เซ็ปเป้ (Sappe) ผู้บุกเบิกและผู้นำตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชั่นนอลดริ๊งค์ (Functional Drinks) ในประเทศไทย ที่โฟกัสชัดเจนในเรื่องเครื่องดื่มสำหรับความสวยงามแบรนด์ “เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์” มากว่า 10 ปี จนประสบความสำเร็จและกลายเป็น Top of Mind ของผู้บริโภคจำนวนมาก ล่าสุดปีนี้เอง Sappe มีความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ Restage แบรนด์ “เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์” ทั้งปรับสูตรและแพ็คเก็จจิ้งใหม่ยกเซ็ต เมธี จารุมณีโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ขายและการตลาด บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) มาอธิบายถึงเบื้องหลังของการทำ “รีแบรนด์” ครั้งใหญ่ ให้กับ Brand Buffet ดังนี้
Value คือ ทางออก
ในสมรภูมิตลาดเครื่องดื่มรวมในประเทศไทยที่แข่งขันกันอย่างรุนแรง แม้ว่าต้องแข่งขันกับคู่แข่งในหมวดเดียวกัน แต่จริงแล้วยังต้องมาแข่งกับโปรดักซ์เครื่องดื่มต่างหมวดด้วยเช่นกัน ที่ต่างก็เติมคุณประโยชน์ต่างๆในเครื่องดื่มทำให้น่าสนใจมากขึ้น และฟาดฟันกันด้วยโปรโมชั่นราคา จนทำให้ความแตกต่างของ เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ ดูจืดจางลงไป
“เซ็ปเป้ เป็น Innovator เรื่องบิวตี้ดริ้งค์มาตั้งแต่แรก แต่ช่วงที่ผ่านมาตลาดเริ่มมีสินค้าจำนวนมากที่มีการ Add Functional ต่างๆเข้าไปในเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็น คอลลาเจน ไฟเบอร์ หรือวิตามินต่างๆนานา ซึ่งทำให้เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ ดูไม่แตกต่างจากท้องตลาด ประกอบกับตลาดเครื่องดื่มการแข่งขันสูงโดยเฉพาะสงครามโปรโมชั่นและราคาในช่วงปีที่ผ่าน ทำให้เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเราเอง ให้มี Value มากขึ้น และสร้าง Loyalty เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางตลาดอย่างยั่งยืน”
มัดใจด้วย “โปรดักซ์” ไม่มีน้ำตาล ไม่อ้วน
เมื่อตลาดมีสินค้าที่คล้ายกัน การสร้างความแตกต่าง คือ ต้องสร้าง “Value” ของโปรดักซ์ให้ชัดเจนมากขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น Sappe ได้ทำเวิร์คช๊อปและวิจัยความต้องการของผู้บริโภคพบว่า อุปสรรคของผู้บริโภคเข้าถึงเครื่องดื่มปัจจุบัน คือ สินค้ามีน้ำตาลเยอะเกินไป กลัวอ้วน และ เครื่องดื่มไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
จึงทำโปรดักซ์เซตใหม่นี้ทั้ง 6 สูตร ได้แก่ 1) สูตรคอลลาสกิน รวมส่วนผสมที่ดีที่สุดเพื่อผิวสวยสดใส เปล่งประกาย 2) สูตรเอส-ลิม รวมส่วนผสมที่ดีที่สุดเพื่อหุ่นสวย ทั้งบล๊อคแป้ง เบิร์นพลังงาน ดักจับและสลายไขมัน ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย 3) สูตรบิวติท็อกซ์ รวมส่วนผสมที่ดีที่สุดเพื่อความสวยใสจากภายใน เพราะช่วยล้างสารพิษที่ตกค้างและช่วยลดกลิ่นตัว กลิ่นปากได้อีกด้วย 4) สูตรบิวติอายส์ รวมส่วนผสมที่ดีที่สุดเพื่อดวงตาเป็นประกาย ใสปิ๊ง 5) สูตรซิลกี้ซาลอน รวมส่วนผสมที่ดีที่สุดเพื่อผมสวยเงางาม เล็บแข็งแรง ซึ่งสูตรนี้นับเป็นนวัตกรรมใหม่รายแรกของโลก ที่คิดค้นเครื่องดื่มเพื่อผมและเล็บ 6) สูตรบิวติลิฟท์ รวมส่วนผสมที่ดีที่สุดเพื่อความสวยชะลอวัยให้ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ ช่วยลดริ้วรอย บำรุงกระดูก ลดผมขาว
