ในมุมของคนที่กำลังหางานแน่นอนว่าย่อมให้ความสนใจอยากทำบริษัทที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะสายไอที ชื่อบริษัทอย่าง Google, Facebook, Apple, Amazon คงอยู่ในลิสต์บริษัทในฝันของคนหางานหลายต่อหลายคนเลยทีเดียว แต่จากรายงานล่าสุดเราพบว่าการได้ทำงานในบริษัทชื่อดังเหล่านี้กลับไม่ใช่นิพพานของการทำงานเสมอไป ข้อมูลบอกเราว่าในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีทั้งหลายมีการหมุนเวียนเปลี่ยนงานของพนักงานในอัตราที่ค่อนข้างดี เฉลี่ยระยะเวลาการทำงานของพนักงาน 1 คนจะทำงานที่บริษัทเดิมอยู่ที่ 3.68 ปี
แพลตฟอร์มหางานอย่างเว็บไซต์ Dice ทำผลสำรวจออกมาในฐานข้อมูลบริษัทเทคโนโลยีกว่า 1,600 บริษัทใน US ในเดือนกันยายนเพื่อประเมินหาความถึงพอใจในการทำงาน พบว่า 50% ของพนักงานบริษัทเหล่านี้ยินดีย้ายงานไปยังเมืองอื่นถ้าเขาได้งานใหม่ที่น่าพอใจ 52% ยอมย้ายไปยังภูมิภาคอื่นเพื่องานใหม่ และพบว่าปัจจัยด้านเงินเดือนยังคงมีส่วนในการตัดสินใจ 59% พร้อมย้ายไปเมืองอื่นหากได้งานที่เงินดีกว่าเดิม นอกจากเรื่องงานแล้ว Work – life Balance ยังคงเป็นอีกเหตุผลที่พวกเขาอยากย้ายงาน เพราะเป็นสิ่งที่รู้สึกว่างานปัจจุบันไม่สามารถให้ได้ กว่า 27% ของพนักงานที่บอกว่าความสมดุลระหว่างหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัวในวงการไอทีเป็นแค่ตำนานที่ไม่มีอยู่จริง แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นคนที่อยู่ในบริษัทใหญ่โตมีชื่อเสียงก็ยากที่ลาออกแม้ว่าภาระหน้าที่จะหนักหน่วง เพราะการได้ตำแหน่งในบริษัทแบบนี้ก็ดีกว่าการเป็นพนักงานตัวจ้อยทำงานแทบทุกอย่างอยู่ในบริษัทเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก
แต่ก็ยังมีคนมีความสามารถจำนวนไม่น้อยที่พร้อมจะลาออก แต่พวกเขาออกไปไหน และอะไรเป็นปัจจัยให้พวกเขากล้ากระโดดออกมาจากวงจรนั้น Anthology เว็บไซต์ฝากประวัติหางาน ทำผลสำรวจออกมาให้เราดูกันว่าพนักงานจาก 6 บริษัทไอทีชื่อก้องโลกมีปัจจัยอะไรบ้างที่ดึงดูดให้พวกเขาสละเรือ
วัฒนธรรมหนึ่งของ Google คือเลี้ยงคนและผลักดันให้พวกเขาหลายเป็น Startup ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคนหนึ่งคือ Tom Leung ผู้ก่อตั้ง Anthology เอง เขาเคยทำงานใน Google ในตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมคือ Senior business product manager for Google Analytics ในปี 2006-2009
เขาเล่าว่า “คนมักพูดกันว่าการได้เป็น Product Manager ของ Google นั้นเหมือนเป็น Mini – CEO เลยทีเดียว” เขาบอกว่าการได้ทำงานที่ Google เหมือนเป็นการเตรียมตัวเพื่อให้เขาได้มีกิจการของตัวเองคือ Anthology ในปี 2014 นอกจากนี้แต่ละทีมยังมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบรวมทั้งมีการจดบันทึกผลงานไว้เสมอ “การที่ต้องทำแผนกลยุทธ์ให้ผู้บริหารอย่าง Larry และ Sergey ตรวจนั้นช่วยฝึกให้คุณมีความมั่นใจและมีพลังที่ทำให้การริเริ่มกิจการของตัวเองนั้นกลายเป็นเรื่องเล็กๆ ไปเลย”
Apple
พนักงานของ Apple ค่อนข้างรอบคอบเกี่ยวกับที่ที่พวกเขาจะออกไปต่อ จึงมีเพียง 28% เท่านั้นที่พร้อมเสี่ยงจะออกไปตั้งบริษัทของตัวเอง แต่หากมีเงินสนับสนุนให้ก็มีถึง 62% ที่คิดว่าจะลองพิจารณาดู เป็นจำนวนพอๆ กับคนที่ตอบว่าถ้าออกจาก Apple ก็คงไปอยู่บริษัทมหาชนที่ไหนสักแห่ง
Amazon
Amazon เพิ่งประกาศถึงนโยบายการลาออกของบริษัทเมื่อไม่นานนี้ แต่บริษัทที่มีขนาดใหญ่กว่าก็ย่อมมีทรัพยากรพร้อมกว่าบริษัทขนาดเล็กอยู่ดี ทำให้ผลสำรวจพบว่า 74% ของพนักงาน Amazon พร้อมที่จะย้ายไปยังบริษัทใหม่ที่ใหญ่กว่า และมีเพียง 35% ที่คิดจะออกไปเป็น Startup
IBM และ Microsoft
ทั้ง 2 บริษัทมีความคล้ายคลึงกันตรงที่พนักงานของทั้ง 2 ที่ พิจารณาการย้ายงานจากความมั่นคง พวกเขาจะย้ายถ้าที่ใหม่มีความมั่นคงกว่าและไม่เสี่ยง พนักงาน IBM เป็นกลุ่มตัวอย่างที่พร้อมจะรับความเสี่ยงได้น้อยที่สุด มีเพียง 23% เท่านั้นที่มีความคิดจะลาออกไปเป็น Startup พนักงาน Microsoft 74% บอกว่าถ้าออกก็ไปอยู่บริษัทมหาชน
แปลและเรียบเรียงโดย Prim Meow Meow