ปรากฏการณ์ครั้งสำคัญสำหรับบิวตี้ เลิฟเวอร์กับการเปิดตัว แฟล็กชิพ สโตร์แห่งแรกของ อินนิสฟรี (innisfree) แบรนด์ชั้นนำอันทรงเอกลักษณ์เฉพาะตัว ณ เซ็นเตอร์พ้อยท์ ออฟ สยามสแควร์ เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามจากธรรมชาติ ซึ่งได้รับความเชื่อถือ ไว้วางใจ และได้รับความนิยมสูงสุดในเกาหลี ขอต่อยอดความสำเร็จอีกครั้งในงาน innisfree Festa Thailand 2015 ด้วยความภาคภูมิใจในการแนะนำแบรนด์แอมบาสเดอร์จากเกาหลี – ลี มิน โฮ
innisfree หรือ “เกาะแห่งธรรมชาติอันบริสุทธิ์” (pure island) ถ่ายทอดภารกิจตามปรัชญาประจำ แบรนด์ ในการพัฒนา และนำเสนอผลิตภัณฑ์ความงาม ซึ่งคำนึงถึงสุขภาพกาย และใจของผู้ใช้ โดยอาศัยบรรดาส่วนผสมอันแสนบริสุทธิ์จากเกาะเชจู ดินแดนแห่งธรรมชาติที่สะอาด ปราศจากสิ่งปนเปื้อน และมลภาวะ ผ่านปรากฏการณ์ innisfree Festa ซึ่งได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในประเทศต่างๆ ทั้งฮ่องกง, ไต้หวัน, สิงคโปร์ และมาเลเซีย
เริ่มต้นการเดินทางสู่ดินแดนแห่งความงามตามธรรมชาติอันสะอาดบริสุทธิ์กับเรื่องราวของ innisfree ผลิตภัณฑ์อิงธรรมชาติคือตัวกำหนดปรัชญาและนำมาซึ่งประวัติความเป็นมาประจำแบรนด์ พร้อมกับพัฒนาโยงใยความสัมพันธ์อันเลอค่าที่มีต่อ “เกาะเชจู” อันแสนสะอาดบริสุทธิ์ผ่านโปสเตอร์ภาพกราฟฟิกนำเสนอข้อมูลสีสันสดใส สะดุดตา จากนั้นบรรดาแขกเหรื่อก็ได้รับเชิญให้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มต่างๆ ของ innisfree ในบริเวณโซนจัดแสดงกลุ่มผลิตภัณฑ์ 8 Solutions พร้อมกับได้ทำการศึกษา เรียนรู้ถึงเหล่าส่วนผสมจากธรรมชาติ ที่นำมาใช้ในการปรุงสูตรผลิตภัณฑ์ผ่านแผนผังขนาดใหญ่ที่บอกเล่าเรื่องราวของ 8 Solutions
นอกเหนือจากมรดกความเป็นมาอันพรั่งพร้อม และกลุ่มผลิตภัณฑ์ถนอมผิวที่เป็นที่ต้องการอย่างสูง innisfree ยังเป็นที่รู้จักในด้านของจรรยาบรรณในระบบนิเวศ โดยในบริเวณพื้นที่ซึ่งจัดเป็น Eco-house ทุกท่านจะได้เรียนรู้และทำความเข้าใจถึงแผนรณรงค์ของ “กรีนไลฟ์แคมเปญ” (Green Life Campaign) ของ อินนิสฟรีและภารกิจในการอุทิศตนเพื่อสร้างสรรค์อนาคตของธรรมชาติอันสดใส คืนความบริสุทธิ์ให้แก่ระบบนิเวศธรรมชาติผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิเช่น การใช้ผ้าเช็ดหน้าอนุรักษ์ระบบนิเวศของอินนิสฟรี แทนการใช้กระดาษทิชชู, การนำขวดเปล่าของเครื่องสำอางมารีไซเคิล, การอนุรักษ์เสน่ห์ความงามตามธรรมชาติของเกาะเชจู และอื่นๆ อีกมากมาย ในส่วนของสวนกสิกรรมระบบนิเวศ ผู้ร่วมงานทุกท่านจะได้สนุกสนานกับกิจกรรมเพาะปลูกโดยใช้ขวดเปล่าอินนิสฟรีมารีไซเคิล และนำต้นไม้ที่พวกเขาเพาะปลูกเองกับมือกลับบ้านเป็นของที่ระลึก
