เอ็มอินเตอร์แอ๊คชั่น (mInteraction) ดิจิตอลเอเย่นซี่ในเครือกรุ๊ปเอ็ม (Group M) นำทีมโดย ศิวัตร เชาวรียวงษ์ CEO เอ็มอินเตอร์แอ็คชั่น จัดงานสัมมนาประจำปีครั้งที่ 5 ชื่อว่า GroupM #FOCAL2015 ภายใต้ตีม The NEW เพื่อสะท้อนภาพรวมของสื่อดิจิตอล เทรนด์ และอินไซต์ของผู้บริโภค สำหรับนักการตลาด/นักโฆษณาดิจิตอลนำเอาวางแผนการทำงานดิจิตอล โดย Brand Buffet สรุปสาระสำคัญดังนี้
The New Internet User
เมื่อจำนวนและปริมาณการใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นทุกปีๆ ผ่านทั้งคอมพิวเตอร์ และ mobile device ต่างๆ เปรียบเทียบได้จากการเติบโตของ Bandwidth แบบภายในปะเทศ จากปี 2013 อยุ่ที่ 1527k ถึง ปี 2014 อยู่ที่ 2038k (โตขึ้น 33%) ส่วนแบบภายนอกประเทศ จากปี 2013 อยู่ที่ 725k ถึงปี 2014 อยู่ที่ 1239k (โตขึ้น 70%) บวกกับสมาร์ทโฟนที่มีราคาถูกมากขึ้นมีเงินเพียง 990 บาทก็เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนได้แล้ว ซึ่งหมายถึง จะมีกลุ่มคนใช้งานอินเตอร์เน็ตกว้างขึ้นมากกว่าปีก่อนๆ ดังนั้นจะมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตกลุ่มใหม่(The New Internet User) หมายถึงกลุ่มผู้ที่ไม่เคยเล่นอินเตอร์เน็ตมาก่อน เช่น คนต่างจังหวัด ผู้สูงอายุ เป็นต้น
นอกจากนี้มีสถิติที่น่าสนใจพบว่า 2013/2014 Traffic จากเว็บไซต์รายใหญ่ต่างๆ 58%-70% มาจาก Mobile Device ดังนั้นแต่ละเว็บไซต์หรือแคมเปญยิ่งต้องมีโมบายเวอร์ชั่นรองรับ
The New Media
จากเมื่อปีที่แล้วนักการตลาดและเอเย่นซี่ต่างๆ Optimization แคมเปญแบบเรียลไทม์ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด สอดคล้องต่อเนื่อง ปีนี้จึงเริ่มนำเอาโปรแกรมมาช่วยจัดการแก้ปัญหาให้แต่ละแคมเปญดียิ่งชึ้น ทำให้มีรูปแบบมากขึ้น จะเพิ่มเติมตัดแก้งานครีเอทีฟ หรือเปลี่ยนคอนเท้นท์ก็ง่ายดาย ผ่าน Progammatic Buying ที่วิเคราะห์ดาต้ามหาศาลได้อย่างง่ายดาย และทำงานได้อย่างสมาร์ทมากขึ้น
The NEW content
เมื่อปีที่แล้วเป็นกระแสของ Multi-Screen VDO คนเริ่มเสพสื่อวีดีโอผ่านหลายๆช่องทางในเวลาเดียวกัน พอมาปีนี้เองผู้ผลิตคอนเท้นท์จะต้องเอาตัวรอดให้ได้กับสถานการณ์ที่คอนเท้นท์จำนวนมหาศาลเกิดขึ้นมาใหม่อยู่ทุกวัน ด้วยการนำเสนอคอนเท้นท์ในรูปแบบต่างๆให้ฟิตพอดีกว่าทุกสกรีน ไปไหนก็ดูได้ เช่น การแบ่งความยาวของคอนเท้นท์ให้เหมาะกับแต่ละแพลตฟอร์ม เป็นต้น
ตัวอย่างเช่น LINE ก็ต่อยอดออกมาเป็น LINE TV จับมือกับซันนี่ GTH ทำละคร หรือ ข่อง 7 ที่ทำแพลตฟอร์ม Bugaboo
The NEW Era of e-Commerce Marketing
ยุคของอีคอมเมิร์สที่เติบโตขึ้นจากอดีตอย่างมาก เนื่องด้วยหลายปัจจัย เช่น ช่องทางการขำระเงิน (payment methods) ที่สะดวกมากขึ้น ประกอบบริการโลจิสติกส์อย่างเช่น ไปรษณีย์ไทย DHL หรือ เจ้าอื่นๆ พัฒนาบริการดีขึ้น และปัจจัยสำคัญของ Search Engine อย่าง Google ที่สามารถทำให้ค้นหาสินค้าที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ยิ่งทำให้เป็นการกระตุ้นการซื้อจากลูกค้าใหม่ๆมากขึ้นไปอีก พอมีลูกค้าจำนวนมากพอ ผู้ขายก็จะเข้ามาขายในออนไลน์มากขึ้น และสุดท้ายพื้นฐานคนไทยส่วนใหญ่เป็น SME จึงทำให้มีสินค้าหลากหลายถูกนำมาขายในออนไลน์
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยพบว่า “อินเตอร์เน็ต” จากเดิมที่เป็นช่องทางการสื่อสารของนักการตลาดและนักโฆษณา กำลังจะกลายเป็นช่องทางสร้างรายได้หรือส่งเสริมให้เกิด Transaction ได้อย่างชัดเจน บวกกับสื่อดั้งเดิมที่จะมุ่งเน้นเพียงสร้าง Awareness ซึ่งส่งผลไปยังการจัดการงบประมาณสื่อสารการตลาดที่จะถูก Shift ไปยังสื่อดิจิตอลมากขึ้น
เย้ๆๆ อีกหนึ่งช่องทางรับข่าวสารกับ Brand Buffet ผ่าน LINE ไม่ตกหล่นทุกข่าวสำคัญ
เพิ่มเพื่อนรัวๆ ที่ ID : @brandbuffet