ประเทศไทย ถ่ายทำท่ายหาดสัตหีบ บนพื้นที่ 1,500 ไร่ มีทั้งหมด 20 ด่าน มีดาราร่วมรายการได้แก่ โน้ต เชิญยิ้ม รับบทเป็น “ท่านโชกุนทาเคชิ” ที่มีสมุนซ้ายและขวา “เสนาบดีค่อมมุ” รับบทโดย ค่อม ชวนชื่น และ “อำมาตย์บอนรึ” รับบทโดย บอล เชิญยิ้ม และ “นินจาเฟอรุจัง” ใบเฟิร์น พัสกร พลบูรณ์ และนี่คือการรับงานพิธีกรร่วมกันครั้งแรกของ ชาคริต แย้มนาม กับวุ้นเส้น วิริฒิพา ภักดีประสงค์ พร้อมกับดีเจพล่ากุ้ง
