HomeDigitalคาดการณ์ 5 สิ่งนี้ อาจจะหายไป ในอีก 5 ปีข้างหน้า

คาดการณ์ 5 สิ่งนี้ อาจจะหายไป ในอีก 5 ปีข้างหน้า

แชร์ :

TV-Remote

เวลาผ่านไปเร็วเสมอและเหมือนว่ายิ่งโลกหมุนเร็วขึ้นเท่าไหร่เทคโนโลยีก็วิวัฒน์ตามโลกได้เร็วขึ้นเท่านั้น มองย้อนกลับไปในปี 2010 เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เหมือนเมื่อไม่นานนี้เอง เป็นปีที่ iPad เกิดขึ้นมาบนโลก ปีที่ก่อตั้ง Kickstarter องค์กรที่เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ของระดมเงินทุนเพื่อสิ่งประดิษฐ์สุดเจ๋ง และยังมี Square ที่ช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าทั่วไปรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านโทรศัพท์มือถือได้ ดังนั้นก็ไม่แปลกถ้าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีเทคโนโลยีเจ๋งๆ อีกมากมายเกิดขึ้น แต่ขณะที่เราก้าวไปข้างหน้า เราเคยมองย้อนกลับไปข้างหลังบ้างหรือไม่ว่าเมื่อเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ เราทิ้งอะไรไปบ้าง?

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

เรามีอีก 5 สิ่งที่อาจกล่าวได้ว่าอยู่ในช่วงเฮือกสุดท้ายก่อนจะโดนเทคโนโลยีกลืนกินและถูกหลงลืมจนหายไปภายใน 5 ปีนี้

เงินสด, สมุดเช็ค, บัตรเครดิต และ ATM

ทุกวันนี้มีบริการทางการเงินมากมายให้เราเลือกใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็น Internet Banking การใช้บัตรเครดิตผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือการโอนเงินเพียงแค่ส่ง SMS จึงไม่แปลกที่ในอนาคตอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะก้าวหน้าจนคุณสามารถจัดการธุรกรรมทุกอย่างผ่านมือถือ ที่สหรัฐ Federal Reserve เปิดเผยว่าจำนวนการใช้เช็คเงินสดลดลงถึง 57% เมื่อเทียบกับช่วงปี 2000 – 2012

94% ของกลุ่มคนอายุต่ำกว่า 35% ใช้บริการธนาคารออนไลน์ และกว่า 1 ใน 5 ของพวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์การเขียนเช็คเลย จนเรียกได้ว่าเป็น Unbanked Generation และในยุโรป หากคุณพยายามจะถามหาเช็คล่ะก็ คุณอาจถูกมองเป็นคนเชยเฉิ่มกันเลยทีเดียว ดูเหมือนว่าเรื่องที่ยังนิยมใช้เช็คกันอยู่เป็นในส่วนของการจ่ายค่าเช่า แต่นั่นก็แค่จนกว่าเทคโนโลยีจะเข้ามาแทนที่และธนาคารออนไลน์ใช้ง่ายขึ้นจนทุกคนไว้ใจ เมื่อถึงเวลานั้นระบบเช็คก็อาจหายไปไม่ยากเย็น นอกจากเช็คแล้ว เงินสดก็อาจจะตามไปในไม่ช้า และเมื่อเงินสดไม่จำเป็น ATM จะมีไว้ทำไม?

USB Stick

ในปี 2020 ประชากรกว่า 70% ของโลกจะมี Smartphone ใช้และสัญญาณอินเทอร์เน็ตจะครอบคลุมกว่า 90% ของพื้นที่ทีมีคนอาศัยอยู่ ประกอบกับบริการ Cloud มากมายเช่น Apple, Box, Dropbox, Google, Microsoft ที่แข่งกันให้บริการจนต่อไปพื้นที่ความจุแบบ Unlimited ในราคาที่แทบจะไม่ต้องจ่ายคงเกิดขึ้นได้ไม่ยาก นั่นทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลาโดยไม่จำเป็นต้องพกพาใส่ในแฟลชไดร์ฟอีกต่อไป นี่ยังไม่รวมถึงการที่ Smartphone จะถูกพัฒนาจนเพิ่มปริมาณความจุได้อีกมหาศาลในอนาคตข้างหน้า ต่อไปแฟลชไดร์ฟ อาจเป็นแค่ความทรงจำยุคกึ่งอนาลอกแบบที่ฟลอบบี้ดิสก์เป็นตำนานของยุคก่อนหน้านี้ไปแล้ว

