Cinemagraph อีกหนึ่งวิธีใช้ภาพเล่าเรื่องให้น่าสนใจกว่าเดิมที่เชื่อว่าจะเป็นกระแสใหม่สำหรับปีนี้ เพราะภาพที่ดีจะมีจุดดึงดูดในตัวของมันเองผสานกับความรวดเร็วของวิดีโอ ในจุดที่ก้าวผ่านความน่ารำคาญของปุ่ม play ไปแล้ว
คำว่า Cinemagraph มาจากการรวมคำของ Cinema (ภาพยนต์หรือวิดีโอ) และ Phtograph (ภาพนิ่งหรือภาพถ่าย) กลายมาเป็นภาพถ่ายมหัศจรรย์ที่มีบางส่วนของภาพขยับได้ การผสานกันอย่างลงตัวของภาพนิ่งและองค์ประกอบที่เคลื่อนไหว กลายเป็นความงดงามในการถ่ายทอดเรื่องราวในภาพได้อย่างล้ำลึกและดึงดูดความสนใจจากคนดูได้เป็นอย่างดี สามารถดูตัวอย่างงาน Cinemagraph เจ๋งๆ ได้ใน Hashtag #Cinemagraph ใน Instagram
จริงๆแล้ว Cinemagraph มีความคล้ายคลึงกับภาพ .Gif อยู่พอสมควร แต่มีความเป็นศิลปะมากกว่า เมื่อถูกจัดวางอย่างดีจะสามารถสร้างความประทับใจและมี Impact มากกว่าภาพถ่ายหรือคลิปวิดิโอทั่วไป สร้างการจดจำให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
การใช้ Cinemagraph ในงานโฆษณามีให้เห็นมากขึ้นตามโซเชียลมีเดีย เมื่อ Facebook และ Instagram ปล่อยฟังก์ชัน Auto play ในวิดีโอ นับเป็นการเปิดประตูให้แบรนด์นนำ Cinemagraph ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างสวยงามและเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น ผลการสำรวจพบว่าโอกาสที่ Cinemagraph จะกลายไปเป็น Viral มีสูง และมีโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคแบบ Organic reach สูงกว่าภาพนิ่งธรรมดาถึง 71%
Cinemagraph ถูกทำขึ้นและใช้ครั้งแรกในปี 2011 โดย Kevin Burg และ Jaime Beck เพื่อประยุกต์ใช้กับการถ่ายภาพแนวแฟชั่นและไลฟ์สไตล์
ต่อไปนี้เป็น 4 วิธีในการนำ Cinemagraph มาใช้กับแบรนด์ให้เหมาะสม เพื่อสร้างให้เรื่องราวที่แบรนด์ต้องการสื่อมีชีวิต และสวยงามลงตัวที่สุด
1. ทำให้สั้น งดงาม ละเต็มไปด้วยความหมาย Cinemagraph จะมีพลังที่สุดถ้ามันถูกทำให้ง่าย สั้น และจับโมเมนท์ที่ฉลาดที่สุด ลูปสั้นๆนั้นต้องสามารถบอกเรื่องราวผ่านการพริ้วไหวของเสื้อผ้า สายลมที่พัดผ่านเพียงชั่วครู่ หรือไวนืที่กำลังถูกรินให้เพื่อนในวันสำคัญ สามารถแสดงออกถึงความหมายมากมายที่เกิดขึ้นในชั่วขณะหนึ่ง
2. Cinemagraph มีความหมายมากกว่า 1,000 คำ Cinemagraph มีพลังในการถ่ายทอดช่วงเวลาที่มีค่า จนทำให้คนดูสามารถมีความรู้สึกร่วมว่าเขากำลังนั่งอยู่ในสถานการณ์นั้นๆ
3. ผลลัพธ์ที่สวยงาม Cinemagraph เป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มความวาววิ้งให้กับรูปที่สวยอยู่แล้ว ดังนั้นจะดีมากถ้านำไปใช้กับโปรดักส์หรือไลฟ์สไตล์ที่หรูหราดูดีราคาแพง เช่น เพิ่มประกายและความพริ้วไหวให้กับชุดเดรสผ้าซาตินราคาแพง จะเพิ่มความสวยงามให้มากกว่าภาพนิ่ง
4. ราคาที่ถูกกว่าทำให้ Cinemagraph น่าสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อเรากำลังทำแคมเปญหรือคอนเทนท์ Cinemagraph เป็น Format ที่ใช้เงินน้อยกว่าวิดีโอแน่นอน
อย่างไรก็ตาม Cinemagraph ไม่ได้เหมาะกับทุกสถานการณ์ อย่าใช้เพราะมันกำลังเป็นเทรนด์หรือใช้ในสถานการณ์ที่ไม่ต้องการการเล่าเรื่อง หากทำได้ดี Cinemagraph จะเป็นเครื่องมือที่ดีมากในการเล่าเรื่องให้แบรนด์ได้อย่างสวยงาม และ Auto play วิดีโอบน Facebook และ Instagram ยิ่งทำให้ Cinemagraph เป็นเครื่องมือที่เข้าถึงง่าย แต่ปฏิเสธได้ยาก