HomePR Newsไทยพาณิชย์ ฉวยวิกฤตเป็นโอกาส ยกระดับอาคารสำนักงานใหญ่ สู่มาตรฐานระดับโลก [PR]

ไทยพาณิชย์ ฉวยวิกฤตเป็นโอกาส ยกระดับอาคารสำนักงานใหญ่ สู่มาตรฐานระดับโลก [PR]

แชร์ :

SCB _ Renovate _ Head Office

 

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ที่ผ่านมา ธนาคารมีนโยบายปรับวิกฤตให้เป็นโอกาส  โดยหาแนวทางในการปรับปรุงระบบความปลอดภัยและงานบริหารอาคารในทุกๆ ด้านอย่างละเอียด เพื่อที่จะยกระดับสภาพแวดล้อมในการทำงานและการให้บริการต่อลูกค้าให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้น ตั้งเป้าหมายยกระดับมาตรฐานของอาคารและระบบความปลอดภัยให้เป็นมาตรฐานโลก โดยตั้งเป้าให้เป็นอาคารสำนักงานต้นแบบที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพความปลอดภัยสูงสุดสำหรับในอนาคต

นายอาทิตย์ นันทวิทยา รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารตระหนักดีว่า เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นบทเรียนที่สำคัญ ธนาคารจึงได้จัดตั้งคณะกรรมการด้านความปลอดภัย เพื่อกำกับดูแลและตรวจสอบให้ระบบความปลอดภัยของอาคารมีความปลอดภัยในระดับที่สูงขึ้น โดยจัดหาทีมงานผู้เชี่ยวชาญระดับสากลในด้านต่างๆ มาให้คำแนะนำในการพัฒนาปรับปรุงอาคารทั้งทางด้านโครงสร้างอาคาร ระบบอากาศ ระบบไฟฟ้า ลิฟท์ ระบบความปลอดภัย คุณภาพของสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้มีมาตรฐานและทันสมัยที่สุดในขณะนี้ เพื่อให้ลูกค้าและพนักงานมีความมั่นใจในสวัสดิภาพและความปลอดภัย โดยธนาคารได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางด้านระบบรักษาความปลอดภัย ได้แก่ บริษัท Protection Advisory จากสหรัฐอเมริกา มาวางกลยุทธ์ระบบรักษาความปลอดภัยภายในอาคารทั้งหมด รวมถึงได้แต่งตั้งบริษัท Meinhardt เป็นที่ปรึกษาด้านงานวิศวกรรม การวางแผนและการจัดการระดับโลก เพื่อให้คำแนะนำและประสานงานกับผู้เชี่ยวชาญพิเศษในสาขาต่าง ๆ อีกด้วย

โดยหลังจากเกิดเหตุ ทางธนาคารได้เรียนเชิญดร.การุญ จันทรางศุ วิศวกรผู้ออกแบบอาคาร รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เข้าสำรวจความเสียหายภายในบริเวณที่เกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบในทันที  ซึ่งได้รับการยืนยันว่าระบบโครงสร้างของตัวอาคารธนาคารไทยพาณิชย์ ยังคงมีความแข็งแรง แม้จะถูกเพลิงไหม้ไปบางส่วน แต่ก็เป็นพื้นที่เล็กน้อยประมาณ 250 ตารางเมตร สามารถซ่อมแซมให้กลับสู่สภาพการใช้งานได้ตามปกติ  ทั้งนี้ที่ผ่านมาธนาคารคำนึงถึงความปลอดภัยและสุขภาพของพนักงานและลูกค้าเป็นสำคัญ โดยได้มีการฟื้นฟูอาคารแบ่งเป็น 4 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังต่อไปนี้

