เสียงบ่นเรื่องความร้อนของฤดูนี้เต็มหน้าฟีดในโซเชี่ยลมีเดียยอดฮิตของคนไทย น่าจะเป็นเครื่องการันตีได้ว่านี่คงเป็นไม่กี่เรื่องที่เราเห็นพ้องต้องกันไปในทางเดียวจริงๆ และเป็นธรรมดาที่ในหน้าร้อนแบบนี้สินค้ายอดฮิตที่ขายดีทั้งหลายก็แห่กันเปิดตัวหรือมีโปรโมชั่นพิเศษออกมาเพื่อคลายร้อนให้ผู้บริโภค ล่าสุดเครื่องปรับอากาศไดกิ้น ก็ไม่ตกกระแสเปิดตัว “ไดกิ้น เอกิระ” สินค้าใหม่ที่จะมาช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดแอร์ด้วยจุดเด่น 2 เรื่องสำคัญนั้นก็คือ 1. ดีไซน์ 2. นวัตกรรม
แอร์ = เฟอร์นิเจอร์อย่างหนึ่งในบ้าน
ดีไซน์ที่พัฒนาขึ้นมาอย่างเด่นชัดของ “ไดกิ้น เอกิระ” น่าจะประเด็นที่สร้างเซอร์ไพร์สให้กับคนในวงการเป็นอย่างมาก ต้องยอมรับว่าเครื่องปรับอากาศก็กลายเป็นหนึ่งในเฟอร์นิเจอร์ไปแล้ว แถมยังเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่เสมือนบิวท์-อิน ติดตั้งแต่อยู่นานไม่ได้เปลี่ยนกันบ่อยๆ “ไดกิ้น เอกิระ” จึงถูกพัฒนาขึ้นด้วยแนวคิดเรื่องการออกแบบที่ว่า “Style into You” นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เครื่องปรับอากาศรุ่นนี้ มีความโดดเด่นกว่าไม่ว่าจะเป็นยามเปิดหรือปิด มีสีให้ผู้บริโภคเลือก 2 สีคือสีขาวควอตซ์ไวท์และสีเงินเอเลแกนท์ซิลเวอร์เพื่อเป็นทางเลือกให้เหมาะกับการตกแต่งภายในของที่อยู่อาศัยของแต่ละคน โดดเด่นด้วยหน้ากากอันโค้งมน แปลกตากว่าเครื่องปรับอากาศทั่วไป ที่สำคัญคือแอร์รุ่นนี้ยังไม่ได้สวยแค่ตอนปิด บานสวิงจะสไลด์ขึ้นในยามที่เปิดเครื่อง ตัวฐานมีดวงไฟส่องสว่าง แถมยังเปลี่ยนสีตามสถานะการทำงานที่เปลี่ยนไปตามแต่ละโหมดการใช้งาน ทำให้เวลาเปิดเครื่องแอร์รุ่นนี้ก็ยังเท่ได้อีก จนได้รับรางวัลชนะเลิศการออกแบบจากสถาบัน เรดดอท ดีไซน์ อวอร์ด ในปี 2014 ซึ่งเป็นสถาบันเก่าแก่และน่าเชื่อถือที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและยังเดินหน้ากวาดรางวัลด้านการออกแบบมาอีกมากมาย
นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ใช้งานง่าย
ถ้าพูดถึงสิ่งแวดล้อมแล้ว ต้องบอกว่าอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อทำความเย็นทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นตู้เย็นหรือเครื่องปรับอากาศมักบรรจุสารทำความเย็นที่มีคุณสมบัติทำลายชั้นโอโซนแต่เราก็ยังจำเป็นต้องใช้ ดังนั้น “ไดกิ้น” จึงหาทางออกด้วยการใช้ R32 สารทำความเย็นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างมาก โดยมีคุณสมบัติโดดเด่น ไม่ทำลายโอโซน (Ozone) อีกทั้งยังก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนน้อยกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับสารทำความเย็นปัจจุบัน และมีประสิทธิภาพการทำความเย็นมากกว่าเดิมถึง 60% ทำให้เย็นเร็ว เย็นจัด ประหยัดพลังงาน
สมัยนี้ใครซื้อแอร์ใหม่ ถ้าเป็นไปได้ กำลังซื้อถึง ก็เลือกเครื่องปรับอากาศในระบบ Inverter ทั้งนั้น เพราะผู้บริโภคคนไทยที่ต่อสู้กับอากาศร้อนมาจนเชี่ยวชาญรับทราบแล้วว่าแอร์ที่มีคุณสมบัตินี้ประหยัดพลังงานและเงินค่าไฟในแต่ละเดือนราว 40% ด้วยระบบนี้เมื่อแอร์ทำความเย็นถึงจุดที่กำหนด คอมเพรสเซอร์จะทำงานน้อยลง แถมยังประหยัดน้ำยาแอร์ และด้วยการพัฒนาใบพัดแบบ Skew-angled Random-pitched Blades ของ “ไดกิ้น เอกิระ” ก็ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนอากาศได้ดียิ่งขึ้น เครื่องทำงานเงียบสนิทเพียง 19 เดซิเบล หรือเปรียบเทียบให้เข้าใจมากขึ้นก็ต้องบอกว่าระดับเดียวกับเสียงกระซิบนั่นแหละ
[youtube]https://www.youtube.com/watch?v=EOavHf-Ob5A[/youtube]
นอกจากนี้แอร์รุ่นนี้ยังไฮเทคสุดๆ ตามเทรนด์ Internet of Thing ที่ผู้บริโภคสามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านด้วยสมาร์ทโฟน “ไดกิ้น เอกิระ” มีอุปกรณ์ WLAN แบบต่อแล้วใช้งานได้เลย ควบคุมด้วยแอพพลิเคชั่นที่เรียกว่า Daikin Mobile Controller Application รองรับทั้งระบบ iOS และ Android ช่วยให้ผู้ใช้งานตั้งค่าเวลาเปิดปิดหรือปรับอุณหภูมิจากที่ไหนก็ได้ควบคุมเครื่องปรับอากาศแม้จะอยู่นอกบ้าน เป็นระบบที่มีประโยชน์ในหน้าร้อนนี้จริงๆ เพราะเข้าบ้านปุ๊บจะได้สัมผัสกับความเย็นปั๊บ และต่อไปนี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องลืมปิดแอร์ก่อนออกจากบ้านแล้ว
ด้วยเหตุนี้ “ไดกิ้น เอกิระ” จึงน่าจะเป็นตัวเลือกหนึ่งของผู้บริโภคในหน้าร้อนนี้ เพราะคุณสมบัติที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ความจริงแล้วแอร์ตัวหนึ่งยังมีเรื่องให้ศึกษาอีกมาก ซึ่งผู้อ่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/DaikinSocietyThailand หรือโทรศัพท์ Call Center 02-715-3333 ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ 8.00 – 19.00 น. เสาร์ – อาทิตย์ 8.00 – 17.00 น. อย่างที่บอกว่าแอร์ตัวหนึ่งเทียบได้กับเฟอร์นิเจอร์บิวท์-อินที่จะอยู่คู่บ้านไปอีกนาน ค้องเลือกให้เหมาะกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
Did You know ?
1. ไดกิ้นเป็นบริษัทเครื่องปรับอากาศรายแรก ที่นำเข้าและผลิตเครื่องปรับอากาศ “อินเวอร์เตอร์” ในประเทศไทย
2. ไดกิ้น มีเทคโนโลยีที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ คือ สวิง คอมเพรสเซอร์ (Swing compressor) ควบคุมการหมุนของลูกสูบให้เกิดความราบเรียบ ลดการเสียดทานและแรงสั่นสะเทือน ทั้งยังป้องกันการรั่วไหลของสารทำความเย็นภายในเครื่องปรับอากาศ จึงทำให้เครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์เดินเครื่องได้เงียบกว่าและประหยัดพลังงานกว่า ลิขสิทธิ์เฉพาะของไดกิ้นนี้ ได้รับรางวัลจาก The Japan Society for the Promotion of the Machine Industry ในปี 1997
3. ในอดีต สารทำความเย็นที่มีสาร CFC เป็นส่วนประกอบถูกใช้ในเครื่องปรับอากาศอย่างแพร่หลายแต่ด้วยข้อตกลงในพิธีสารมอนทรีออลกำหนดให้สาร CFC เป็นสารอันตรายที่ทำลายชั้นโอโซนและเรียกร้องให้มีการเลิกใช้สารทำความเย็นนี้ สาร HCFC (R22) จึงเป็นทางเลือกทดแทนสำหรับสารดังกล่าว อย่างไรก็ดี HCFC ก็ถูกระบุให้อยู่ในรายชื่อสารอันตรายที่ถูกระงับให้มีการเลิกใช้ในเวลาต่อมาเพราะสารนี้ก็มีส่วนในการทำลายชั้นโอโซนเช่นกัน ดังนั้นจึงมีการเรียกร้องให้เลิกใช้สารทำความเย็น R22 ที่มีส่วนประกอบของ HCFC ในปี 2020 สำหรับประเทศอุตสาหกรรม และปี 2030 สำหรับประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งไดกิ้นก็เป็นเจ้าแรกในเมืองไทยอีกเช่นเคที่ใช้ สารทำความเย็นเจเนอเรชั่นใหม่ R32 นี้
[Advertorial]