อีกหนึ่งโซนที่ทุกท่านจะต้องชื่นชอบเป็นพิเศษ ได้แก่ “โซนแกลเลอรี่” พื้นที่ซึ่งจัดวางภาพของลี มิน โฮ กับ ยุน อา (แบรนด์แอมบาสเดอร์ innisfree) ถ่ายทำท่ามกลางทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามตระการตาของเกาะเชจูในทุกฤดูกาล คงไม่จำเป็นต้องกล่าวว่า ‘พวกเขา’ ได้รับการทักทายอย่างอบอุ่น เป็นกันเองจากแขกเหรื่อทุกคนที่ผ่านไปผ่านมา ใครบ้างจะไม่ต้องการหยุดแวะเก็บภาพของตัวเองร่วมกับภาพถ่ายแห่งความทรงจำเหล่านี้ นอกจากนี้ทุกท่านยังจะได้สัมผัสกลิ่นหอมจากธรรมชาติแห่งเกาะเชจู ที่อยู่ในรูปแบบของน้ำหอมกระจายกลิ่นอันหลากหลาย อาทิ กลิ่นชาเขียว, กลิ่นซีดาร์ วูด, กลิ่นดอกกล้วยไม้ และกลิ่นส้มฮัลลาบง ซึ่งเป็นกลิ่นยอดนิยม
ลี มิน โฮ แบ่งปันประสบการณ์ innisfree ร่วมกับแฟนๆ
และแล้วก็มาถึงช่วงเวลาซึ่งทุกท่านต่างเฝ้ารอกันอย่างมากที่สุดในงาน อินนิสฟรี เฟสต้า กับโอกาส ‘ครั้งหนึ่งในชีวิต’ ที่จะได้พบกับศิลปินชาวเกาหลีผู้คว้าหัวใจของคนกว่าค่อนโลก ลี มิน โฮ ผู้น่ารัก หนุ่มเจ้าเสน่ห์ผู้แสนอ่อนโยน
ถึงแม้เขาจะเพิ่งบินมาถึงเมื่อกลางดึกของคืนวาน ลี มิน โฮ ผู้ยืนเด่นเป็นสง่า รัศมีหนุ่มเจ้าเสน่ห์ฉายประกายเจิดจรัส ยังคงยิ้มสดใสรับแสงแฟลชจากบรรดาช่างภาพ และยังแบ่งปันเคล็ดลับของกิจวัตร (ความหล่อ) ประจำวันของตน รวมถึงเรื่องที่ว่าตนไม่เคยออกจากบ้านหากไม่ได้ใช้ innisfree’s Forest for Men All-in-one Essence ท่ามกลางตารางการเดินทางอันแน่นขนัด และการถ่ายทำภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดหย่อน ลี มิน โฮ ยังกล่าวเสริมว่า “ผมคงต้องยกประโยชน์ให้แก่ innisfree’s Super Volcanic Pore Clay Mask กับ Green Tea Seed Serum ที่ทำให้ผิวของผมสะอาด หมดจด ดูกระจ่างใส อีกทั้งยังช่วยคงความชุ่มชื่น สดใสอย่างต่อเนื่องตลอดวัน”
จากนั้น เพื่อเข้าสู่พิธีการเปิดตัว innisfree ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ รวมถึงเป็นการร่วมฉลองชัยความสำเร็จให้แก่งาน อินนิสฟรี เฟสต้า 2015 ลี มิน โฮ พร้อมผู้บริหารและทีมงานของ อินนิสฟรี ทั้งในภาคสากล และประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น มิส คู เอ รัน และ มร. แซม จุน ปาร์ค กรรมการผู้จัดการของ บริษัท อมอร์แปซิฟิค (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกันรดน้ำต้นชาเขียว อันถือเป็นสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ และนี่คือช่วงเวลาแห่งความเบิกบาน พร้อมบ่งบอกถึงสัญญาของอินนิสฟรีในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ความงามจากธรรมชาติอันบริสุทธิ์เข้าสู่ประเทศไทย อีกนัยหนึ่ง นี่คือ การถ่ายทอดทุกสรรพประโยชน์จากมวลธรรมชาติบนเกาะเชจูมาสู่เหล่าลูกค้าชาวไทยผ่านผลิตภัณฑ์ และปณิธานของการถนอมรักษ์ระบบนิเวศ