เพราะว่าอัตราการเติบโตของตลาดวิตามินในประเทศไทยที่มีมุลค่าตลาด 2,700 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตอยู่ในเกณฑ์ดีถึง 10% รวมทั้งคนไทยยังให้ความสำคัญกับวิตามิน บี น้อยอยู่ ส่วนมากคนไทยรู้จักและเข้าใจผลิตภัณฑ์วิตามิน ซี มากกว่า ทำให้ “เทเคดา” เล็งเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่จำทำตลาดสินค้า “วิตามิน บี” ที่ช่วยเรื่องความเหนื่อย เมื่อยล้าจากการทำงาน ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ส่ง “อะลินามิน เอ็กซ์ พลัส” แบรนด์วิตามินบีคอมเพล็กซ์ระดับพรีเมี่ยม ยอดขายอันดับหนึ่งจากประเทศญี่ปุ่น เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเต็มตัว
อีวาน พอลจัก ผู้อำนวยการฝ่ายการค้าอินโดไชน่า บริษัท ทาเคดา (ประเทศไทย) จำกัด เล่าถึงความสำเร็จในญี่ปุ่น และจุดเด่นที่จะนำมาใช้ในตลาดเมืองไทยว่า “คนญี่ปุ่นเชื่อืถอในแบรนด์ 99% รู้จัก และมองหาสินค้าที่มีคุณภาพ ผู้บริโภคมีการศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบ ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่เรานำมาที่ตลาดเมืองไทย รวมทั้งอุปนิสัยที่ค่อนข้างเทรดดิชั่นนัล อีกเรื่องคือการสื่อสาร ที่เราพยายามฟังเสียงจากผู้บริโภค ก่อนที่จะนำสินค้าเข้ามาเราทำงานวิจัยกว่า 3 ปี ทั้งการสัมภาษณ์สัมภาษณ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง หรือการสำรวจอื่นๆ การสื่อสารของเราส่วนหนึง่จะมาจาก Local Talent สร้างการสื่อสารที่เคลียร์ ใช้ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง พูดในสิ่งที่ผู้บริโภคคิด โดยเราเองก็ยึดมั่นในเรื่องการพัฒนา คิดว่าจะใช้ลูกค้าของเราได้อย่างไร”
“อะลินามิน เอ็กซ์ พลัส” หวังตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคของดิจิตอล ที่ลักษณะการทำงานและวิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป มีการใช้เทคโนโลยี อย่าง คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตมากขึ้นจนเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่ความเหนื่อยล้าและอาการอ่อนเพลีย จับกลุ่มคนทำงานในเมือง อายุ 25 ปีขึ้นไป ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อย่างไรก็ตามอินไซต์อย่างหนึ่งที่ทางเทเคดาค้นพบช่วงทำวิจัยก็คือ ผู้หญิงมีแนวดน้มจะซื้อสินค้าเพื่อสุขภาพเพื่อดูแลร่างกายให้กับคนใกล้ตัวมากกว่าผู้หญิง
เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านภาพยนตร์โฆษณา และการประชาสัมพันธ์ในเชิงให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพผ่านสื่อ สิ่งพิมพ์และออนไลน์ ในส่วนสื่อประชาสัมพันธ์จะมี “บ๊อบ-ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์” พิธีกรชื่อดังมาแสดงนำ เล่าเรื่องหัวหน้าครอบครัวที่มีหน้าที่รับผิดชอบมากมายแต่ก็ยังมีพลังในการทำงาน แอ็คทีฟได้เสมอ แถมตัวแพ็กเก็จจิ้งและสื่อส่งเสริมการขายอื่นๆ ก็ใส่ความเป็นญี่ปุ่นลงไป เพราะมีความน่าเชื่อถือในกลุ่มผู้บริโภคคนไทย รวมทั้งเดินสายให้ความรู้กับร้านขายยาในเขตกรุงเทพและหัวเมืองใหญ่
ในอนาคตบริษัทมีแผนนำเข้าวิตามินระดับพรีเมี่ยมจากประเทศญี่ปุ่นมารุกตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างอาณาจักรวิตามินในการขึ้นเป็นผู้นำตลาดภายใน 5 ปี รวมทั้งตลาดผลิตภัณฑ์ยาจำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ (OTC; over-the-counter) ในประเทศไทย ที่คาาดว่าจะมีอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์จากทาเคดาในตลาด OTC อีก 7%
รู้จักตลาดยา OTC กันไหม
ยาประเภท OTC มาจากคำว่า over-the-counter เป็นยาที่ซื้อหากันตามร้านขายยาได้เลย ไม่ต้องการคำสั่งซื้อจากแพทย์ มี 5 กลุ่ม 1.วิตามิน 2. ยารักษาโรคทางเดินอาหาร 3. ยาแก้หวัด ไอ 4. ยาระงับความเจ็บปวด 5. ยาที่ช่วยเรื่องความงาม ยา OTC มีส่วนแบ่ง 80% ของตลาดยารวมทั้งหมด 120,000 ล้านบาท ทาง “ทาเคดา” สนใจทำตลาดในผลิต 4 กลุ่มแรก