เปิดรังกระต่าย Rabbit’s Tale…งานดิจิตอลดีๆ ทำไมไม่มีในไทย ?

ได้ฤกษ์เปิดรัง แรบบิทส์เทลล์ ดิจิตอลเอเยนซีสายพันธุ์ใหม่  BrandBuffet ได้มีโอกาสเยี่ยมชมบริษัทและพูดคุยกับ 4 ผู้บริหารรุ่นใหม่ ทั้งที่มาและแนวคิดดำเนินธุรกิจดิจิตอลเอเยนซี่ รวมไปถึงวิธีการคิดงานครีเอทีฟในสไตล์ของชาวกระต่าย

จากโรงพิมพ์ สู่  รังกระต่าย

ทีมผู้บริหารรุ่นใหม่ทั้ง 4 คน ช่วยกันเล่าว่า แรบบิทส์เทลล์ (Rabbit’s Tale) เริ่มต้นเมื่อปี 2009 จากความคิดของแม็คและปอม ที่สนใจเรื่องดิจิตอลและเทคโนโลยี พร้อมกับเห็นการดรอปของธุรกิจสิ่งพิมพ์ที่บ้านแม็ค และ Facebook และ Google search เริ่มมีความสำคัญในการตลาดเมืองไทย และยังไม่เห็นมีงานดิจิตอลดีๆในเมืองไทย  จึงเป็นจุดเริ่มต้นการสร้างดิจิตอลเอเจนซี่แห่งนี้ขึ้นมา โดยใช้โรงพิมพ์ของที่บ้านแม็คเป็นออฟฟิศแรกในการสร้างรังกระต่าย จากนั้นขยายจำนวนพนักงานเรื่อยๆและพาร์ทเนอร์สำคัญอีกสองคน คือ เล็ก ที่ชื่นชอบในเรื่องการทำธุรกิจ และ บี ผู้มีประสบการณ์ด้านดิจิตอลในผลิตภัณฑ์ AXE 

“สำหรับที่มาของชื่อ Rabbit’s Tale มาจากความชื่นชอบประโยคที่ว่า  Shoot for the moon. Even if you miss you’ll land among the stars  (ไปให้ถึงพระจันทร์ แต่ไม่ถึงก็อยู่ท่ามกลางดวงดาว) จึงนำมาเป็น Motto ของบริษัท และความบังเอิญที่เราทั้ง 4 คนเกิดในปีกระต่ายเหมือนกัน  เราอยากจะสร้างนิทานกระต่าย และ สร้างตำนานไปด้วยกันกับลูกค้า ปัจจุบัน Rabbit’s Tale มีพนักงานรวม 60 คน และจะเพิ่มขึ้นเป็น 100 คนอีกสองเดือนข้างหน้า พร้อมกับย้ายออฟฟิศใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมรองรับจำนวนงานและลูกค้าที่เพิ่มขึ้น” รุ่งโรจน์  ตันเจริญ อธิบาย

งานลูกค้าชิ้นแรกคือการทำการ์ดแต่งงาน  แต่สำหรับงานดิจิตอลจริงๆชิ้นแรก คือ การทำ AR Code ให้กับ SCG ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้น ได้ทำงานดิจิตอลสเกลที่ใหญ่ขึ้น และมีลูกค้าอีกหลายเจ้าเริ่มมาใช้บริการ

“ตั้งเป้าหมายเติบโต 100%  พร้อมกับยอดขายมากกว่า 100 ล้านบาท ในปี 2559 พร้อมกับ มีชื่อเสียงในเวทีต่างๆ ระดับ International  และวางแผนเพิ่มบริการใหม่ๆในอนาคตตามเทรนด์ที่เกิดขึ้น”

หายใจเข้า-ออก…ดิ-จิ-ตอล 

จุดแข็งของ Rabbit’s Tale คือ เรื่องคนและวัฒนธรรมองค์กร ที่นี่เป็นแหล่งรวมคนสายพันธุ์ดิจิตอล เป็นคนรุ่นใหม่ มีไฟ ที่เกิดและใช้ชีวิตกับมัน อายุเฉลี่ยของผู้บริหารและพนักงานทั้งบริษัท แค่ประมาณ 25-30 ปี หายใจเข้า-ออกเป็นดิจิตอล เติบโตมาพร้อมดิจิตอล มีความเข้าอกเข้าใจ คิด และทำแบบดิจิตอล มีความตั้งใจและความเชื่อในดิจิทัลเหมือนๆ กัน กระหายไอเดียสร้างสรรค์แปลกใหม่ ไม่เคยหยุดคิด ชอบฉีกกรอบการทำโฆษณายุคเดิมๆ สะท้อนมุมมองของผู้บริโภคแบบ Outside-in ด้วยความเชื่อที่ว่า ดิจิตอลไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยี หรือออนไลน์ หรือเก็ดแจ็ท แต่ดิจิตอลคือชีวิตและเป็นหนึ่งปัจจัยในการดำรงชีวิตของคนไปแล้ว

ส่วนวิสัยทัศน์ “Break the norm, build the tale” ฉีกกรอบการทำการตลาดแบบยุคเดิม คิดต่างเพื่อสร้างตำนานบทใหม่ให้กับยุคดิจิตอลของประเทศ มุ่งเน้นการทำงานด้วยความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจสูงสุด พร้อมวางเป้าหมายในอนาคต สู่การเป็นผู้ให้บริการด้านดิจิตอลโซลูชั่นแบบครบวงจรระดับแนวหน้าของประเทศ