  • ระบบคุณภาพอากาศหมุนเวียนภายในอาคาร

เรื่องคุณภาพอากาศหมุนเวียนในอาคาร นับเป็นเรื่องที่ธนาคารมีความห่วงใยที่สุด โดยธนาคารได้เรียนเชิญดร.ลภณ โมกขะสมิต ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคาร จากมหาวิทยาลัยมหิดล และมีประสบการณ์จากเพลิงไหม้อาคารขนาดใหญ่เข้ามาเป็นที่ปรึกษา โดยร่วมกับกรมอนามัยตรวจวัดคุณภาพอากาศทั้งก่อน ระหว่าง และหลังทำการปรับปรุงมากกว่า 1,000 จุด รวมถึงการวางแผนเพื่ออัพเกรดระบบปรับอากาศ และระบบที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้มีความปลอดภัยสูงสุด ได้แก่ การทุบกระจกเพื่อระบายอากาศ และอัดอากาศจากภายนอกเข้ามาเพื่อไล่อากาศพิษออกไป โดยธนาคารได้ว่าจ้างบริษัท จาร์ดีนเอ็นจิเนียริ่ง (Jadine Engineering) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในประเทศไทยมาเกือบ 80 ปี และ บริษัท ราชเทวีเอ็นจิเนียริ่ง (Ratchathevee Engineering) ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการวางแผนทำความสะอาดท่อแอร์ และติดตั้งระบบปรับอากาศมายาวนาน มารับผิดชอบด้านปรับปรุงระบบปรับอากาศ

  • ระบบความสะอาดของอาคารและเครื่องมืออุปกรณ์ัสำนักงาน

ในส่วนของการทำความสะอาด  ซึ่งเป็นส่วนที่ธนาคารต้องเร่งดำเนินการทั้งในส่วนที่โดนไฟไหม้ และพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำของสปริงเกอร์และการดับเพลิง โดยแบ่งการทำงานเป็น 2 ส่วน คือ 1. การทำความสะอาดทั่วไป และ 2. การทำความสะอาดที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากการทำความสะอาดทั่วไปไม่สามารถทำได้ โดยในส่วนนี้ธนาคารได้ว่าจ้างบริษัท เบลฟอร์ (Belfor) จากสหรัฐอเมริกาซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูอาคารที่โดนเพลิงไหม้โดยเฉพาะ  ทั้งนี้ธนาคารไทยพาณิชย์นับเป็นที่แรกที่มีการทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในชั้นที่มีความเสี่ยง โดยใช้เทคโนโลยีจากต่างประเทศที่เรียกว่า Decontaminate Electronic เข้ามาใช้ โดยถอดชิ้นส่วนของคอมพิวเตอร์ออกเป็นชิ้น ๆ แล้วใช้น้ำ Deionize ซึ่งมีคุณสมบัติสามารถล้างคราบสารพิษออกได้ จากนั้นจะมีน้ำยาพิเศษในการทำความสะอาดให้ชิ้นส่วนแห้งอีกด้วย

  • ระบบความปลอดภัย

ด้านระบบความปลอดภัย Fire Alarm และ Security นั้นจะต้องเป็นระบบที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงจะสามารถให้เข้าอาคารได้ตามมาตรฐานของอาคารสูง ธนาคารมีบริษัท Honeywell System Thailand ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงได้รับการยอมรับในระดับโลก ซึ่งดูแลระบบความปลอดภัยให้กับธนาคารอยู่แล้ว เข้ามาตรวจสอบการทำงานทุกจุด พร้อมทั้งแก้ไขฟื้นฟูให้กลับมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยปรับเปลี่ยนอะไหล่เป็นเทคโนโลยีรุ่นใหม่ล่าสุด เพื่อช่วยให้สามารถตรวจจับและตอบสนองได้เร็วกว่าเดิม

  • ระบบลิฟต์โดยสาร

ด้านระบบลิฟต์ ที่นับว่ามีความสำคัญ ธนาคารได้ให้บริษัท Mitsubishi Electric ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำและทำงานให้กับธนาคารอยู่แล้ว เข้ามาทำการฟื้นฟูโดยเปลี่ยนแผงวงจรควบคุม และลวดสลิงใหม่ทั้งหมด และทดลองระบบลิฟท์ให้รองรับทุกสถานการณ์

ทั้งนี้ผู้บริหารตลอดจนพนักงานทุกคนของธนาคารไทยพาณิชย์ขอยืนหยัด ที่จะมุ่งมั่นปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์และการให้บริการทางการเงินต่าง ๆ ต่อลูกค้าของเราให้ดีที่สุดเสมอ พร้อมก้าวไปด้วยกันอย่างแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม


แชร์ :

You may also like