ในปัจจุบันการเติบโตตลาดของรถจักรยานยนต์ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะรถบิ๊กไบค์เท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นกับรถประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะรถประเภท Hobby หรือ Gadget ที่มีคุณค่าทางจิตใจและอารมณ์แสดงให้เห็นชัดเจนว่าผู้บริโภคชาวไทยยุคใหม่ไม่ได้ซื้อรถเพียงเพื่อใช้สำหรับเดินทาง แต่ยังมีความต้องการรถที่ให้ความสนุกในการขับขี่ หรือเพื่อแสดงความเป็นตัวตนทางสังคมและกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต ซึ่งทำให้ฮอนด้าที่เป็นผู้นำตลาดจึงไม่อาจจะหยุดพัฒนา โดยจะก้าวนำการเปลี่ยนแปลงเพื่อพลิกโฉมวงการรถจักรยานยนต์ไทยสู่ยุคแห่งอนาคตอย่างแท้จริง
“แล้วใครจะคิดว่า…การโฆษณารถจักรยานยนต์รุ่นหนึ่งในวันนี้ นอกจากจะถูกถ่ายทอดจุดขายต่างๆตามแบบฉบับโฆษณารถจักรยานยนต์ทั่วไปแล้ว ยังสามารถเลือกฉากจบแบบต่างๆของคุณเองได้แค่เพียงปลายนิ้ว”
ถ้าเอาคำพูดบรรทัดต้นไปพูดให้ใครฟังอาจจะได้ถูกสวนกลับว่า “อย่ามโน” แต่สำหรับบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า ที่ได้พยายามทำโฆษณารถจักรยานยนต์ใน online มาเป็นระยะพอสมควรกลับมองว่า “เป็นไปได้” ด้วยแนวความคิดที่ไม่เคยหยุดทำอะไรใหม่ๆอยู่เสมอในแบบฉบับผู้นำด้านวงการรถจักรยานยนต์ที่ยึดมั่นในความสนุกให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับช่องทางการสื่อสารในโลก online ที่มีอย่างหลากหลายในยุคนี้ ได้เป็นช่องทางที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการนำเอาหนังโฆษณาแบบ Youtube card มาใช้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้คอนเซปต์ใหม่ “Endorphins Clutcher” ที่คุณสามารถเลือกความฟินส์จาก MSX125SF ได้เองกับฉากจบที่แตกต่างกันถึง 4 แบบ !!! โดยเนื้อหาจะเป็นการโชว์สมรรถนะรถ พร้อมการขับขี่ที่เร้าใจ เรียกว่าใครชอบฟินส์แบบไหนก็เลือกได้ตามใจชอบไปเลยทีเดียว
นอกจากนี้ เอ.พี.ฮอนด้า ยังได้เพิ่มโอกาสทางการตลาดด้วยการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆจากการจัดตั้งกลุ่ม The Clutcher ขึ้นเพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์แบบมีคลัทช์มารวมตัวกันเป็น Community ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการรับรู้ข่าวสารใหม่ๆ และกิจกรรมสุดฟินส์แบบ On Ground ที่จะตามมาในอีกไม่นาน ด้วยการโปรโมทผ่าน influencer ชื่อดังที่ชื่นชอบในรถมอเตอร์ไซค์มาเป็นตัวขับเคลื่อนคอนเซปต์ในครั้งนี้ โดยใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียทั้ง Facebook และ IG
ว่าแต่ทำไม เอ.พี.ฮอนด้าถึงกล้าที่จะโปรโมทผ่านโซเซียลมีเดีย แทนที่จะเป็น TVC ทั่วไปเหมือนอย่างเจ้าอื่นๆ คำถามนี้คงต้องย้อนกลับมาดูที่ตัวโปรดักส์เองว่าเจ้า MSX125SF นั้นมีจุดยืนอะไรที่แตกต่าง อย่างแรกคือ เอ.พี.ฮอนด้าได้วาง MSX125SF เป็นสปอร์ตมินิไบค์ที่มีดีไซน์โฉบเฉี่ยวล้ำสมัย ให้อารมณ์ที่ดุดันมีความคล่องตัวในการใช้งาน อย่างที่สองคือต้องการยกระดับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ให้ไม่ใช่คำว่า แว๊นซ์ อย่างที่สามที่ทางฮอนด้าเห็นจะเน้นสุดๆ คือการที่มอเตอร์ไซค์ จะไม่ใช่มอเตอร์ไซค์อีกต่อไปคือการเอาไปโมดิฟายในแบบของลูกค้านั้นเอง เพราะฮอนด้าได้เป็นเจ้าแรกที่รวบรวมอุปกรณ์ตกแต่งรถ และคอลเลคชั่นต่างๆไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งจุดนี้สามารถสะท้อนได้ถึง Target Group ที่ต้องการจะสื่อสารถึง ซึ่งการใช้สื่อโซเชียลมีเดียสำหรับกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ถือได้ว่า เกาที่คันได้อย่างตรงจุด เพราะคนกลุ่มที่จะซื้อรถมินิไบค์ส่วนใหญ่คงไม่ได้เน้นการใช้งานเป็นหลัก แต่หมายถึงการเอามาแต่งตามอารมณ์ หรือโชว์เป็น Gadget โดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องความคุ้มค่ามากกว่าหน้าตาทางสังคม แสดงได้ว่าลูกค้ากลุ่มนี้คือกลุ่มลูกค้าในอีกระดับ และแน่นอนว่าคนกลุ่มนี้ไม่น่าจะใช่ แว๊นซ์ ซึ่งสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆหรืออะไรที่อยู่ในกระแส คนกลุ่มนี้มักจะไม่พลาดไปง่ายๆ
พร้อมกันนี้ว่าด้วยเรื่องของการใช้โฆษณาซึ่งเป็นกิมมิคที่ให้ผู้ชมเลือกตอนจบของตัวเองได้ถึง 4 แบบ นี่ก็ถือว่าเป็นความคิดที่แสนแยบยลเพราะลูกค้านอกจากจะได้เล่นสนุกผ่านการเลือกด่านต่างๆด้วยตนเองแล้ว ยังถือเป็นการสอดแทรกจุดขายของโปรดักส์ไว้ในแต่ละด่านได้อย่างลงตัว และน้อยครั้งสำหรับพฤติกรรมของการเล่นเกม คงไม่มีใครเลือกชมทีเดียวแล้วพออย่างแน่นอน ย่อมมีการอยากรู้ว่าถ้าเลือกอีกแบบแล้วจะเป็นอย่างไร ทำให้ผู้ชมย้อนกลับมาเลือกชมด่านต่างๆซึ่งมีจุดขายแทรกอยู่อย่างครบถ้วน
นับว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งสำหรับวงการรถจักรยานยนต์ที่มีการใช้ช่องทางการสื่อสารแห่งยุคได้อย่างน่าสนใจ พร้อมกับเข้าถึงคนกลุ่มลูกค้าที่ต้องการได้อย่างดีเยี่ยม ต่อไปนี้เราคงได้เห็นกิจกรรมที่นอกเหนือจาก Online ที่ลงไปสู่กิจกรรม On Ground แล้วจะฟินส์อย่างที่ตั้งใจไว้หรือไม่สำหรับ New MSX125SF “Endorphins Clutcher” คุณเองเป็นผู้ตัดสิน #The Clutcher #New MSX125SF