Zootopia อนิเมชั่นยอดเยี่ยมอีกหนึ่งเรื่องจาก Disney ที่ได้รับกระแสตอบรับและคำวิจารณ์ในแง่ดีทั้งในบ้านเราและต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมาอย่างล้นหลาม เชื่อว่าใครที่ได้ไปดูมาแล้วคงจะเกิดความรู้สึกประทับใจในความน่ารักของอนิเมชั่นเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย เพราะนอกจากเนื้อเรื่องที่สนุกสนาน และความน่ารักของตัวละครแล้ว Zootopia ยังมีความล้ำลึกในแง่ของข้อคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตที่แทรกซึมอยู่ในหนัง วันนี้เราหยิบเรื่องดีๆ ที่เราได้เรียนรู้จาก Zootopia มาเล่าให้ฟัง 5 เรื่อง (คำเตือนบางส่วนอาจมีสปอยล์)
1. คนเรามักถูกตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอก
ข้อนี้เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดอย่างหนึ่งจากหนัง ถ่ายทอดผ่านตัวเอกทั้งสอง ที่เป็นตัวแทนของความอ่อนแอ และความดุร้าย ผู้คนที่พบเจอพวกเขาต่างตั้งกำแพงเอาไว้ว่าคนนี้ต้องเป็นแบบนี้คนนั้นต้องเป็นแบบนั้น กระต่ายต้องอ่อนแอ ไม่มีวันทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ และสุนัขจิ้งจอกต้องเจ้าเล่ห์ ต้องไม่ใช่คนดี ในชีวิตจริงก็เช่นกัน หนังไม่เพียงบอกเราว่าอย่าตัดสินคนจากภายนอก แต่หนังสะท้อนให้เราเห็นว่าทุกวันนี้ เราทุกคนก็ต่างถูกตัดสินจากคนอื่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกเช่นกัน
2. การพิสูจน์ตัวเองไม่ได้ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเสมอไป
หลายๆ ครั้งแม้ว่าคุณจะพยายามทำนู่นทำนี่ให้คนอื่นเห็นและเชื่อว่าคุณทำอะไรได้บ้าง แม้คุณจะทำสำเร็จแต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะได้เห็นความสามารถของคุณ เหมือนที่จูดี้ได้บรรจุเป็นตำรวจด้วยความสามารถ แต่เมื่อมาทำงานจริงก็ยังโดนให้ทำแค่หน้าที่เล็กๆ อย่างแจกใบสั่งอยู่ดี ข้อนี้ทำให้เรารู้ว่าต่อให้เราผ่านพ้นอุปสรรคเรื่องนึงมาได้ ก็ยังมีหลายๆ เรื่องรอเราอยู่ เพราะชีวิตคือความท้าทาย มีด่านต่อไปรอเราอยู่ข้างหน้าอย่างไม่สิ้นสุด
3. สังคมรอบข้างปิดกั้นเราจากความสามารถที่แท้จริง
นิค ไวด์ เคยเป็นสุนัขจิ้งจอกที่น่ารักก่อนที่เขาจะถูกเพื่อนแกล้งเพียงเพราะเป็นนักล่าคนเดียวในกลุ่ม ความเจ็บช้ำหล่อหลอมให้นิคโตขึ้นมาเป็นแบบที่สังคมคิดว่าเขาเป็น คือเป็นคนเจ้าเล่ห์และไม่สามารถเป็นอะไรที่ดีกว่านี้ได้ ทุกวันนี้สังคมของเราก็มีข้อกำหนดที่ตายตัวต่อบุคคลแบบนี้แทรกซึมอยู่แทบจะในทุกระบบสังคม ตั้งแต่ระบบครอบครัว โรงเรียน ที่ทำงาน ไปจนถึงสังคมส่วนรวม ความคาดหวังจากคนรอบข้างกดดันและตีกรอบให้เด็กจำนวนมากโตขึ้นมาในแบบที่พวกเขาถูกเลือกให้ว่าควรจะเป็น แต่ก็อย่างที่เราได้เห็นจากหนังว่าสุดท้ายแล้วนิค เลือกจะเป็นสิ่งที่เค้าเป็นจริงๆ ได้ เขากำหนดชีวิตตัวเองได้ เราก็เช่นกัน อย่าให้สังคมมากำหนดว่าเราควรจะเป็นอะไร เพราะแท้จริงแล้วเราคือคนที่รู้จักความสามารถของตัวเองดีที่สุด
4. การมีความหวังไม่ใช่เรื่องไร้เดียงสา
จูดี้ ฮอบส์ เป็นตัวละครที่สอนเราเรื่องการเดินตามความฝันและมีความหวังเสมอ เธอฝันถึงชีวิตที่สวยงามใน Zootopia ตั้งแต่ยังเด็ก และเชื่อตามสโลแกนที่ว่าอะไรๆ ก็เป็นไปได้ที่ Zootopia แม้ว่าเมื่อโตขึ้นและได้มาสัมผัสกับ Zootopia ที่แท้จริงแล้วจะต้องพบกับความจริงอันเลวร้ายมากมาย เธอก็ไม่เคยจะหยุดศรัทธาในสิ่งที่ตัวเองฝัน เชื่อมั่นและทำให้มันเป็นจริง แม้จะถูกมองว่าความเชื่อแบบนี้ดูโง่และเหมือนเด็กไม่รู้จักโต แต่สำหรับจูดี้ แค่มีความหวังทุกอย่างก็เกิดขึ้นได้และมันไม่ใช่เรื่องโง่เง่าหรือน่าอายเลยซักนิด
5. แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปแต่ความเท่าเทียมกันเรื่องสิทธิเสรีภาพยังต้องการการพัฒนาต่ออีกมาก
เรื่องเริ่มขึ้นในตอนที่จูดี้เป็นเด็ก แสดงละครเวทีที่โรงเรียนเกี่ยวกับเรื่องของโลกในฝันที่ผู้ล่าและเหยื่อใช้ชีวิตร่วมกัน สังคมในอุดมคติที่ใครๆ ก็ต้องการ แต่เมื่อเธอโตมาก็ได้เรียนรู้ว่าแท้จริงแล้วความเท่าเทียมยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ การอยู่ร่วมกันเป็นเพียงการสร้างภาพสวยงาม การอยู่ร่วมกันของเหยื่อกับผู้ล่ายังคงมีความเหลื่อมล้ำ การไม่ยอมรับกัน และการข่มเหงรังแกอยู่ดี เหมือนโลกของเราแม้ว่าเราจะมีคำแถลงสวยหรูถึงการอยู่ร่วมกันของคนทุกชนชั้น ทุกเชื้อชาติ เกิดการเลิกทาส และการแสดงออกถึงความเท่าเทียมกันต่างๆ ในสังคม แต่เราทุกคนล้วนรู้ดีว่าความเหลื่อมล้ำและการไม่ยอมรับกันยังมีอยู่ในทุกสังคม แม้ว่าเราจะพยายามผลักดันแค่ไหน แต่ก็ยังมีเรื่องอีกมากที่ต้องแก้ไขร่วมกัน เพื่อความเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง