“SC Asset” เปิดตัวยุทธศาสตร์ 5 ปี ตั้งเป้า รายได้ทะลุ 20,000 ล้านบาท พร้อมกำหนดเป้าหมายปีนี้เติบโต 10% สร้างยอดขาย 14,000 ล้านบาท รักษาความเป็นเบอร์ 1 ในตลาดบ้านหรู และเป็นปีแรกที่ SC Asset จะทำบ้านราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท
ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) เริ่มต้นงานแถลงข่าวด้วยการ ฉายภาพให้เห็นว่าในช่วง 11 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท SC Asset มีรายได้เติบโตโดยเฉลี่ย 23% แต่ใน 3 ปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิไม่ถึง 15% เนื่องจากการลงทุนหลายด้าน แต่นับจากนี้ไปอีก 5 ปี SC Asset จะต้องทำรายได้เกิน 20,000 ล้านบาท รวมทั้งมีกำไร 15% ขึ้นไป ดังนั้นจึงเป็นที่มาของ แผนยุทธศาสตร์ 5 ข้อ ประกอบด้วย
1. ยุทธศาสตร์เชิงรุกในการลงทุน เพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปีจากการพัฒนาอสังหาฯ โดยการรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดบ้านเดี่ยวในระดับพรีเมี่ยม และพร้อมที่จะรุกเข้าไปยังตลาด เซกเมนต์ระดับราคาใหม่ๆ ที่บริษัทยังไม่เคยเข้าไป
2. ยุทธศาสตร์เชิงรับ “รีดไขมัน ไม่ลดคุณภาพ” ด้วยการบริหารต้นทุน และค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
3. การรักษาคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ทั้งสินค้าและบริการ ควบคู่ไปกับการเติบโตของบริษัทฯ
4. การมุ่งเน้นพัฒนาบุคลากร และสร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งการสร้างสรรค์และใส่ใจ
5. คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง
จากแนวคิดแปลงมาเป็นรูปธรรมผ่านโปรดักท์ที่ปีนี้ SC Asset จะเดินหน้าเปิดตัวทั้งหมด 7 โครงการ แต่โครงการที่เป็นไฮไลท์สำคัญมีอยู่ 3 ส่วน ซึ่งสะท้อนยุทธศาสตร์เชิงรุกขององค์กร ไม่ว่าจะเป็น
1. โครงการ กรานาดา ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม ที่มีสภาพแวดล้อมและความเป็นส่วนตัวพิเศษเพียง 36 ยูนิต บนเนื้อที่กว่า 36 ไร่ ราคา 50-140 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,150 ล้านบาท แบรนด์ Granada ถือว่าเป็นแบรนด์หรูของบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งนี้อยู่แล้ว ทุกหลังมีสระว่ายน้ำ บ้านที่มี 5 ห้องนอนจะมีลิฟท์ภายในตัวบ้าน ที่พิเศษที่สุด คือ บ้านราคา 140 ล้านบาท มีเพียงหลังเดียวในโครงการ
2. โครงการ Saladaeng One คอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ตั้งอยู่บนทำเลศาลาแดงซอย 1 ทำเลนี้นอกจากจะเป็นทำเลไพร์มที่อยู่ใจกลางดาวน์ทาวน์กรุงเทพฯแล้ว ที่ดินผืนนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นผืนสุดท้ายในทำเลซึ่งเหมาะสำหรับการพัฒนาคอนโดมิเนียมแนวสูงมีพื้นที่ประมาณ1 ไร่ 3 งาน ขนาด 1-3 ห้องนอน และเพนท์เฮ้าส์ พื้นที่เริ่มตั้งแต่ 50 ตารางเมตร ราคาเฉลี่ยมากกว่า 280,000 บาท/ ตร.ม. จำนวน 185 ยูนิต และ 2 พูลวิลล่า มูลค่าโครงการ 3,700 ล้านบาท ผู้อยู่อาศัย 70% จะได้วิวจากสวนลุม อีก 30% เป็นซิตี้ วิว
3. โครงการ PAVE เป็นครั้งแรกที่ SC Asset จะบุกตลาดบ้านมูลค่า 3-5 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีมาร์เก็ตไซส์อยู่ประมาณ 1 ใน 3 ของตลาด มีคู่แข่งรายใหญ่ๆ อยู่พอสมควร SC Asset จะลุยตลาดนี้โดยพกภาพลักษณ์ความพรีเมี่ยมลงมาเล่น ทำให้อาจจะไม่ใช้ราคาต่ำเป็นจุดแข็ง แต่จะเน้นเรื่องการออกแบบกับวัสดุเป็นหลัก โดยจะเปิดตัวโครงการแรกที่ รังสิต คลอง 4 ในไตรมาส 3 เป็นต้นไป และนี่เป็นเพียงการลองตลาดเท่านั้น จึงมีเพียงโครงการเดียวในปีนี้ แต่วางแผนเล็งที่ดินเพิ่มเอาไว้ 2 แห่ง เพื่อนำมาพัฒนาภายใต้แบรนด์นี้แล้ว และมีแผนว่าภายในปี 2019 หรืออีก 5 ข้างหน้าจะมีรายได้จากบ้านเซกเมนต์นี้ 10-15%
โครงการ Granada กับ Saladeang One จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ SC Asset รักษาความเป็นเบอร์ 1 เซกเมนต ทั้งในแง่ยอดจองและการเปิดตัวโครงการในตลาดบ้านหรูราคาเกิน 15 ล้านบาทขึ้นไป ขณะที่ PAVE เป็นโปรดักท์ที่มาตอบโจทย์ลูกค้าแมส แต่ก็อยู่ในระดับที่ไม่มีปัญหาด้านกำลังซื้อ โดยสัดส่วนรายได้ของ SC Asset จะเน้นรายได้จากโครงการแนวราบเป็นหลัก คิดเป็นสัดส่วน Low Rise 65% ส่วน High Rise 35%
เย้ๆๆ อีกหนึ่งช่องทางรับข่าวสารกับ Brand Buffet ผ่าน LINE ไม่ตกหล่นทุกข่าวสำคัญ
เพิ่มเพื่อนรัวๆ ที่ ID : @brandbuffet