จากตัวเลขผู้ใช้มากกว่า 34 ล้านคนในประเทศไทย และจำนวนนี้มีมากกว่า 50% ที่ Active ทุกวัน จึงทำให้ Facebook เป็น Marketplace ที่สำคัญของนักการตลาด เพราะไม่เพียงแค่การใช้ Facebook Ad ธรรมดา แต่ยังกินความในมิติที่ให้เพจต่างๆ ช่วยโพสต์โฆษณากับแบรนด์ (Facebook Page Post) เหมือนที่เราเห็นกันอยู่ในแฟนเพจชื่อดังเกือบทุกเพจอย่างไรก็ตาม อุปสรรคที่สำคัญอย่าง Reach ที่ลดลงเรื่อยๆ ก็ทำให้แบรนด์และเอเยนซีทั้งหลายต้องพิจารณาในหลากแง่มุม เราจึงมี 6 ข้อควรรู้ก่อนทำ Facebook Page Post เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดมาฝาก
1. เพจเหมาะกับแบรนด์ไหม
แน่นอนว่า สิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดก็คือ การเลือกแฟนเพจที่เหมาะกับสินค้าและแบรนด์ ด้วยเหตุนี้การ Matching “แฟนเพจ” กับ “แบรนด์” จึงสำคัญมาก เราจึงเห็นเพจที่เกี่ยวกับผู้หญิงไปด้วยกันได้กับสินค้าแฟชั่น เพจอาหารกับสินค้าอาหาร หากเราจับคู่พลาด ก็เหมือนเดินผิดทิศตั้งแต่ต้น
2. เพจไหนมีจำนวนสมาชิกที่เป็น Target group ในปริมาณที่มากที่สุด (เพจที่มีสมาชิกน้อยกว่าอาจชนะเพจที่มีสมาชิกมากกว่า)
ข้อนี้ก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าข้อแรก เพราะจำนวนแฟนไม่ใช่หัวใจของการทำ Facebook Page Post เพียงอย่างเดียว แต่การรู้ว่า Target ของแบรนด์ โดยเฉพาะ Demographic (เพศ อายุ) เป็นอย่างไร สินค้าของเราเหมาะกับเพศใดอายุประมาณเท่าไหร่ แล้วแฟนเพจไหนที่มีลูกเพจที่ใกล้เคียงกับแบรนด์มากที่สุด จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญที่แบรนด์ “ต้อง” รู้
3.ชนิดของโพสต์ (ข้อความ ภาพ วิดีโอ) เหมาะกับเพจไหม
ชนิดของโพสต์ (ข้อความ ภาพ วิดีโอ) ก็จำเป็นต้องทำให้เหมาะสมกับเพจที่เลือกเช่นกัน เพราะแม้ว่าแฟนเพจที่เราเลือกจะมี Target ของเราอยู่ แต่หากธรรมชาติของเพจนั้น “ผิดชนิด” กับสิ่งที่เราเลือกโพสต์ก็มีโอกาสสูงที่เราจะได้ Reach ที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นอย่างน่าเสียดาย
4.Cost per Reach (ราคาต่อการเห็นโพส 1 ครั้ง) คือต้นทุนที่แท้จริง ไม่ใช่ราคาต่อจำนวนแฟน
สิ่งที่แบรนด์มักชอบให้ความสำคัญก็คือ “จำนวนแฟน” แต่สิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ ก็คือ แฟนเพจที่มีจำนวนแฟนน้อยกว่า อาจจะมี Cost per Reach ที่ถูกกว่า ดังนั้นแม้ว่าจำนวนแฟนจะสำคัญ แต่เพจที่ทำให้เกิดต้นทุนที่ถูกที่สุดก็เป็นวิธีการเลือกเพจที่ต้องนำมาพิจารณา
5.Cost per Engage (ราคาต่อการ Like Comment Share 1 ครั้ง) เป็นอีกตัวแปรที่ต้องรู้
คนจำนวนไม่น้อยอาจคิดว่าการทำ Facebook Page Post ไม่สามารถประมาณการผลที่ได้รับเช่นจำนวน Like comment share แต่หารู้ไม่ว่าที่จริงแล้ว หากเอเยนซีที่มีเครือข่ายมากเพียงพอ พร้อมเครื่องมือเก็บสถิติแบบ realtime ก็สามารถทำให้เลือกใช้แฟนเพจเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่เราต้องการได้
6.ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า ถ้าเรียนรู้จากสถิติ ถึงแม้ facebook จะมีเครื่องมือ Page Insights แต่ไม่มีข้อมูลพอที่จะช่วยการวางแผนสื่อในเชิงผลลัพธ์ การมีซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้สูงสุดถึง 50% เพื่อให้การลง Page Post ตรงกลุ่ม คาดการณ์ได้ล่วงหน้า และได้ผลตอบแทนสูงสุด
ขอบคุณข้อมูลสถิติจาก WOMONTrackers ของ SporeBkk.com ตัวแทน Facebook Fan Page ที่มีจำนวนแฟนเพจมากที่สุดในประเทศไทย
——————————————————————————————————————–
เกี่ยวกับ SporeBKK.com
Spore Bangkok คือ Digital Media Agency ที่มีเครือข่าย Facebook Fan Page ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นจำนวนมากกว่า 300 แฟนเพจ ครอบคลุมมากกว่า 20 ล้านคน ในทุกแง่มุมความสนใจ ผ่าน WOMON (Word-of-Mouth Online Network) และมีเครื่องมือเก็บสถิติเจาะลึก Insight ของเพจด้วย software ลิขสิทธิ์เฉพาะอย่าง WOMON Trackers
ติดต่อสปอร์บางกอก 02-307-8673
[Advertorial]
[xyz-ihs snippet=”LINE”]