สมรภูมิค้าปลีก “ร้านสะดวกซื้อ” ในวันนี้ต้องยอมรับว่าจำนวนสาขาของ “เซเว่นฯ” จะทะลุ 8,000 สาขาสิ้นปีนี้ ทิ้งห่างคู่แข่งซึ่งส่วนใหญ่มีสาขาในระดับพันต้น ๆ และหนีห่างออกไปด้วยกลยุทธ์ดักทุกทำเลทอง บวกการเร่งสปีดเพื่อทะยานสู่ 10,000 สาขาในปี 2561
อย่างไรก็ตาม แม้เซเว่นฯจะถือทำเลเหนือกว่า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ค่ายอื่น ๆ ก็รุกหนักในการพยายามเฟ้นกลยุทธ์ทะลวงส่วนแบ่งตลาดมาให้ได้ ทั้งเรื่องของ “สินค้า” และ “บริการ” โดยเฉพาะกลุ่ม “อาหาร” ถือว่าสร้างสีสันให้กับตลาดอย่างยิ่ง เพราะทุกค่ายยกขบวนเมนูไทย-เทศยอดนิยมและแตกต่าง เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์และเป็นแม่เหล็กดึงคนให้กับร้านของตัวเอง เรียกว่าไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว
รายที่พลิกโฉมใหม่ให้กับร้านสะดวกซื้อด้วยการเปิดโมเดล “ครัวปรุงสด” สร้างสีสันและเสียงฮือฮาก่อนใคร ต้องยกให้ “ลอว์สัน” ที่ยกครัวเปิดมาไว้ในร้าน ปรุงสด ๆ ร้อน ๆ ทั้งเมนูเบนโตะ และอาหารไทย อาทิ ข้าวหมูแดง พาสต้าซอสเนื้อ ข้าวกะเพราไก่ ข้าวหมูทงคัตสึ โดยมีการเพิ่มเมนูใหม่ ๆ พร้อมจัดโปรโมชั่นแต่ละสัปดาห์เพื่อกระตุ้นการทดลอง ในส่วนของกลุ่มเครื่องดื่มก็มีทั้งรูปแบบติดตั้งมุมเครื่องดื่มชงสด และผนึกแบรนด์ “โซลิโต้” เพิ่มทางเลือกให้คอกาแฟ
กระแสตอบรับที่ล้นหลาม โดยเฉพาะในกลุ่มคนเมืองและหนุ่มสาวออฟฟิศย่านเศรษฐกิจ ทำให้ล่าสุดเจ้าตลาดอย่าง “เซเว่นฯ” ยังต้องส่งโมเดลที่เปิดให้บริการคอนเซ็ปต์ใหม่ “ออลล์ มีล” ขนมาครบทั้งเมนูเส้นและข้าวเข้ามาท้าชิง ประเดิมนำร่อง 1 สาขาย่านประชาสงเคราะห์ 23 (ม.หอการค้าไทย) และได้สร้างกระแสแชร์กันสนั่นออนไลน์
จึงไม่แปลกถ้าจะเห็นความเคลื่อนไหวฟาก “แฟมิลี่มาร์ท” เข้ามาร่วมท้าชิงบ้าง ล่าสุดแฟมิลี่มาร์ทควงคู่พาร์ตเนอร์เซ็นทรัล นำอาหารในร้าน “เดอะ เทอเรส” เข้ามาเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงกันแล้ว ไม่เพียงสร้างโอกาสใหม่ของตลาดสะดวกซื้อ เพิ่มความสะดวกให้กลุ่มลูกค้าระดับบน แต่ยังวิน-วินด้วยการช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่และตอบสนองลูกค้าเดิมของ “เดอะ เทอเรส” ให้สามารถหาซื้อได้สะดวกตลอด 24 ชม.
