HomeFeaturedสมาคมมีเดียฯ เผย 5 เทรนด์พลิกการตลาดไทย

สมาคมมีเดียฯ เผย 5 เทรนด์พลิกการตลาดไทย

แชร์ :

social-community

ภายในงาน Outlook 2015 ที่จัดโดย สมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย หรือ MAAT (Media Agency Association of Thailand) มี 5 เทรนด์การตลาด-มีเดียที่น่าสนใจ สำหรับนักการตลาดและนักโฆษณาไทย ดังนี้

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

1. Screens and Internet Are to the Next Level

จะเกิดความเปลี่ยนแปลงของสื่อทั้งหน้าจอโทรทัสน์และหน้าจอคอมพิวเตอร์ ในส่วนของโทรทัศน์นั้น การเติบโตของทีวี ดิจิตอล น่าจะทำให้เกิดการแข่งขันของเจ้าของคอนเทนต์อย่างมาก โดยแต่ละช่องก็มีกลยุทธ์ที่แตกต่างกันตามนโยบาย แต่สิง่ที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ ก็คือผู้ชมมีทางเลือกมากขึ้น การใช้เงินของนักการตลาดจะปันส่วนหนึ่งมาที่ทีวีดิจิตอล เจ้าของคอนเทนท์ก็แข่งกันผลิตคอนเทนท์ที่ชัดเจน ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

2. Television in jeopardy?

สื่อทีวีแย่แลว้จริงหรือ? ไม่ว่าจะเป็นกระแสการใช้อินเทอร์เน็ต หรือการที่มีทีวี ดิจิตอลเพิ่มขึ้น จนเกิดเป็นคำถามว่าสื่อทีวีแบบดั้งเดิมยังมีที่ยืนอยู่หรือไม่ คำตอบก็คือ สำหรับสังคมไทย สื่อทีวีก็ยังมีความสำคัญอยู่ และในช่วงไพร์มไทม์ก็ยังได้รับความนิยม อย่างไรก็ตามพฤติกรรมหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ การเสพสื่อหลายๆ จอในเวลาเดียวกัน สิ่งที่นักการตลาดต้องปรับตัวก็คือ ความเข้าใจที่ว่า Content is King, Integrated is Queen คอนเทนท์ต้องมีคุณภาพ มีความน่าสนใจ หรืออาจจะใช้ประโยชน์ของแพลตฟอร์มเหล่านั้นมาเป็นเครื่องมือสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมไปซะเลย

PrimeTime

 

WhileWatchingTV

3. Shopping Behavior Changed

พฤติกรรมการช็อปปิ้งเปลี่ยนแปลงไปจาก ร้านค้าแบบดั้งเดิม สู่ ร้านค้าดิจิตอล (Brick-and-Mortar vs. Click-and-Mortar) หรืออย่าบน้อยๆ ก็มีพฤติกรรมที่เรียกว่า ROPO- Research Online Purchase Offline หรือแม้กระทั่ง Purchase Online เลยด้วยซ้ำ นักการตลาดต้องเข้าใจพฤติกรรมนี้ มีข้อมูลให้ผู้บริโภคหาคำตอบหรือสื่อสารทางออนไลน์ได้ อย่างไรก็ตามการขายสินค้าแบบดั้งเดิมก็ยังไม่ได้มืดมนหมดหนทางซะทีเดียว การช็อปปิ้งออนไลน์ยังมีข้อจำกดับางอย่าง เช่น ลูกค้าที่ต้องการสินค้าเลย หรือความรู้สึกว่าอยากทดลองสินค้าก่อนซื้อ ก็ยังเป็นช่องว่างที่การซื้อขายแบบดั้งเดิมยังเติมเต็มผู้บริโภคได้มากกว่า

ROPO

4. Get Smart

สังคมกำลังจะเข้าสู่ยุคที่อะไรๆ ก็ สมาร์ทไปหมด ไม่ว่าจะเป็นบ้าน เครื่องแต่งกาย หรือเครื่องประดับ Wearable Device จากเดิมที่ตอบโจทย์ด้านฟังก์ชั่นอย่างเดียว เดี๋ยวนี้ต้องโดดเด่นด้านดีไซน์ด้วย ขณะเดียวกันก็มีอุปกรณ์ติดตัวใหม่ๆ ที่เข้ามาทำหน้าที่ช่วยให้การใช้ชีวิตสะดวกและง่ายขึ้น เช่น กางเกงที่ช่วยวัดนำ้หนักได้เลย สิ่งที่นักการตลาดต้องคำนึ่งถึงก็คือ การใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์เหล่านี้ เพราะเป็นดีไวซ์ที่แนบชิดติดตัวผู้บริโภค และมีคุณสมบัติเก็บดาต้าต่างๆ ได้เป็นอย่างดี นักการตลาดควรเอาข้อมูลมาใช้ แล้วส่งข้อมูลของสินค้าและบริการต่างๆ ของตัวเองไปตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านให้กับลูกค้า

5. Thais And Social Media

คนไทยใช้โซเชี่ยลมีเดียถึงวันละ 3.7 ชั่วโมง และ 1 ใน 3 ของประชากรไทยมีแอคเคานท์เฟซบุ๊ค ปัจจุบันคนไทยใช้โซเชี่ยลมีเดียสร้างพื้นที่และการขับเคลื่อนทางสังคมผ่านช่องทางนี้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีของแท็กซี่ที่ถูกร้องเรียนผ่านช่องทางโซเชี่ยลมีเดียเหล่านี้ และกลายเป็น Issue ใหญ่ของสังคมไปเลย หรือนักการตลาดถูกจับตามองจากสังคมมากขึ้น สิ่งที่ต้องเรียนรู้ก็คือ ผู้บริโภคมีพลังมากขึ้นนักการตลาดและโฆษณาต้องระวังในการทำกิจกรรมต่างๆ คิดให้รอบคอบและรอบด้านมากขึ้น และถ้าหากว่าเกิดเรื่องที่ผิดพลาดก็ต้องยอมรับ แก้ไข และขอโทษด้วยความจริงใจและรวดเร็ว


แชร์ :

You may also like