เพราะว่า “สิงห์” ไม่ได้ทำภาพยนตร์โฆษณาที่สื่อสารเรื่อง Corporate มานานราวๆ 8 ปีแล้ว จนกระทั่งเมื่อวิจัยเรื่องการรับรู้ต่อแบรนด์กับผู้บริโภครุ่นใหม่ หลายคนไม่เข้าใจว่าแบรนด์สิงห์มีจุดเด่นเรื่องอะไร ดังนั้นสิงห์จึงส่งโฆษณาชุด Bring It On “ถ้าใจบอกว่าใช่ แล้วจะรออะไร” พูดคุยและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีกับกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่
ภาพยนตร์ดังกล่าวเล่าเรื่องของ กลุ่มคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ไม่เหมือนใคร ทำเรื่องที่ดีๆ แล้วก็ทำแบบทุ่มสุดตัว เพื่อให้ได้ผลตามที่หวังไว้ มีความเสียสละเพื่อสังคม ตามแนวทางของตัวเอง ทันสมัย ตามเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมในตอนนี้ สะท้อนให้เห็นภาพกิจกรรมหลายๆ อย่างในโฆษณา นอกจากภาพยนตร์โฆษณาแล้วยังมีสื่ออื่นๆ เช่น สื่อนอกบ้าน และกิจกรรม ณ จุดขาย ซึ่งใช้ Tagline การสื่อสารเดียวกันนี้
ถ้าหากย้อนกลับไปจะพบว่า โฆษณาล่าสุดของสิงห์ก่อนหน้านี้ ก็คือ TVC ที่ใช้ดาราชายยอดนิยมในขณะนั้น 3 คน ประกอบไปด้วย ดอม เหตระกูล, อู๋-ธนากร โปษยานนท์ และ เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพัน ตั้งแต่ยุคที่ยังไม่มีกฎหมายห้ามไม่ให้ใช้ดาราโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอลร์นู้นนนเลยทีเดียว ทำให้ผู้บริโภค Gen X มีความผูกพันกับแบรนด์สิงห์ที่มีมาอย่างยาวนาน แต่ในกลุ่มผู้บริโภค Gen Y กลับเป็นโจทย์สำคัญที่สิงห์ต้องเข้าถึงให้ได้ ซึ่งการแข่งขันในตอนนี้ไม่ง่ายเหมือนเช่นเคย เพราะทุกแบรนด์เบียร์ต่างก็มุ่งเน้นสื่อสารเรื่องของทัศนคติ และบุคลิกของสินค้าในที่ในฐานะผู้บริโภคดูๆ แล้วก็คล้ายกันไปซะทั้งหมด
ธิตินันท์ ชุ่มภาณี ผู้จัดการฝ่ายพันธมิตรธุรกิจ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด “สิงห์มีความความแตกต่างกับแบรนด์อื่นๆ เป็น ที่ความสุขุม แต่ก็ยังคงมีความสนุกอยู่ และสิงห์ที่เราทำไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง อย่างในโฆษณาก็มีการทำอะไรสร้างสรรค์เพื่อสังคมควบคู่กันไปด้วย นี่คือ Identity ที่อยู่แบรนด์แล้วก็องค์กร การที่เราเป็นแบรนด์ไทยและอยู่ในสังคมมายาวนาน ก็เป็นสิ่งที่เราอยากจะสื่อสารออกมา”