สมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) หรือ DAAT รายงานเม็ดเงินโฆษณาบนสื่อดิจิตอลประจำปี 2558 โดยงบโฆษณาบนสื่อดิจิทัลเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วย มูลค่า 8,084 ล้านบาทหรือเติบโตในอัตรา 32% จากปี 2557 และ สำหรับคาดการณ์เม็ดเงินโฆษณาบนดิจิทัลปี 2559 จะเติบโต 23% หรือ คิดเป็น 9,927 ล้านบาท
ดิจิตอลเฉียด “หมื่นล้าน”
สำหรับปี 2558 หากแบ่งตามอุตสหกรรมแล้ว กลุ่มสื่อสารและโทรคมนาคม ยังครองแชมป์อันดับ 1 ตลอด ด้วยมูลค่า 974 ล้านบาท อันดับ 2 กลุ่มยานยนต์ มูลค่า 918 ล้านบาท และอันดับ 3 กลุ่มเครื่องประทินผิว มูลค่า 595 ล้านบาท ส่วนกลุ่มที่เติบโตสูงที่สุด คือ ผลิตภัณฑ์จากนม เพิ่มขึ้นอีก 400 ล้านบาท เป็น 567 ล้านบาทในปี 2558
การเติบโตอัตราสูงส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มของ Consumer Goods เนื่องจากเจ้าของแบรนด์หรือสินค้าย้ายงบทีวีบางส่วนมาลงออนไลน์ เช่น การเอาโฆษณาจากทีวีมาออนแอร์ในออนไลน์ เป็นเพราะเชื่อว่าสื่อดิจิตอลสามารถเข้าถึงกลุ่มคนหมู่มากได้แล้ว หรือที่เรียกว่า Critical Mass ประกอบกับมีประสิทธิภาพในการเข้าถึงคน และ เจาะกลุ่มทาร์เก็ตได้ชัดเจนกว่า ขณะที่สื่อทีวียังคงสับสนวุ่นวาน และอีกกลุ่มที่เติบโต คือ กลุ่มที่สามารถสร้างยอดขายผ่านทางอินเตอร์เน็ตโดยทันที หรือ สร้าง Conversion เช่น ประกัน ธนาคาร ร้านค้าปลีก(ทำ E-Commerce)
“สำหรับปัจจัยการเติบโตของปี 2559 คาดว่าจะมาจากการเติบโตของอุตสหกรรมและพฤติกรรมของผู้บริโภคในการบริโภคสื่อที่เปลี่ยนไป รวมไปถึงประสิทธิภาพของสื่ออื่นๆที่ถดถอย ความไม่เข้าที่ของสื่อทีวี ขณะที่สื่อดิจิตอลสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำและคุ้มค่า ทำให้งบประมาณไหลมาฝั่งดิจิตอลมากขึ้น”คณะกรรมการสมาคมโฆษณาฯกล่าว
โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตมากที่สุดในปี 2559 คือ กลุ่มประกัน เติบโต 44% คิดเป็น 368 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มสื่อสารและโทรคมนาคมยังคงเป็นอันดับ 1 ด้วยมูลค่า 1,304 ล้านบาท หรือ 34% แม้ว่าจะมีการเติบโตลดลงไปเมื่อปี 2558 เนื่องจากความไม่ชัดเจนเรื่องสัญญาณและสัมปทานจึงทำให้ไม่สามารถทำแผนการโฆษณาได้ แต่คาดการณ์ว่าเม็ดเงินของกลุ่มสื่อสารฯจะกลับมาเติบโตอีกครั้งในปี 2559
Social Media is A MUST
ในส่วนของผลสำรวจตามประเภทของการใช้สื่อออนไลน์พบว่า Facebook เป็นรูปแบบของสื่อโฆษณาที่ครองส่วนแบ่งงบโฆษณาดิจิทัลสูงสุดในปี 2558 คือ 24% ของยอดการใช้จ่ายทั้งหมดซึ่งเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 95% จากปี 2557 ซึ่งหมายถึง สื่อโซเซียลมีเดียกลายเป็นเครื่องมือหลักของการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งแล้ว โดยกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องประทินผิว เป็นกลุ่มที่มียอดการใช้จ่ายผ่านช่องทาง Facebook เพิ่มขึ้นสูงสุดจากปี 2557 รูปแบบของสื่อโฆษณาที่มีสัดส่วนยอดใช้จ่ายรองลงมาคือ Display มียอดการใช้ 21 % และตามติดด้วย YouTube 20% โดย YouTube เติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2557 ถึง 87% สำหรับแนวโน้มการใช้งบประมาณตามประเภทสื่อออนไลน์ของปี 2559 พบว่าเติบโตอย่างทรงตัวและมีสัดส่วนใกล้เคียงกับปี 2558
ปีแห่งการ “ปั้มยอดขาย”
สำหรับบริการดิจิทัลที่เอเจนซี่ให้ความสำคัญ จากเดิมที่สนใจเรื่องการทำคอนเท้นท์หรือการทำวีดีโอ (Content Creation/Video Production) เมื่อปี 2558 แต่สำหรับ 2559 เอเจนซี่ต้องการบริการ Social Listening มากเป็นอันดับ 1 ถึง 61 % จากปีก่อน 56% เนื่องจากกระแสของผู้บริโภคที่สร้างคอนเท้นท์ได้เองตลอดเวลา ขณะที่ลูกค้าหรือแบรนด์ เดิมทีใช้ดิจิทัลเพื่อสร้าง Engagement แต่ปัจจุบันเน้นไปที่สร้างการรับรู้มากขึ้นและสร้างยอดขาย หรือเรียกว่า สร้างแบรนด์น้อยลง ขายของมากขึ้น
“เศรษฐกิจไม่ดี ต้องรัดเข็มขัด การใช้เงินของลูกค้าต้องมีประสิทธิภาพ ดังนั้นดิจิทัลจึงต้องรับโจทย์สร้างยอดขายด้วย ประกอบกับนักการตลาดของไทยมีความรู้ด้านวัดผลมากขึ้น เพื่อตรวจสอบและวัดผลความคุ้มค่าที่จ่ายเงินลงไป”
งานวิจัยครั้งนี้เป็นการทำ Online Survey จาก 23 เอเจนซี่ในประเทศไทย แบ่งออกเป็น 12 กลุ่มอุตสหากรรม 56 ประเภทธุรกิจ ซึ่งจัดทำมาเป็นปีที่ 2 โดยปีนี้เพิ่มระบบ Data Verification ในการสำรวจเพื่อความแม่นยำของผลงานวิจัย ทั้งหมดจัดทำโดย TNS Research ประเทศไทย
รายงานฉบับเต็ม สามารถดาวน์โหลดสั่งซื้อได้ที่ DAAT คลิกที่นี่