Password

แม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องยากที่ Password จะหายไปเพราะปัจจุบัน Password เป็นสิ่งที่ใช้กันอย่างกว้างขวางทั่วโลก คนทั่วไปมี Password มากกว่า 1 ชุด และพบว่ามีคนที่มีมากถึง 19 ชุด และกว่าครึ่งของพวกเขาก็เป็นรหัสติงต๊องที่ไม่มีความปลอดภัยเอาซะเลย และแม้ว่าคุณจะเถียงว่าไม่นะ พาสเวิร์ดฉันสตรองมาก แต่ก็นั่นแหละคุณก็มีโอกาสโดนแฮคได้อยู่ดีไม่ต่างจากคนอื่นๆ เท่าไหร่

รหัสร่างกายจึงเข้ามาแทนที่โดยเฉพาะในโทรศัพท์มือถือที่เป็นอุปกรณ์หลักในการเข้าสู่กิจกรรมออนไลน์ต่างๆ รหัสดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นรอยนิ้วมือ, เสียง หรือการจดจำใบหน้า จะเข้ามาแทนที่ชื่อน้องหมา หรือวันครบรอบวันแต่งงานของคุณ แม้ว่ามันจะยังมีความเสี่ยงในรูปแบบที่ต่างกันไปอยู่บ้าง แต่เชื่อได้เลยว่า Password แบบตัวพิมพ์จะไม่จำเป็นอีกต่อไป นอกจากนี้ระบบความปลอดภัยแบบนี้น่าจะเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นในการนำไปใช้กับโลกออฟไลน์ นั่นหมายถึงต่อไปคุณก็ไม่ต้องมีลูกกุญแจให้ทำหายอีกแล้ว เพราะการล็อคทุกอย่างจะปลดได้โดยอวัยต่างๆ ของคุณเอง!

Remote Control

คุณเคยประสบปัญหาการหารีโมททีวีไม่เจอแล้วอยากโทรเข้าหรือไม่? ปัญหานี้จะหมดไป รวมทั้งปัญหาสงครามแย่งรีโมท เพราะต่อไปเทคโนโลยีจะทำให้เราสามารถควบคุมอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงต่างๆ ได้โดยปราศจากรีโมท บริษัทวิจัย Strategy Analytics คาดการณ์ว่าภายในปี 2020 เราจะสามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมต่ออุปรกณ์ต่างๆ กว่า 1.76 หมื่นล้านเครื่องทั่วโลกเพื่อการสั่งงานต่างๆ ในระบบดิจิทัล ตอนนี้เราก็เริ่มเห็นเค้าลางจาก Amazon Echo ที่สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้แล้ว และเมื่อถึงปี 2020 ที่อุปกรณ์จำนวนมากสามารถต่ออินเทอร์เน็ตได้การผลิตรีโมทคอนโทรลก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป

เอกสารแบบกระดาษ

ตอนนี้ก็เข้าใกล้ความจริงเข้าไปทุกที ปัจจุบันการใช้เอกสารยังเป็นที่นิยมในเรื่องสำคัญๆ ที่ต้องมาการเซ็นลงนามเพื่อเป็นหลักฐาน แต่ต่อไปมนุษยชาติจะไว้ใจระบบที่เรียกว่า “cloud agreements” มากขึ้น เพื่อให้การดำเนินการเรื่องเอกสารสำคัญต่างๆ เป็นไปด้วยความรวดเร็วขึ้น

Cloud agreements จะเข้าถึงอัตลลักษณ์บุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมหรือทำสัญญา ทำให้การจ่ายเงินหรือทำข้อตกลงต่างๆ เป็นไปด้วยความรวดเร็ว ปลอดภัยและเชื่อถือได้ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ธนาคาร ประกันภัย รวมถึงศูนย์สุขภาพสมัยใหม่ต่างๆ จะเริ่มนำโมเดลนี้มาปรับใช้กับธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับการบริการ และสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ใช้งาน ในอนาคตอันใกล้การทำสัญญาต่างๆ จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ถึงเวลาปรับตัวรับสิ่งใหม่ เข้าสู่ยุคที่ดิจิทัลอยู่ในชีวิตเราทุกองศา ให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายขึ้น

Source

แปลและเรียบเรียงโดย Prim Meow Meow


แชร์ :

You may also like