นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินจากฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 โดยคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (International Insurer Financial Strength (IFS)) ที่ ‘A-‘ และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS) ที่ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ ที่บริษัทฯ ได้รับในปัจจุบันที่ ‘AAA(tha)’ นั้น ถือเป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุดภายในประเทศ ที่สะท้อนถึงความมั่นคงแข็งแกร่งของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ยังชี้แจงด้วยว่า ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตของบริษัทฯ นั้น มาจากระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง (“Strong”) ตามการประมาณของ Prism Factor-Base Capital Model (Prism FBM)โดยบริษัทฯ มีสัดส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (Risk-based capital – RBC) อยู่ที่ 423% ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2558 ซึ่งจัดอยู่ในระดับที่สูงกว่าระดับเกณฑ์ขั้นต่ำที่ 140% อยู่มาก
เช่นเดียวกับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่ยังคงทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเครือข่ายทางธุรกิจ (Franchise) ที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ภายใต้นโยบายการกำหนดราคาที่มีความระมัดระวังและมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับที่ค่อนข้างดี โดยบริษัทฯ มีอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์เฉลี่ยที่ 3.8% ต่อปีในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 ซึ่งอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับบริษัทประกันชีวิตอื่นทั้งในและต่างประเทศ จึงสะท้อนผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่อยู่ในระดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง
เมืองไทยประกันชีวิต เป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับสองของประเทศไทยในด้านเบี้ยประกันภัยรับรวมในปี 2558 ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 16.35% จาก 14.9% ในปี 2557 ทั้งยังเป็นบริษัทที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงที่สุดในด้านเบี้ยประกันรับรายใหม่ปี 2558 ที่ 22.13% ทั้งยังเป็นผู้นำด้านส่วนแบ่งการตลาดของเบี้ยประกันภัยรับรวมที่จำหน่ายผ่านเครือข่ายสาขาของธนาคาร หรือแบงก์แอสชัวรันซ์ ของปี 2558 ถึง 27.37%
นโยบายการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพดี ก็นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญต่อการพิจารณาอันดับเครดิตของบริษัทฯ โดยส่วนใหญ่ประกอบด้วยตราสารหนี้ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 85% ของพอร์ทเงินลงทุนรวม และตราสารหนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นตราสารหนี้รัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ ขณะที่สัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนนั้นมีอยู่ในระดับต่ำกว่า 10% ของพอร์ทเงินลงทุนรวม
นอกจากนี้ อันดับเครดิตที่มีเสถียรภาพดังกล่าว ส่วนหนึ่งยังเป็นผลมาจากการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท คือ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โดยเมืองไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันชีวิตเพียงแห่งเดียวที่ได้รับประโยชน์จากเครือข่ายสาขาของธนาคารกสิกรไทยในฐานะเป็นช่องทางขายที่มีประสิทธิภาพ และพันธมิตรทางธุรกิจอย่าง Ageas บริษัทประกันภัยรายใหญ่จากประเทศเบลเยียม ซึ่งสนับสนุนด้านเทคนิคและการดำเนินงานให้กับบริษัทฯ
“เมืองไทยประกันชีวิตให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างมั่นคงแข็งแกร่งมาโดยตลอด ทั้งนี้ เพราะเราอยู่ในธุรกิจการเงิน ความน่าเชื่อถือไว้วางใจที่ผู้บริโภคมีต่อเรานั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก และ “ฟิทช์ เรทติ้งส์” ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับนานาชาติ จึงเป็น “คนกลาง” ที่เข้ามาช่วยยืนยันสถานะความมั่นคงแข็งแกร่งของเมืองไทยประกันชีวิตได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้เพื่อ ‘มุ่งมั่นเป็นคู่คิดที่ลูกค้าวางใจผ่านนวัตกรรมเพื่อตอบสนองทุกความต้องการด้วยการทำงานที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง’ ” นายสาระ กล่าว./
(ข้อมูลการจัดอันดับและปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต ฟิทช์ เรทติ้งส์ จากการประกาศคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดย ฟิทช์ เรทติ้งส์-กรุงเทพฯ/สิงคโปร์ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 และ ข้อมูลภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตประกันชีวิตไทยและสถิติเบี้ยประกันภัย ปี 2558 โดย สมาคมประกันชีวิตไทย เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559)