HomeCreativityผลสำรวจชี้ Video Ads ยิ่งสั้นยิ่งได้ใจวัยรุ่น ในขณะที่ผู้ใหญ่ยอมดูเรื่องยาวได้นานกว่า

ผลสำรวจชี้ Video Ads ยิ่งสั้นยิ่งได้ใจวัยรุ่น ในขณะที่ผู้ใหญ่ยอมดูเรื่องยาวได้นานกว่า

แชร์ :

video_ads

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ผลสำรวจจาก IAB พาร์ทเนอร์ของ Millward Brown Digital เผย วัยรุ่นกลุ่ม Millennials ที่ดูวิดีโอคอนเทนน์ผ่านสมาร์ทโฟนมีแนวโน้มที่จะตอบรับกลับวิดีโอที่สั้นกว่า หรือมีความยาวไม่เกิน 10 วินาที ในขณะที่กลุ่มผู้ใหญ่ช่วงอายุตั้งแต่ 35 – 54 ยังมีการตอบรับที่ดีกับวิดีโอที่มีความยาว 30 วินาที

การวิจัยทำโดยใช้โฆษณาความยาว 10 วินาทีและ 30 วินาที ของสินค้าประเภทต่างๆ ทั้งรถยนต์ เครื่องอุปโภคบริโภคทั่วไป และร้านอาหาร ให้กลุ่มตัวอย่างดูโฆษณาเหล่านั้นทั้งจากบนเดสก์ท็อป แท็บเลต และสมาร์ทโฟน จากนั้นจึงให้ตอบคำถามชุดหนึ่งจากหนังโฆษณาที่ได้ดูไปโดยเป็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับรายละเอียดในโฆษณาและตัวแบรนด์

Joe Laszlo, VP ของ IAB กล่าวว่า “เรามักมีความเชื่อว่าหนังโฆษณาที่ฉายบนสมาร์ทโฟนนั้นยิ่งสั้นยิ่งดี แต่ผลวิจัยนี้ทำให้เราเห็นว่าปัจจัยทางลักษณะประชากรและเป้าหมายของการโฆษณาจะทำให้ความเชื่อนั้นสั่นสะเทือน ผลวิจัยนี้มีนัยยะสำคัญต่อการทำโฆษณาในแบบมัลติสกรีนในอนาคต”

ผลการวิจัยครั้งนี้จะมีผลต่อสื่อและผู้โฆษณาที่เคยลองทำโฆษณาออกมาในความยาวที่แตกต่างและรูปแบบที่หลากหลาย (หลังจากปีที่แล้วไมโครซอฟท์เพิ่งค้นพบว่าสมองคนเราจะให้ความสนใจสื่อดิจิทัลแค่ 8 วินาทีเท่านั้น)

ในขณะที่มีความแตกต่างของช่วงอายุ แต่ก็ยังมีบางข้อเท็จจริงที่งานวิจัยค้นพบซึ่งเป็นเรื่องที่เรารู้กันดีอยู่แล้ว เช่น โฆษณาที่มีความยาวมากกว่ามักบอกเล่ารายละเอียดที่ซับซ้อนได้ดีกว่า และโฆษณาที่ดูผ่านแท็บเล็ตจะสามารถเล่าเรื่องราวของข้อมูลใหม่ๆ ได้ดีกว่า

ดังนั้นนี่จึงเป็นข้อมูลที่ดีสำหรับนักการตลาดที่จะนำไปปรับใช้ สำหรับการทำวิดีโอคอนเทนท์ต่อไป วิดีโอที่สั้นเหมาะกับหน้าจอขนาดเล็ก ในขณะที่วิดีโอที่ยาวกว่า ก็เหมาะกับจอที่ใหญ่กว่า นอกจากนี้ความอดทนในการดูโฆษณาต่างๆ ยังแปรผันตามอายุและช่วงวัย ครึ่งนึงของกล่ม Millennials บอกว่ามีวิดีโอคอนเทนท์บนสมาร์ทโฟนของพวกเขามากเกินไป ในขณะที่เพียง 43% ของผู้ใหญ่อายุ 35 – 54 ที่รู้สึกเช่นนั้น สำหรับแท็บเล็ตทั้ง 2 กลุ่มดูเหมือนว่าพร้อมที่จะดูวิดีโอเหล่านี้มากกว่า เพราะมีเพียง 36% ของกลุ่มวัยรุ่น และ 25% ในกลุ่มผู้ใหญ่ที่รู้สึกว่ามันเยอะเกินไป นอกจากนี้การดูโฆษณาบนแท็บเล็ตยังมีแนวโน้มที่พวกเขาจะมีปฏิสัมพันธ์กับโฆษณาเหล่านั้นมากกว่าการดูบนสมาร์ทโฟนอีกด้วย

“ทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเป็นเครื่องมือที่เราจะสามารถเข้าถึงและสร้างความผูกพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย งานวิจัยนี้จึงมีความสำคัญมากในการทำไปปรับใช้กับการทำวิดีโอแบบมัลติสกรีนเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างดีที่สุด” Joe Laszlo เสริมปิดท้าย

Source

แปลและเรียบเรียงโดย Prim Meow Meow


แชร์ :

You may also like