ถึงแม้คำว่า “แบรนด์” เป็นนามธรรม ไม่สามารถจับต้องได้เหมือนกับสินทรัพย์อื่นๆ แต่แท้จริงในทางการตลาดหรือธุรกิจ “แบรนด์” สามารถคำนวณและวัดเป็นมูลค่าแบรนด์ได้ ผ่านการคำนวณจากสำนักวิจัยแบรนด์ที่มีสูตรคำนวณมูลค่าแบรนด์ต่างกันออกไป ซึ่งนำไปอ้างอิงในเชิงธุรกิจได้ อย่างในประเทศไทยเองก็มีเครื่องมือสำหรับการวัดมูลค่าแบรนด์ ชื่อว่า CBS Valuation (Corporate Brand Success Valuation) ซึ่งคิดค้นโดย รศ. ดร. กุณฑลี รื่นรมย์ และอ. ดร. เอกก์ ภทรธนกุล อาจารย์ประจำ หลักสูตรปริญญาโท สาขาวิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผลการวัดมูลค่าแบรนด์องค์กรของ CBS Valuation แบ่งออกเป็น 19 หมวดธุรกิจ ตามการแบ่งหมวดธุรกิจของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งหมวดที่น่าสนใจ คือ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร “บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)” หรือ AIS มีมูลค่าแบรนด์องค์กรสูงที่สุดในหมวดนี้ 574,029 ล้านบาท ซึ่งได้รับรางวัลนี้ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 และหากเทียบกับหมวดธุรกิจอื่นๆอีก 18 หมวด AIS ถือเป็นแบรนด์องค์กรที่มูลค่ามากที่สุดเช่นกัน รองลงอันดับที่ 2 ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) 331,554.45 ล้านบาท และอันดับที่ 3 ปูนซิเมนต์ไทย (SCG) 259,630.38 ล้านบาท
CBS Valuation ถือเป็น เครื่องมือวัดมูลค่าแบรนด์องค์กรแรกของประเทศไทยที่สามารถบอกเป็นตัวเลขทางการเงินได้ วิธีการคำนวณเรียกว่าเป็น Integrative Approach ผ่าน 3 หลักของการบริการธุรกิจ 3 ด้าน ได้แก่ การตลาด การเงิน และ การบัญชี โดยการตลาด เน้นเรื่องความพึงพอใจ(Satisfaction) ของลูกค้า ไว้วางใจ และความจงรักภักดี ซึ่งทำให้เกิด Brand Equity หรือ คุณค่าของแบรนด์ การเงิน การประเมินมูลค่าของบริษัท (Enterprise Value) ทั้งสินทรัพย์ เงินสด และหนี้สิน บัญชี การลงบันทึกรายการต่างๆ ตามมาตรฐานบัญชี เช่น การซื้อ การขาย สินทรัพย์ หนี้สิน และรายการอื่นๆ การคำนวณมูลค่าแบรนด์องค์กรต้องใช้ข้อมูล 3 ปีย้อนหลังในกาคำนวณผ่านสูตร CBS Valuation และต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น
จุดเด่นของ CBS Valuation คือ การคำนวณง่าย ไม่ซับซ้อนเหมือนกับของสำนักวิจัยต่างชาติ อีกทั้งยังได้รับการันตีให้เป็นผลรางวัลผลงานวิจัยระดับดีเด่นจากคณะกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ (วช.) และถูกตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารทางวิชาการที่สหรัฐอเมริกาอย่าง The International Journal of Business Strategy
“ประโยชน์ของการวัดมูลค่าแบรนด์ ด้วย CBS สามารถนำไปเป็นดัชนีชี้วัด หรือ Indicator สำหรับการทำงานหรืองบประมาณที่ทำไปในปีที่ผ่านมา หรือนักลงทุนก็สามารถเห็นมูลค่าของสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ก่อนที่จะทำ M&A (Mergers And Acquisitions) ในแต่ละดีล เป็นการช่วยเศรษฐกิจประเทศให้เกิดการลงทุน”
ผลการจัดอันดับมูลค่าแบรนด์ฉบับเต็ม
ที่มา : AIS