เชื่อว่าหลายๆคนคงจะได้ยินมาบ้างแล้วว่าช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมานี้ Facebook นั้นเดินหน้าเต็มกำลังเพื่อที่จะขึ้นเป็นผู้นำด้านการให้บริการแลกเปลี่ยนวีดีโอบนอินเตอร์เน็ต โดยที่อเมริกา เมื่อกันยายนปีที่แล้ว Facebook มีจำนวนยอดวิวของวีดีโอบน Desktop แซงหน้า Youtube ไปเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเร็วๆนี้ Facebook ก็ได้มีการปรับปรุงวีดีโอฟังชั่นต่างๆของตนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมไปถึงการใส่ Playlists และเพิ่ม Tab Video ใน Facebook Page อีกด้วย เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว นักการตลาดก็ควรจะเริ่มตื่นตัว มันอาจจะถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมาปรับการทำ Video Strategy ใหม่อีกครั้ง
Youtube
ถึงแม้ว่าก้าวแรกของ Facebook นี้จะเริ่มส่งผลในการทำ Video Content ของเรา แต่นั้นก็ไม่ใช่ว่าเราควรจะทิ้ง Youtube แล้วหันมาโฟกัสกับ Facebook อย่างเดียว เพราะอย่าลืมว่า Youtube นั้นมีฐานผู้ใช้บริการมากกว่า 1000 ล้าน คน ซึ่งก็นับได้เป็นหลายร้อยล้านชั่วโมงต่อวัน และระยะเวลาการชมวีดีโอในแต่ละเดือนก็เพิ่มขึ้นมากถึง 50% ของทุกๆปี
สิ่งที่เราควรทำตอนนี้คือดูจุดประสงค์ของเราเป็นหลักว่าเราต้องการจะทำอะไร ถ้าเราต้องการให้วีดีโอคอนเท้นท์ของเรานั้นพบเจอได้เรื่อยๆโดยผู้ใช้บริการหน้าใหม่ (new searcher) Youtube ก็ยังเป็นช่องทางที่สำคัญอยู่ Youtube เป็นช่องทางที่ดีเวลาเราต้องการจะอัพโหลดวีดีโอคอนเท้นท์ เพื่อให้คนค้นหาเจอแบบ organic (organic search) นอกจากนี้การใส่คีย์เวิร์ดลงไปในชื่อของวีดีโอ คำอธิบาย และ Tag จะช่วยทำให้คนหาวีดีโอของเราได้ง่ายขึ้น
Report จาก Socialbakers เผยว่า การโพสวีดีโอคอนเท้นท์บน Facebook ตอนนี้นั้น มียอด Reach สูงกว่าการโพสประเภทอื่นเสียอีก นี่เป็นเพราะ Facebook ต้องการจะผลักดันให้คนหันมาโพสวีดีโอกันมากขึ้น ดังนั้นถ้าเราสามารถวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมในการทำวีดีโอคอนเท้นท์ มันจะจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่ทำให้เราสามารถส่งคอนเท้นท์ที่เราต้องการจะสื่อสารให้กับกลุ่มเป้าหมาย มากกว่าการโพสรูป หรือตั้ง status post เสียอีก
Facebook เริ่มกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกของการทำวีดีโอโฆษณา ล่าสุดมี Report จาก Mixpo ซึ่งเปิดเผยว่านักโฆษณาและเอเจนซี่ต่างๆเริ่มหันมาสนใจทำวีดีโอโฆษณากันมากขึ้น เมื่อถามพวกเขาว่าเมื่อปีที่แล้วแพลตฟอร์มไหนที่เขาทำวีดีโอแคมเปญมากที่สุด คนส่วนใหญ่จะตอบว่าเขาวางแผนที่จะทุ่มให้กับวีดีโอโฆษณาบน Facebook มากกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ รวมไปถึง Youtube อีกด้วย
สำหรับนักโฆษณาแล้ว Social Network คือสิ่งที่ง่ายต่อการทำโฆษณา เพราะเราสามารถเลือกที่จะสื่อสารให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้ Facebook นั้นไม่ได้มีดีแค่การทำ Targeting เพราะเรายังสามารถสร้าง Engagement ได้อีกด้วย ส่วน Youtube นั้นถึงแม้ว่าจะดีต่อการทำ SEO และเพิ่มยอดวิว แต่เราต้องไม่ลืมว่าสมัยนี้ยอดวิวกลายเป็นสิ่งที่นักการตลาดส่วนใหญ่เริ่มให้ความสำคัญน้อยลงแล้ว
นอกจากนี้ Mixpo เผยว่าบริษัทได้ทำการวิจัยในเรื่องความสำคัญของ metric ต่างๆในการทำวีดีโอโฆษณา ซึ่งผลปรากฏออกมาว่า ยอดวิวนั้นจัดเป็นอันดับที่ 5 ที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ โดยอันดับ 1 ในตอนนี้คือ Engagement นั้นเอง
บทสรุปของชัยชนะครั้งนี้จะเป็นของใคร เรายังคงตอบไม่ได้ในตอนนี้ แต่ว่าทั้ง Youtube และ Facebook นั้นก็จัดว่าเป็นแพลตฟอร์มที่มีความสำคัญในการทำ Online Video Strategy ดังนั้นการที่เรานำจุดเด่นของทั้งคู่มาใช้นั้นจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการทำวีดีโอคอนเท้นท์ของเรานั้นเอง