ในโลกที่ชื่อเสียงทุกอย่างของบริษัทขึ้นอยู่กับความคิดเห็นผ่านกูเกิ้ล เป็นเรื่องสำคัญมากที่แบรนด์จำเป็นต้องพูดแต่สิ่งที่เหมาะสมไปสู่สาธารณะ และนี่คือ 7 วิถีทางซึ่งจะช่วยให้แบรนด์มีภาพลักษณ์ใหม่ที่ดีขึ้น
1. สร้างความประทับใจตั้งแต่แวบแรก
เคยได้ยิน “halo effect” มั้ย? มันคือปรากฏการณ์ทางจิตวิทยา ที่บอกว่าคนเรามักจะยืนยันในตัวเลือกแรกของตัวเอง แม้จะพบทีหลังว่ามีตัวเลือกอื่นๆที่ดีกว่า สำหรับในวงการธุรกิจ สิ่งนี้หมายความว่า ร้านของคุณจำเป็นต้องสะอาดอยู่เสมอ เช่นเดียวกับเว็บไซต์ที่ต้องอัพเดตตลอดเวลา หากผู้บริโภคไม่ประทับใจแบรนด์ของคุณตั้งแต่แรกเห็น halo effect บอกกับเราว่า คุณอาจไม่ได้พบกับโอกาสที่สองอีกแล้ว
2. แสดงให้เห็นถึงคุณค่า
ทำไมผลิตภัณฑ์ของคุณดีกว่าของคู่แข่ง? ถูกกว่า, ปลอดภัยกว่า หรือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า? สิ่งที่ควรทำ คือการสร้างจุดขายเพื่อโฆษณาให้เหนือกว่าคู่แข่งทั้งหมด ครีเอทเรื่องราวให้กับแบรนด์ เช่น “คุณแม่สมาร์ทเลือกเราเสมอ” หรือ “คุณจะได้รับการเตรียมพร้อมที่ดีกว่า หากซื้ออุปกรณ์ของเรา”
3. จัดการชื่อเสียงบนโลกออนไลน์
กูเกิ้ลมีอิทธิพลต่อผลลัพธ์ของแบรนด์เราหรือไม่? กูเกิ้ลมักแสดงผลแต่ความคิดเห็นเชิงลบแทนที่จะเป็นเชิงบวกหรือเปล่า? การจ้างคนที่สามารถฝั่งกลบข่าวเสียๆหายๆและเผยแพร่แต่เรื่องราวด้านบวกคือสิ่งสำคัญ แน่นอน การลบประเด็นเนกาทีฟออกจากโลกอินเทอร์เน็ตแทบเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ แต่สิ่งที่เราทำได้คือพยายามไล่ให้พวกมันหายไปไกลที่สุดด้วยเครื่องมือและเทคนิคที่เหมาะสม
4. ชูโรงความเป็นมนุษย์
การเข้าอกเข้าใจและเห็นอกเห็นใจคือวิถีทางที่ยอดเยี่ยมในการเข้าถึงสื่อโดยอาจไม่จำเป็นต้องโปรโมตเองด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีผู้หญิงคนนึงคลอดลูกในร้านของคุณ คุณอาจทำให้นักข่าวรู้ว่าคุณได้ให้การ์ดของขวัญสำหรับรับขวัญลูกตัวน้อยของเธอ, ถ้าทีมเบสบอลท้องถิ่นกำลังต้องการเสื้อแข่งตัวใหม่ คุณก็ควรเป็นสปอนเซอร์และโชว์ตราสินค้าของคุณซะ มันเป็นของขวัญที่แสดงถึงความใจกว้างและสามารถกระตุ้นความรู้สึกที่ดีต่อแบรนด์ ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้ยินสิ่งที่แบรนด์คุณทำ
5. ใช้โซเชียลมีเดียให้เป็น
มันไม่พอหรอก หากคุณแค่ลงทะเบียนเฟสบุ๊คหรือทวิตเตอร์ คุณต้องใช้พวกมันให้เป็นประโยชน์ ด้วยการสร้างสรรค์การสื่อสารในตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการ เปิดพื้นที่คุยกับลูกค้า โปรโมตการลดราคาและโปรโมชั่น ครีเอทคอนเทนต์ที่คนน่าจะแชร์ เป้าหมายก็เพื่อแสดงให้เห็นว่าแบรนด์เราสนุกและทันสมัย
6. ให้ข้อมูลอย่างโปร่งใส
อย่าปกปิดสมาชิกบอร์ดบริหาร ยกตัวอย่างเช่น เวลาคุณมองไปที่ชีวิตของ Charles E. Phillips คุณจะรู้ทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่เงินเดือนของเขาไล่ไปจนถึงหุ้นที่ถือ สิ่งนี้คือการแสดงถึงความโปร่งใส ซึ่งช่วยให้นักลงทุนเชื่อใจ เมื่อพวกเขารู้ว่าคุณไม่ได้ซ่อนอะไรไว้ พวกเขาก็จะจัดการกับการเงินอย่างมีอิสระมากกว่า
7. รับฟังฟีดแบ็ค
สุดท้ายแต่ไม่ได้สำคัญน้อยสุด คือควรหาเวลารับฟังความเห็นของผู้บริโภค หากพวกเขาไม่ชอบเว็บไซต์ จงเปลี่ยนมัน หากพวกเขาคิดว่าโฆษณาดูขายของแบบยัดเยียด จงเบาลงหน่อย