หลังจากประกาศปิดบริษัท ท่ามกลางความใจหายของแฟนคลับ วันนี้ทีมงาน จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และ หับ โห้ หิ้น บางกอก ก็จับมือกันประกาศโฉมใหม่ GTH ในนาม GDH559 ซึ่งย่อมาจาก Gross Domestic Happiness ส่วนเลข 559 มาจาก ฤกษ์ดี เปิดตัววันที่ 5 มกราคม 2559 และผู้ถือหุ้นจำนวน 59 คน
โดยจำนวนผู้ถือหุ้น 59 คนนี้ ประกอบไปด้วย จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ถือหุ้นใหญ่ 51% ด้าน หับ โห้ หิ้น จากเดิมที่อยู่ใน GTH มีหุ้น 19% ก็ลดเหลือ 15% แต่ไปเพิ่มสัดส่วนให้กับผู้บริหาร, คนทำงาน, ผู้กำกับ, นักแสดง ซึ่งรวมกันแล้วมี 34%
วิสัยทัศน์คือการทำเป็น Content Provider ที่ดีที่สุด
จินา โอสถศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GDH559 กล่าวถึง แนวทางการทำงานของบริษัทแห่งใหม่ว่า “แนวหนังก็ยังเหมือนเดิม ก็ต้องต่อสู้เพื่อยกระดับการทำงานของพวกเรา ผู้กำกับก็มีสิ่งที่อยากทำ สิ่งที่ชอบ ในเชิงของบริษัทอาจจะเล็กลง แต่เราก็ต้องทำงานด้วยความปราณีตมากขึ้น เราอยากเป็น Content Provider ที่ดีที่สุดคนหนึ่งเท่าที่จะทำได้”
ส่วน เก้ง-จิระ มะลิกุล กรรมการบริการและ Head Producer กล่าวว่า “เราก็คงต้องต่อสู้กับตัวเองต่อไป สำหรับผมถือว่าเป็นรุ่นใหญ่ ถ้าเป็นนักวิ่งมาราธอนมันคือ 10 กิโลฯ สุดท้าย แต่สำหรับผมยิ่งได้เห็นงานของน้องๆ วันก่อนนั่งดูแฟนฉันกัน พบว่าแฟนฉันแม่งแย่ว่ะ เพราะงานสุดท้ายของพวกเขายังดีกว่านี้ได้อีก ผมจึงคิดว่าผู้กำกับหลายคน เขารอเวลาที่จะได้ทำงานที่เขาโตขึ้น เก่งขึ้น นักแสดงก็เหมือนกัน ผมเห็น ซันนี่ เล่นฟรีแลนซ์ เขาเหมือนนักมายากลที่สะกดผมไปได้ตลอด และเราต้องทำงานอย่างเต็มที่ปรนเปรอผู้ชมของเรา ต่อสู้กับหนังต่างประเทศ”
แผนปี ’59
จากทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท สำหรับแผนปี 2559 วางแผนเอาไว้ว่าจะมีการผลิตหนัง 2 เรื่อง ใช้งบประมาณเรื่องละ 25 ล้านบาท เริ่มจากเดือนสิงหาคม GDH559 จะเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องแรก ด้วยฝีมือการกำกับของ โต้ง-บรรจง ซึ่งจะเป็นหนังรักโรแมนติคเต็มตัว พระเอกได้ เต๋อ-ฉันทวิชช์ มาพลิกบทบาท เหตุผลที่หนังของ โต้ง-บรรจงจะเป็นหนังเรื่องแรกของค่ายก็เพราะพี่เก้งให้คำจำกัดความเอาไว้ว่า “เพราะว่าโต้งทำงานได้เร็ว” ขณะที่ ผู้กำกับพันล้านรายนี้ก็ต้องรับแรงกดดันมหาศาลเพราะเป็นหนังเรื่องแรกของค่าย ซึ่งเขาเปิดเผยความรู้สึกว่า “คำถามนี้ถูกถามตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ปรากฏว่าก็นอนไม่หลับ เป็นภูมิแพ้ไปเลย หนังเรื่องนี้ได้เต๋อ-ฉันททวิชช์ ซึ่งผมเชื่อว่าเขาทำอะไรได้หลายมุมมากกว่าแค่ตลก นางเอกเป็น มิว-นิษฐา”
หนังเรื่องที่ 2 เป็นโปรเจ็กท์ของ โอ๋-ภาคภูมิ ที่เคยประสบความสำเร็จชัตเตอร์, แฝด มาแล้วในปีหน้าก็จะกลับมาพร้อมกับภาพยนตร์แนว ดราม่า-ทริลเลอร์ 1 เรื่อง นอกจากนี้ยังมีผู้กำกับคนอื่นที่กำลังพัฒนาบทและกำลังทำงานอยู่ โดยคาดหวังว่าปีถัดไปจะเพิ่มจำนวนหนังได้เป็น 3 เรื่องต่อปี ขณะเดียวกันก็ต้องต่อสู้กับหนังฟอร์มยักษ์จากฮอลลีวู้ด กับความเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดูหนังที่แอปพลิเคชั่นดูหนังเข้ามาแทนที่การดูผ่าน DVD, CD อย่างเห็นได้ชัด
ทางด้านคอนเทนท์อื่นๆ อีก 4 โปรเจกท์ ประกอบด้วย
1. เปิดปีด้วยความเฮฮา กับเรื่องราวจาก หนังสือบันทึกของตุ๊ด ” ไดอารี่ ตุ๊ดซี่ส์” ออกอากาศวันเสาร์ ทางช่อง GMM ขณะนี้อยู่ในระหว่างหาตัวนักแสดง
2. ละครโรแมนติค “แก๊สโซฮัก..รักเต็มถัง” ได้งบประมาณจาก LINE เพื่อเผยแพร่ผ่านทาง LINE TV คู่พระ-นางคือ 2 ไอซ์
3. ซีรีส์โรแมนติคปนหลอน เรื่อง I See You พยาบาลพิเศษ..เคสพิศวง
4. ส่งความอบอุ่นส่งท้ายปี ด้วย “มาลีเพื่อนรัก 2” ออกอากาศทางช่อง GMM
ขณะที่ซีรี่ย์ ฮอร์โมนฯ อาจจะพักไปก่อน เพราะว่าทีมงานทำงานอยากจะใช้เวลาพัฒนาบทภาพยนตร์และอยากพักผ่อนหลังจากทำงานหนักมาต่อเนื่องเป็นปี
ผู้ถือหุ้น
ธุรกิจหนัง ความหวังอยู่ที่ 5 ปีข้างหน้า
ในวันที่ GDH559 ไม่มีประสบการณ์ของ วิสูตร พูลวรลักษณ์ ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวพ่อของการตัดต่อตัวอย่างหนังและคอนเน็กชั่นกับโรงภพายนตร์ ทางฝั่งของ จิน่า มองว่า “ก็อาจจะไม่ดีเท่าเดิม แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องเดินหน้าต่อไป และเราก็ต้องเรียนรู้กันไป”
ขณะที่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากบทความวิจารณ์การแยกตัวของ GTH ที่เขียนโดย ฟ้า พูลวรลักษณ์ เล็ก-บุษบา ดาวเรือง ประธานกรรมการบริหาร GDH599 กล่าวว่า “วันแถลงข่าวตอนเราประกาศแยกตัวกัน คุณวิสูตร พูดคำที่สวยมากๆ ว่า ในเมื่อเรามองเห็นดาวคนละดวง พี่ก็ได้เห็นพี่เก้งและน้องๆ ใน หับฯ ขอบคุณคุณวิสูตรที่ได้เรียนรู้ร่วมกันมา ทั้งคุณวิสูตรและหับฯ ก็เป็นคนที่คิดอย่างรอบคอบแล้วทั้งคู่ พี่เองก็เคารพการตัดสินใจ และอย่างที่บอกว่าเรายังเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน”
สำหรับการลงทุนครั้งใหม่นี้ก็เหมือนการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ซึ่งการทำธุรกิจภาพยนตร์น่าจะใช้เวลา 5 ปีจึงจะคืนทุน ช่วงเวลานี้ GDH559 ก็ต้องใช้เวลากับการกลับมาสร้างแบรนด์อีกครั้ง
รู้จักบริษัทน้องใหม่แต่หน้าเก่า
GDH559 ตอนนี้มีทีมงานซึ่งแทบจะเรียกได้ว่าเป็นทีมงานเดิมของ GTH เกือบทั้งหมด ประมาณ 50-60 คน แต่ถ้านับบริษัทลูกด้วยก็มีทั้งหมด 170 คน จำนวนดังกล่าวยังไม่รวมผู้กำกับอีก 14 คน และนักแสดง ซึ่ง จิน่า โอสถศิลป์ ให้คำจำกัดความว่าเป็น “ฟรีแลนซ์ประจำใจ” กล่าวคือ ได้ค่าตอบแทนเป็นโปรเจ็กท์ไม่ใช่เงินเดือน แต่่วมงานกิจกรรมรวมทั้งตรวจสุขภาพประจำปีกับบริษัทได้
ตอนนี้ GDH559 มีบริษัทลูกเดิมของ GTH อยู่ด้วยครบ เช่น Good Things Happen ซึ่งรับงานดูแลเรื่องมีเดียและผลิตงานไวรัลให้แบรนด์ต่างๆ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโลโก้ใหม่, ภาพดี ทวีสุข รับงานผลิตคอนเทนท์ให้กับทีวี โดยจะนำสนเอไอเดียกับทางแกรมมี่เพื่อลงในช่อง GMM 25 หรือ ช่อง ONE ก่อน ถ้าหากว่าคอนเซ็ปท์ไม่ตรงกันหรือไม่มีเวลา ก็อาจจะ Provide Content ให้กับช่องทีวีดิจิตอลช่องอื่นได้ โดยตอนนี้มีการพูดคุยเบื้องต้นกับอัมรินทร์ ทีวีแล้ว