“จุฑารัตน์ วงศ์สุวรรณ” รองประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จำนวนร้านสะดวกซื้อเพิ่มขึ้นทุกปีจากผู้ประกอบการแต่ละค่ายที่ต่างเร่งขยายสาขา อย่างไรก็ตาม ตลาดยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว เนื่องจากยังมีสินค้าและบริการอีกจำนวนมากที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้
ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ส่วนใหญ่หันมาบริโภคอาหารพร้อมทานมากขึ้น เพราะประหยัดเวลา ราคาไม่แพง การสร้างความโดดเด่นของแฟมิลี่มาร์ทด้วยการนำเมนูยอดฮิตของร้าน “เดอะ เทอเรส” เข้ามาวางขาย อาทิ ข้าวซี่โครงหมูอบ 69 บาท ข้าวผัดเขียวหวานไก่-หมูแดดเดียว 59 บาท ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ-หมูหวาน 59 บาท เป็นต้น เริ่มแล้วในสาขา อาทิ สนามบินสุวรรณภูมิ, ห้วยขวาง และรัชดาฯ และคอนโดฯ LPN ปิ่นเกล้า เป็นต้น
สะท้อนภาพการ “ซินเนอยี่” ธุรกิจในเครือเซ็นทรัลที่มีความชัดเจนยิ่งขึ้น นับตั้งแต่ต้นปีได้เพิ่มมุมขายโดนัทของ “มิสเตอร์ โดนัท”, ติดตั้งเครื่องชงกาแฟแบรนด์ “เซกาเฟรโด” จำหน่ายกาแฟสด รวมถึงในร้านยังมีเมนูอาหารยอดนิยมต่าง ๆ เมนูไทยทั้งคาว-หวาน และยังมีสารพัดเมนูเข้ามาเสิร์ฟ อาทิ ปลาหมึกย่างกล่อง, ส้มตำ พร้อมน้ำราดและกุ้งแห้ง ขนมกล้วย, ข้าวเหนียวดำมะพร้าวอ่อน กล้วยบวชชี เต้าส่วน ลาซานญ่า
20 ตุลาคมนี้ เราเตรียมติดตั้งตู้จำหน่ายชานมไข่มุกต้นตำรับจากไต้หวันเข้ามาในราคาแก้วละ 35 บาท นำร่อง 50 สาขาใจกลางกรุงเทพฯและเมืองท่องเที่ยวควบคู่กับการบุกหนักทางการตลาด โดยเพิ่มงบฯโฆษณากว่า 150 ล้านบาท เพื่อสร้างยอดขายสินค้าอาหารพร้อมทาน ภายใต้แนวคิด “แฟมิลี่มาร์ท อร่อยด้วยกัน…ทุกเวลา” และส่งหนังโฆษณาชุดข้าวปั้นโอนิกิริ และแซนด์วิชอบร้อน, สปาเกตตี คาโบนาร่า ทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์และยอดขายเพิ่มขึ้น
“ปลายเดือนนี้จะมีแคมเปญใหม่ สร้างแบรนด์แคแร็กเตอร์ผ่านตัวการ์ตูน มั่นใจว่าสร้างกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์แน่นอน”
ด้านเจ้าตลาดเซเว่น “ยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล” รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ออกตัวว่า “ออลล์ มีล” เป็นการทดลองคอนเซ็ปต์ใหม่ ๆ สำหรับพัฒนาและปรับไปตามความต้องการของลูกค้า
ทั้งนี้จากการสำรวจตลาดของผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” พบว่าภายในร้านได้จัดมุมสำหรับนั่งกินประมาณ 6-7 ที่นั่ง และได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะช่วงเวลา 22.00-03.00 น. เป็นเวลาขายดีที่สุด
