บริษัท ไทยฮาเบล อินดัสเตรียล จำกัด ผู้ผลิตและประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้าของคนไทย หลังจากประสบปัญหาไฟไหม้โรงงานเมื่อปลายปีที่แล้ว เสียหายกว่า 120 ล้านบาท และในปีนี้ ปี 2558 ฟื้นฟูโรงงาน และปั้นแบรนด์ “อัลทรอน” (altron) แอลอีดีทีวี เพิ่มศักยภาพต่อยอดธุรกิจบริษัทจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก
บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2530 พร้อมด้วยความแข็งแกร่งด้านกำลังการผลิต โดยมีโรงงานผลิตและประกอบจำนวน 2 แห่ง คือ จังหวัดปราจีนบุรี และนครปฐม รวมเนื้อที่มากกว่า 10,000 ตร.ม. ได้รับการรับรองมาตรฐานด้านระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001:2008 และมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม อุตสาหกรรมสีเขียว จากกระทรวงอุตสาหกรรม รวมถึงได้รับตราสัญลักษณ์ “ไทยแลนด์ ทรัสต์ มาร์ค” (Thailand Trust Mark) จากกระทรวงพาณิชย์ โดยมีกำลังการผลิตโทรทัศน์แอลอีดีประมาณ 1,200 เครื่อง/วัน พร้อมทั้งบุคลากรระดับมืออาชีพ ทั้งในสายการบริหาร และการผลิต
บริษัทได้ผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายภายใต้แบรนด์ของบริษัท และแบรนด์ที่รับจ้างผลิต (OEM) ให้กับโมเดิร์นเทรดชั้นนำ ทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ตลาดภายในประเทศ
ด้วยคุณภาพของสินค้า มาตรฐานการผลิต และชื่อเสียงที่มีมายาวนาน ทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากโมเดิร์นเทรด และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ เพื่อจำหน่ายสินค้าทั้งภายใต้แบรนด์ของบริษัท ได้แก่ แบรนด์ คิมิตซุย (Kimitsui) และ นิวเวฟ (New Wave) รวมทั้งเอ็กซ์คลูซีพแบรนด์และเฮาส์แบรนด์สำหรับโมเดิร์นเทรด
นอกจากนี้ บริษัทยังไม่หยุดยั้งการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อให้สามารถเข้าถึง และอำนวยความสะดวกให้กลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น โดยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ผ่านทาง Lazada, Shop at Seven และ C Discount เป็นต้น
2. ตลาดต่างประเทศ
เพื่อแสดงศักยภาพและความสามารถของไทยอย่างเต็มภาคภูมิ บริษัทได้ทำการส่งออกสินค้าภายใต้ตรา Made in Thailand ไปยังประเทศและทวีปต่างๆ เหล่านี้ ประเทศอินเดีย เวียดนาม ลาว กัมพูชา
เมียนมาร์ แอฟริกาใต้ ทวีปอเมริกาใต้ ทวีปตะวันออกกลาง
หลังจากรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับบิ๊กโมเดิร์นเทรดชั้นนำ อัลทรอนมุ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค เน้นจุดแข็งแบรนด์ไทยคุณภาพ ชูกลยุทธ์การตลาด “Third Party Endorsement” สร้างการรับรู้และความน่าเชื่อถือในตัวสินค้า ตั้งเป้ายอดขาย 300 ล้านบาทภายใน 12 เดือน
นายนรินทร์เดช ทวีแสงพานิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยฮาเบล อินดัสเตรียล จำกัด ได้กล่าวว่า “บริษัท ไทยฮาเบล อินดัสเตรียล จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2530 โดยเป็นทั้งโรงงานผู้ผลิตและประกอบสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในหมวดภาพและเสียง อาทิ โทรทัศน์สี แอลซีดี แอลอีดี และ เครื่องเล่นดีวีดี รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน อาทิ หม้อหุงข้าว และกาต้มน้ำ โดยผลิตและจำหน่ายสินค้าทั้งภายใต้แบรนด์ของตนเอง และรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่ ทั้ง เทสโก้โลตัส บิ๊กซี แม็คโคร ดูโฮม และ เมก้าโฮม รวมทั้งตลาดออนไลน์ เช่น ลาซาด้า ซีดิสเคานต์ ช้อปแอดเซเว่น เป็นต้น โดยภายในปี 2558 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายที่ 400 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการจำหน่ายภายในประเทศร้อยละ 70 และต่างประเทศร้อยละ 30 ทั้งนี้สินค้าประเภทโทรทัศน์แอลซีดี และแอลอีดี เป็นสินค้าหลักของบริษัท มีสัดส่วนยอดขายรวมกว่าร้อยละ 70
