HomePR NewsWeLoveShopping ทุ่มงบกว่า 900 ล้านบาท หวังขึ้นแท่นผู้นำตลาดอีมาร์เก็ตเพลสในประเทศไทย

WeLoveShopping ทุ่มงบกว่า 900 ล้านบาท หวังขึ้นแท่นผู้นำตลาดอีมาร์เก็ตเพลสในประเทศไทย

แชร์ :

weloveshopping1

WeLoveShopping ผู้นำเว็บไซต์ค้าปลีกออนไลน์ ภายใต้ บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด พร้อมทุ่มทุนเพิ่มกว่า 900 ล้านบาท หวังขยายศักยภาพแพลทฟอร์มบนหน้าเว็บไซต์ ฟีเจอร์ และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

WeLoveShopping เป็นเว็บมาร์เก็ตเพลสกล่าวคือเป็นพื้นที่เปิดสำหรับให้ผู้บริโภคที่เป็นผู้ขายมาเจอกับผู้บริโภคที่เป็นผู้ซื้อ เรียกได้ว่าเป็นการช่วยเหลือคนทำมาหากินตัวเล็กๆให้ได้เติบโต ต่างจาก iTrueMart ซึ่งเป็นกิจการภายใต้บริษัทเดียวกัน แต่เป็นการพบกันระหว่างผู้ประกอบการหรือระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค

นายสืบสกล สกลสัตยาทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันยอดค้าปลีกออนไลน์ในประเทศไทย เมื่อเทียบกับออฟไลน์ คิดเป็นเพียง 1% เท่านั้น ผิดกับประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่ซึ่งจะอยู่ที่ 8-11% ทว่าในอนาคต คาดว่าตัวเลขตรงนี้จะสูงขึ้นเนื่องจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่มากขึ้น

หลังจากเปิดตัวบริษัทเมื่อปีที่ผ่านมา WeLoveShopping มียอดออเดอร์เติบโตเกือบ 200% ในไตรมาสสุดท้าย โดยตลอดทั้งปีมีมูลค่าการซื้อขายผ่านระบบกว่า 2,000 ล้านบาท มีจำนวนร้านค้าบนเว็บไซต์ถึง 350,000 ร้านค้า ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วไทย และมียอดสั่งซื้อสินค้ากว่า 1.5 ล้านรายการ มีผู้ใช้งานถึง 30 ล้านคนต่อปี อย่างไรก็ตาม ร้านค้าส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพกว่า 50% ทาง WeLoveShopping จึงเล็งเห็นผู้บริโภคต่างจังหวัดเป็นโอกาสสำคัญในการขยายจำนวนร้านค้า

เมื่อปลายปี 2015 iTrueMart ได้ขยายธุรกิจเปิดให้บริการในฟิลิปปินส์และประสบความสำเร็จอย่างดี ดังนั้นในปีนี้ บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด จึงมีแผนจะส่งทั้ง iTrueMart และ WeLoveShopping ไปเปิดยังประเทศเพื่อนบ้านต่างๆได้แก่ เวียดนาม อินโดนีเซีย เมียนมาร์ กัมพูชา มาเลเซีย และสิงคโปร์

ปี 2016 บริษัทตั้งเป้ามูลค่าการซื้อขายผ่านระบบไว้ที่ 3.2 พันล้านบาท และคาดว่าจะมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 50% โดยปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ร้านค้าต่างๆเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจอย่างครบวงจร ก็ได้แก่ 1. การร่วมมือกับ Aden Fulfillment ที่จะเข้ามาช่วยดูแลเรื่องการจัดเก็บ การแพ็ก และการส่งสินค้า เพื่อประหยัดเวลาและต้นทุน 2. การชำระเงินแบบเก็บเงินปลายทาง และแบบผ่อนชำระ 0% ผ่านระบบ TrueMoney เพื่อเพิ่มความสะดวกในการชำระค่าสินค้า 3. การใช้โครงสร้างพื้นฐาน Cloud Service บน TIDC ซึ่งเป็นพันธมิตรระดับโลกกับ Amazon Web Service เพื่อเสริมศักยภาพในการรองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 4. การเปิดพื้นที่ให้ผู้ซื้อกับผู้ขายได้สนทนากัน เปิดโอกาสให้มีการต่อรองราคากัน ซึ่งเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย เป็นสิ่งที่ตอบสนองความเคยชินของขาช้อปชาวไทยเป็นอย่างดี

จุดเด่นอีกสองประการของ WeLoveShopping คือการไม่คิดค่าเช่าพื้นที่เปิดร้านค้า และการใช้ระบบ WeTrust Guarantee ซึ่งทำให้ผู้ใช้ให้คะแนนความพึงพอใจต่อแต่ละร้านค้าได้ ทั้งยังเพิ่มความน่าเชื่อถือเรื่องการถูกคดโกงการชำระเงิน ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาที่ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยกลัวเมื่อคิดจะซื้อของบนออนไลน์

สำหรับสินค้าบนเว็บไซต์ ปัจจุบันมีกว่า 5.5 ล้านรายการ 32 หมวดหมู่ หมวดหมู่ที่ขายดีที่สุดคือ gadget รองลงมาคือ สุขภาพและความงาม อันดับสามคือสินค้าแฟชั่น กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงกว่า 70% สำหรับหมวดหมู่ที่คาดว่าจะมาแรงในปี 2016 นี้ ได้แก่ แม่และเด็ก, เครื่องใช้ในบ้าน, งาน D.I.Y.

weloveshopping2

weloveshopping3

weloveshopping4


แชร์ :

You may also like