และไม่เพียงเท่านั้นถ้าสังเกตในร้านเซเว่นฯจะเห็นสินค้าอาหารใหม่ ๆ ให้ได้เซอร์ไพรส์ตลอดเวลา อาทิ โจ๊กปรุงสด ขนมหวานแบบไทย ๆ อย่างเต้าส่วน เฉาก๊วยนมสด ข้าวต้มมัด กล้วยปิ้ง ข้าวโพดต้ม และเมนูอื่น ๆ ที่เตรียมซุ่มศึกษาเข้ามาป้อนตลาดอีกหลากหลายเมนู รวมถึงแคมเปญล่าสุด “ไข่กินกับอะไรก็อร่อย ที่เซเว่นอีเลฟเว่น”
ยุทธศักดิ์มองว่า ไข่เป็นเมนูง่าย ๆ แต่มีคุณค่าอาหารและราคาถูก เข้าถึงผู้บริโภคทุกวัย จากปัจจุบันอัตราบริโภค 117 ฟองต่อคนต่อปี แต่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น ที่สำคัญกลยุทธ์ “ไข่” จะเป็นตัวดึงทราฟฟิกทำให้คนเข้าร้านถี่ขึ้น เมื่อเข้าร้านก็จะซื้อสินค้าอื่น ๆ ด้วย และเป็นการตอกย้ำจุดยืนของ “7-11” เรื่องการเป็นร้าน “อิ่มสะดวก” อย่างต่อเนื่อง
ดร.ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ฉายปรากฏการณ์ว่า ทุกค่ายพยายามเทสต์โมเดลดังกล่าว ถือเป็นเทรนด์ใหม่ของร้านสะดวกซื้อ และเป็นพัฒนาการของคอนวีเนี่ยนสโตร์ ซึ่งในต่างประเทศมีให้บริการอยู่แล้ว ทั้งญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน มุ่งไปสู่คอนเซ็ปต์
คอนวีเนี่ยนฟู้ดสโตร์ (Convenience food stores) ที่มีความชัดเจนยิ่งขึ้น สอดคล้องพฤติกรรมคนที่เปลี่ยนไป คือขนาดครัวเรือนเล็กลง ทำกับข้าวที่บ้านน้อยลง และนิยมซื้ออาหารพร้อมทานมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การทำอาหารเป็นโจทย์ที่ไม่ง่าย เพราะต้องมีทักษะระดับหนึ่ง รวมถึงจำนวนสาขาต้องมาก เพื่อบริหารต้นทุน และยังต้องพัฒนาสินค้าให้เป็นที่พึงพอใจของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งแนวโน้มแต่ละค่ายจะพัฒนาสินค้าเฉพาะกลุ่มหรือเซ็กเมนต์ลูกค้ามากขึ้น อาทิ ลอว์สัน 108 มีสินค้าสไตล์ญี่ปุ่น เป็นต้น
“ต้องค่อย ๆ ดูกันไปยาว ๆ ออกมาในช่วงที่ตลาดมีความพร้อม พฤติกรรมคนต้องการความสะดวก เมื่อ 7-8 ปีก่อน แฟมิลี่มาร์ทก็เคยเทสต์โมเดลนี้ แต่ตอนนั้นตลาดอาจยังไม่พร้อม เซเว่นฯพัฒนาการจากเปิด 24 ชม.เป็นสะดวกซื้อและอิ่มสะดวก ขายของกินมากขึ้น สินค้าโฟรเซ่น คนไม่ชอบ รู้สึกว่าไม่สด ก็ขยับมีครัวเปิด คอนเซ็ปต์เป็นอิ่มสะดวก แต่รูปแบบอาจจะใช้กระทะผัด หรือประยุกต์เป็นเหมือนฟาสต์ฟู้ดทั่วไป ต่อไปอาจมีฟู้ดคอร์สก็ได้ ต่างประเทศ อย่างเซเว่นฯในสหรัฐก็หันมาขายของสด ผัก ผลไม้เยอะขึ้น ซึ่งในไทยต่อไปก็จะค่อย ๆ ขยับตาม”
เมื่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเร่งรีบของคนเมือง จึงไม่แปลกที่ศึกชิงเจ้าตลาดร้านสะดวกซื้อจะดุเดือดและร้อนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าการสปีดด้วยจำนวนสาขาจะเป็นรอง “เซเว่นอีเลฟเว่น” การจุดพลุสร้างแบรนด์ด้วยความต่างของแคมเปญ-สินค้า-บริการ ก็ย่อมสร้างความโดดเด่นให้กับคู่ท้าชิงอย่างแฟมิลี่มาร์ทและลอว์สัน เขย่าตลาดสะดวกซื้อได้ไม่น้อย
Partner : ประชาชาติธุรกิจ