“อัลทรอน ทีวี” ได้พัฒนาขึ้นเพื่อต่อยอดและสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจของบริษัท พร้อมตอบโจทย์ให้กับผู้บริโภคในปัจจุบัน เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดทีวี ทั้งแบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศที่บุกเข้าตลาดบน และสินค้าที่ไม่มีแบรนด์จากประเทศจีนที่บุกเข้าตลาดล่าง ทำให้บริษัทเล็งเห็นช่องว่างทางการตลาดในกลุ่มตลาดกลาง และตลาดกลางถึงล่าง โดยอาศัยจุดแข็งในด้านกำลังการผลิตที่มีมาตรฐานของบริษัทได้รับการรับรองจากหลายหน่วยงาน และจากการศึกษาตลาดที่พบว่า กลุ่มลูกค้ามีความรักและภูมิใจในความเป็นไทย และเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าที่ผลิตและประกอบจากโรงงานไทย ทั้งหมดนี้ จึงเป็นแนวคิดในการพัฒนา อัลทรอน ทีวีคุณภาพของคนไทย เพื่อคนไทย” นายนรินทร์เดช กล่าว
อัลทรอน ชูจุดแข็งเป็นทีวีคุณภาพของคนไทย เจาะกลุ่มลูกค้าระดับ C+ ถึง B อายุระหว่าง 18 – 65 ปี ราคาระหว่าง 4,490 -7,590 บาท พร้อมความโดดเด่นทั้งดีไซน์ที่ร่วมสมัย คุณภาพดี ฟังก์ชั่นครบถ้วน ใช้งานง่าย และรับประกันถึง 3 ปี โดยทีวีอัลทรอนมีจำหน่าย 2 ซีรีย์ ได้แก่ (1) มารูน ซีรีย์ (Maroon Series) แอลอีดีทีวี ราคาคุ้มค่าสำหรับคนไทย เน้นการออกแบบที่เรียบง่าย ร่วมสมัย เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นพื้นฐานต่างๆ เพื่อให้ผู้ชมสามารถเต็มอิ่มกับอรรถรสความบันเทิงได้อย่างเต็มรูปแบบ มี 2 ขนาด คือ 24 นิ้วดิจิตอลทีวี และ 32 นิ้ว อนาล็อคทีวี (2) อินดิโก้ ซีรีย์ (Indigo Series) ที่ยกระดับสุนทรีย์แห่งความบันเทิง มีจุดเด่นที่ระบบเสียง DDSI (Dynamic Direct Sound Impact) อันทรงพลัง เต็มประสิทธิภาพ ด้วยกำลังเสียงสูงสุดถึง 32 วัตต์ เหมาะสำหรับผู้บริโภคและร้านค้าที่เน้นเรื่องเสียงที่ชัดเจนโดยไม่ต้องเพิ่มเติมอุปกรณ์อื่นๆ โดยมาพร้อมการกับออกแบบสุดล้ำ สง่างาม และสะดุดตา มี 2 ขนาด คือ 22 นิ้วอนาล็อคทีวี และ 32 นิ้วดิจิตอลทีวี
“อัลทรอน ทีวี” เดินหน้ากลยุทธ์การตลาด “Third Party Endorsement” เพื่อสร้างการรับรู้และความน่าเชื่อถือในตัวสินค้า ซึ่งบริษัทได้การรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานทั้งภาครัฐบาล และเอกชน อาทิ มาตรฐาน ISO มาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) อุตสาหกรรมสีเขียว ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 และ ไทยแลนด์ทรัสต์มาร์ค (Thailand Trust Mark) จากกระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น พร้อมเน้นด้านความคุ้มค่าทางการเงิน (Value for Money) เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยอัลทรอน เริ่มปูพรมจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2558 ที่เทสโก้โลตัส จำนวนกว่า 166 สาขาทั่วประเทศ และเน้นการทำประชาสัมพันธ์และกิจกรรมการตลาด ณ จุดขาย (On Shelf Marketing) ก่อนขยายช่องทางจำหน่ายผ่านทางห้างและตลาดดีลเลอร์อื่นๆ ต่อไป” นายนรินทร์เดช กล่าวเพิ่มเติม
“บริษัทได้วางแผนเตรียมเพิ่มรุ่นสินค้าอัลทรอน ทีวี อีกไม่ต่ำกว่า 3 รุ่น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า โดยตั้งเป้ายอดขายของอัลทรอน ทีวี ไว้ที่ 300 ล้านบาทภายใน 12 เดือน ทั้งนี้ บริษัทจะผลักดันแบรนด์อัลทรอนให้กลายเป็นแบรนด์สำคัญของบริษัท ด้วยสัดส่วนยอดขายถึงร้อยละ 40 ของยอดขายทั้งหมดของบริษัท โดยบริษัท เชื่อว่าอัลทรอนจะเป็นแบรนด์ที่จะสร้างความผูกพันระหว่างผู้บริโภคกับบริษัท ในฐานะแบรนด์คุณภาพที่จะเคียงคู่คนไทยตลอดไป พร้อมนำความภาคภูมิใจให้กับคนไทย เมื่อบริษัทได้นำอัลทรอนขยายสู่ตลาดต่างประเทศต่อไป” นายนรินทร์เดช กล่าวสรุป