สมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย หรือ MAAT (Media Agency Association of Thailand) กล่าวสรุปภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณา ปิดปี 2015 มูลค่าเม็ดเงินโฆษณาอยู่ 136,251 ล้านบาท ซึ่งเติบโตในอัตรา 2.7-2.8% จากปี 2014 จากสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว อีกทั้งภาวะฝนแล้งที่เกิดขึ้นทำให้รายได้ต่อครัวเรือนของประชากรลดลงส่งผลถึงการใช้จ่ายของประชาชนน้อยลงจากเดิม
กลุ่มดิจิตอลทีวี และกลุ่มดิจิตอลมีอัตราการเติบโตสูงสุด โดยดิจิตอลทีวีมีรายได้ในปี 2014 อยู่ที่ 8,580 ล้านบาท เมื่อสิ้นสุดปี 2015 เพิ่มขึ้นมาถึง 20,931 ล้านบาท หรือมีการเติบโตสูงขึ้นถึง 144% ทั้งนี้รายได้ดังกล่าวเป็นการโยกงบมาจากกลุ่มทีวีอนาล็อคเดิม และกลุ่มทีวีดาวเทียม ซึ่งหลายๆ ช่องย้ายฐานมาออกอากาศในรูปแบบดิจิตอล ส่วนสื่อดิจิตอล ในปี 2014 มีรายได้รวมที่ 950 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 1,058 ล้านบาท ในปี 2015 หรือเติบโตขึ้นประมาณ 11%
สำหรับคาดการณ์มูลค่าเม็ดเงินโฆษณา (Media Spending) ปี 2016 อัตราการเติบโตอยู่ที่ 3.5% หรือมูลค่าราว 141,000 ล้านบาท ซึ่งล้อไปกับการอัตราการเติบโตของ GDP ประเทศไทย โดยสื่อที่โดดเด่นเติบโตมากที่สุดก็ยังคงเป็น ดิจิตอลทีวี(50%) และ ดิจิตอล (37-40%) นอกจากนี้ยังมีสื่อนอกบ้าน (Out of home media) ทั้ง Outdoor Transit In-store ที่เติบโตจากการขยายของสถานีและรูปแบบของสื่อที่เปลี่ยนจาก static ไปเป็นดิจิตอล ขณะที่สิ่งพิมพ์ยังน่าเป็นห่วง
ผู้ลงโฆษณา (Advertiser) ปี 2015 Unilever ใช้งบโฆษณาลดลง 17% แต่ยังคงมีมูลค่ารวมสูงที่สุด 7,580 ล้านบาท ขณะที่งบโฆษณาของภาครัฐบาลเติบโตมากที่สุด 50% รองลงมา True Move 34% (โปรโมต 4G) P&G 24% และ CP 19% (มีไลน์สินค้าใหม่) หากมองภาพรวมตามประเภทอุตสาหกรรม (Categories) กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลผิว (Skin Care) หดตัวมากที่สุด 13% (8,815 ล้านบาท) ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์จากนม เติบโตมากที่สุด 28% ขณะที่กลุ่มรถยนต์ (10,238 ล้านบาท) และ การสื่อสาร (10,195 ล้านบาท) ยังนำสองอันดับแรก
นอกจากนี้การปรับขึ้นค่าโฆษณา หรือ Media Inflation ภาพรวมของสื่อทีวี (TV)ทั้งหมดขึ้น 9% และ Non-TV ได้แก่ วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ คาดว่าไม่มีการปรับลดหรือขึ้นแต่อย่างใด
“คาดว่า ปี 2016 เศรษฐกิจค่อยๆฟื้นตัว และมีโอกาสสดใสจากนโยบายของภาครัฐบาล เช่น โครงการประชารัฐ และกิจกรรมระดับโลกต่างๆ การเลือกตั้งสหรัฐฯ โอลิมปิค วอลเล่ย์บอล กระแสที่ไม่มั่นใจเศรษฐกิใจในครึ่งปีหลัง (Q4 ในช่วงหน้าขาย) ทำให้ลูกค้าหลายเจ้าเริ่มย้ายงบประมาณมาใช้ตั้งแต่ต้นปี Q1-2 ต้องรีบตักเอาไว้ก่อนในช่วงที่ดี”