“พวกเราไม่เคยทำงานเอเยนซี่โฆษณามาก่อน เลยจะไม่มีกรอบหรือรูปแบบคิคงานแบบเอเยนซี่  ทำให้งานออกมาเป็น Logical Based และ ประสบการณ์ที่คิดว่าน่าจะเวิร์คจริงๆ จึงทำให้โดนใจลูกค้า”

กฏเหล็กกระต่าย 

ปกติแล้วเอเยนซี่จะแยกคิดงานกันเป็นส่วนๆ โดยแบ่งเป็น งานแพลนนิ่งหาอินไซต์  งานครีเอทีฟคิดไอเดีย และส่งต่อไปทีมต่างๆ แต่สำหรับ Rabbit’s Tale ใช้ลักษณะการทำงานเรียกว่า 3 ประสาน  คือ  3  ทีมมาเริ่มคิดงานด้วยกันตั้งแต่ต้น บางครั้งไอเดียอาจได้จากทีมอื่นๆที่ไม่ใช่ครีเอทีฟก็ได้  แต่ทุกงานจะอยู่ภายใต้แกนหลักคิดงานคือ Pursue of  Effective Creativity  งานต้องมีคุณค่าทั้งมีความคิดสร้างสรรค์และ Effective ตอบโจทย์ให้กับลูกค้าด้วย

“หากความคิดสร้างสรรค์แต่ไม่ตอบโจทย์ลูกค้าก็ไม่มีความหมาย  และถ้างาน Effective แต๋ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ ก็ไม่ได้ให้คุณค่าอะไรใหม่ๆกับวงการ  อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นงาน Wow แต่เรียกว่าเป็นงานที่ Smart Thought”

“งานของเราไม่ใช่แค่พลุดอกไม้ไฟ ที่จุดพลุเปรี้ยงแล้วหายไป แต่เราทิ้งบางอย่างให้เป็น Asset ของแบรนด์ด้วย” สโรจ เลาหศิริ กล่าว

รังกระต่าย

7 ดิจิตอลเทรนด์  TRENDs to TRUTHs 2016

1. The Last Digital Immigrants  กลุ่มคนที่ไม่เคยใช้อินเตอร์เน็ตมาก่อน(จำนวนมาก)เข้าสู่โลกดิจิตอลแล้วผ่านมือถือและสมาร์ทโฟน ดั้งนั้นอยู่ห่างไกลขนาดไหนก็สามารถเข้าถึงดิจิตอลได้แล้ว ดิจิตอลไม่ใช่ของคนในหัวเมืองใหญ่ๆอีกต่อไป

2. Micro-Wave  เมื่อผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น เลิกดูสื่อ Mass การสื่อสารจึงต้องระดับถึงตัวบุคคล ดังนั้นกระแส Micro จึงเกิดขึ้น  อาชีพเกิดใหม่ และ บริการใหม่ ที่เจาะจงไปยังตัวบุคคลมากกว่าเดิม เช่น  Micro-targeting Micro-Influencer

3. Useful Marketing  ผู้บริโภคต้องการคอนเน็คกับแบรนด์ที่ให้ประโยชน์กับเขา การ Push โฆษณาไม่ได้ผลอีกแล้ว ดังนั้นสื่อสารคอนเท้นท์ที่มีประโยชน์ต่อผู้บริโภค ไม่ว่าจะเอื้อต่อการขายหรือไม่ก็ตาม

4. Startupper สตาร์ทอัพกำลังมาแรง และเริ่มหันมาใช้ Digital marketing เพื่อสร้างการเติบโต ดังนั้นเอเยนซี่ต้องพิจารณา business model ให้สอดคล้องกับเทรนด์นี้ด้วย

5. e-SilkRoad  เมื่อเศรษฐกิจไทยจะต้องพึ่งพาจีน  เราต้องศึกษาแพลตฟอร์มดิจิตอลของจีนไว้ด้วย เช่น Baidu , Wechat , Youku

6. Brand Transparency and Authenticity  แบรนด์ต้องเป็นดี  ต้องสื่อสารในมุมบวก  ไม่ควรนำประเด็นทางสังคมมาใช้สื่อสารถ้าไม่จำเป็น  ไม่ควรทำ Seeding ตามเว็บบอร์ดต่างๆ  และเตรียมพร้อมล่วงหน้าหากเจอปัญหาหรือประเด็นที่เกิดขึ้น

7. Re-scaling Production house  โปรดักส์ชั่นเฮาส์ต้องปรับสเกลลงมา และมีปรับตัวในด้านราคา เนื่องจากจะมีการทำวีดีโอออนไลน์มากขึ้น แต่งบประมาณต้องประหยัดกว่า TVC

ตัวอย่างงานเด่นของ Rabbit’s Tale

เก๊กหล่อน้ำจับเลี้ยง เล่นฟังก์ชั่น Skip Ads ใน youtube  ได้ Success rate  ถึง 98%

ศรีจันทร์ ฟอร์ เมน 

 Canon Redefine อักษรไทย  อักษรไทยรูปแบบใหม่จากการถ่ายรูปด้วยกล้องแคนอน และทำหนังสือ ก-ฮ แบบใหม่ออกมาแจกโรงเรียน 400 แห่ง

4 ผู้บริหารคุมรังกระต่าย

รุ่งโรจน์  ตันเจริญ (เล็ก)  Managing Director & Partner

สโรจ เลาหศิริ (บี)  Executive Strategic Creative Director 

ชนินทร์ อรัญวัฒน์  (ปอม)  Executive Financial Director & Partner 

สุนาถ ธนสารอักษร (แม็ค)  Executive  Account Director & Partner 

รูป : Rabbit’s Tale