โดยทุกสูตรไม่ผสมน้ำตาล แต่มีความหวานจากผลไม้ธรรมชาติ ซึ่งให้พลังงาน 30-60 Kcal ต่อขวด พร้อมกับคัดสรรส่วนผสมที่ที่ดีที่สุดจากแหล่งที่มีคุณภาพ มาผสมเพื่อให้ผู้ดื่มเห็นผลอย่างชัดเจนที่สุด ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บิวติ ดริ้งค์ สูตรใหม่ ไม่ผสมน้ำตาล รวมส่วนผสมที่ดีที่สุดเพื่อความสวย” ตัวอย่าง Beauti Drink S-Lim เมื่อก่อนเราจะใส่แค่ ไฟเบอร์ ที่ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย แต่สูตรใหม่นี้เพิ่ม Active Ingredients มากถึง 8 ชนิด เพื่อช่วยตั้งแต่ บล็อกแป้ง เบิร์นพลังงานส่วนเกิน ดักจับและสลายไขมัน และเพิ่มกากใยเพื่อกระตุ้นการขับถ่าย จะเห็นว่า ใน Beauti drink S-LIM 1 ขวด จะช่วยทุกเรื่องที่เกี่ยวกับหุ่นของผู้หญิงอย่างครบถ้วน
“ผู้บริโภคกลุ่มเครื่องดื่มแตกต่างจากกลุ่มอื่น ส่วนใหญ่ตัดสินใจซื้อ ณ จุดขาย เป็นหลัก ดังนั้นเราจึงต้องทำสินค้าให้โดดเด่นด้วยแพ็คเกจจิ้ง ปรับโลโก้ สร้างแบรนด์ให้น่าสนใจ มีคุณค่า และที่สำคัญสินค้าต้องสร้างความประทับใจให้พวกเขาจริงๆ”
รวม 2 พลัง Net Idol
ภายใต้งบการตลาดปีนี้ 100 ล้านบาท นอกจากจะปรับสูตรและแพ็คเก็จจิ้งแล้ว เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ ยังขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคออกไปอีกจากเดิม 25-40 ปี เป็น 18-40 ปี โดยต้องบาลานซ์สื่อให้เหมาะสมทั้งสื่อดั้งเดิมและสื่อออนไลน์ เนื่องจากเดิมผู้บริโภคเสพสื่อจอเดียว ตอนนี้กลายเป็น Multiple Screen พร้อมกับต้องหาอะไรแปลกใหม่ๆให้กับกลุ่มเป้าหมายเด็กๆด้วย โดยครั้งนี้กลยุทธ์พรีเซนเตอร์ผ่าน Net Idol ได้แก่ “พิมฐา” ฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล และ “โยเกิร์ต” รวีวรรณ บุญประชม ทั้ง 2 คน นอกจากจะมีผู้ติดตามในโลกออนไลน์จำนวนมากแล้ว ที่สำคัญมีความน่าเชื่อถือและสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าเซเลปบริตี้
“เดิมที เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ จับกลุ่มพนักงานออฟฟิศ หรือ First Jobber แต่ตอนนี้ต้องเริ่มขยายมาถึงกลุ่มที่เด็กลง คือ วัยนักศึกษา ซึ่งมีพฤติกรรมใส่ใจเรื่องความงามและสุขภาพกันจำนวนมาก และพวกเขามักเปิดรับข้อมูลข่าวสารต่างๆจาก Net Idol ที่เขาชื่นชอบ จึงเป็นที่มาของ Net Idol ทั้งสองคน “พิมฐา” และ “โยเกิร์ต” ที่ถูกใช้ในสื่อออนไลน์ และ สื่อออฟไลน์ ตลอดปีนี้ ”
ด้วยการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ ตั้งเป้าทวงบัลลังก์เบอร์ 1 ของกลุ่ม Functional Drink หรือ Casual Healthy Drink จากปัจจุบันที่เป็น “แมนซั่ม” มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ 35% ขณะที่ เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ 23% และ B-ing 13% พร้อมกับเป้าหมายรายได้ภายในปี 2017 ที่ 5,000 ล้านบาท จากปี 2557 อยู่ที่ 2,800 ล้านบาท
ปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
เมธี จารุมณีโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ขายและการตลาด
[Advertorial]