บิ๊กซี เผยกลุ่มคาสิโนเข้าทำสัญญาขายหุ้นกับทีซีซี คอร์ปอเรชั่น หลังจากกลุ่มคาสิโนประกาศขายหุ้นของตนแก่ผู้สนใจ คาดว่าธุรกรรมจะดำเนินแล้วเสร็จไม่เกิน 31 มีนาคมนี้ โดยในปี 2559 บิ๊กซีจะยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติ ภายใต้งบลงทุน 6-7 พันล้านบาท ซึ่งรวมถึงการขยายสาขาทุกรูปแบบและการปรับปรุงพื้นที่และพื้นที่ขายของไฮเปอร์มาร์เก็ตด้วย
รำภา คำหอมรื่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน และรองประธานฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าว “หลังจากกลุ่มคาสิโนประกาศขายกิจการของบิ๊กซี เวียดนามเมื่อกลางเดือนธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา และเริ่มได้ทราบถึงความสนใจระดับหนึ่งในการเข้ามาครอบครองหุ้นของบิ๊กซี ประเทศไทย (BIGC) ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับแจ้งจากกลุ่มคาสิโนว่า Géant International BV ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญาขายหุ้นกับบริษัท ทีซีซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อและขายหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมในบริษัทรวมทั้งสิ้นจำนวน 483,077,600 หุ้น คิดเป็นหุ้นจำนวนร้อยละ 58.56 ของหุ้นที่ออกแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ในราคาต่อหุ้นเท่ากับ 252.88 บาท ซึ่งราคาหุ้นอาจจะมีการปรับลงตามจำนวนเงินปันผล ซึ่งผู้ขายอาจได้รับจากบริษัทฯ ตามมติที่ประชุมสามัญประจำปี 2559 ของบริษัทฯ และคาดว่าจะเสร็จสิ้นธุรกรรมการขายหุ้นไม่เกินวันที่ 31 มีนาคม 2559 นี้ ซึ่งภายหลังการเสร็จสิ้นธุรกรรมการขายหุ้น ผู้ซื้อจะต้องดำเนินการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทฯ ภายใต้ประกาศที่เกี่ยวข้องของคณะกรรมการกำกับตลาดทุน และกฎเกณฑ์อื่นๆที่เกี่ยวข้องต่อไป”
เมื่อเดือนธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ประกาศแผนดำเนินธุรกิจเน้นการขยายสาขาแห่งใหม่ในรูปแบบต่างๆ ได้แก่ ขยายไฮเปอร์มาร์เก็ตจํานวน 6 สาขา ขยายบิ๊กซี มาร์เก็ตจํานวน 3 สาขา และขยายร้านมินิบิ๊กซีจํานวน 75 สาขา รวมถึงแผนการปรับปรุงพื้นที่เช่าและพื้นที่ขายของไฮเปอร์มาร์เก็ตให้แล้วเสร็จภายในปี 2559 จํานวน 7 สาขา ซึ่งในจํานวนนี้รวมสาขาลพบุรีและสาขาบางพลีซึ่งได้เริ่มดําเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2558 เป็นต้นมา
ปัจจุบัน บิ๊กซีมีจำนวนไฮเปอร์มาร์เก็ต 125 สาขา (บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้าและบิ๊กซี จัมโบ้) บิ๊กซี มาร์เก็ต 55 สาขา มินิบิ๊กซี 394 สาขา และร้านขายยาเพรียว 146 สาขา
[xyz-ihs snippet=”LINE”]