ปัจจุบัน ย่านราชประสงค์ – เพลินจิต คือ หนึ่งในย่านการค้าสำคัญของกรุงเทพฯ ที่เป็น World-Class Destination ที่ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือน โดยผู้ประกอบการภาคเอกชนในย่านนี้ ต้องการสร้างให้เป็น “Central Bangkok” ศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวระดับพรีเมี่ยม ใจกลางมหานครกรุงเทพฯ ครอบคลุมตั้งแต่ถนนเพลินจิต, ถนนราชดำริ, ถนนพระราม 4 และถนนวิทยุ
โดยมี “กลุ่มเซ็นทรัล” เป็นหนึ่งในทัพหน้า เพราะย่านการค้าแห่งนี้ถือว่ามีความสำคัญสำหรับกลุ่มเซ็นทรัลอย่างมาก เนื่องจากเป็นที่ตั้งของ 3 โครงการหลักของเครือเซ็นทรัล ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชิดลม และ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่
ยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจของเซ็นทรัล กรุ๊ป ต้องการให้เกิดการผนึกกำลังกันระหว่างธุรกิจในเครือให้มากที่สุด ดังนั้น การสร้างย่าน “Central Bangkok” ทั้ง 3 โครงการต้อง Synergy เพื่อให้เกิดพลังมากพอที่จะดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยือน และทำให้ทั้ง 3 โครงการดังกล่าว มีลูกค้าหมุนเวียนดึงกันไปมาระหว่างกัน
โดยหนึ่งในยุทธวิธีสำคัญที่กลุ่มเซ็นทรัลใช้ปั้น “Central Bangkok” ให้เป็นที่รับรู้ในสายตาชาวโลกมากยิ่งขึ้น คือ การจัด “Signature Event” ระดับประเทศ โดยที่ผ่านมาประสบความสำเร็จกับการจัดอีเวนท์ระดับประเทศ ที่โด่งดังไปทั่วโลกในหลายอีเวนท์ ไม่ว่าจะเป็น งานคริสต์มาส, งานเคาท์ดาวน์, กิจกรรมงานสงกรานต์, กิจกรรมเทศกาลตรุษจีน โดยแต่ละอีเวนท์จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และสามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในย่านนี้ได้เป็นจำนวนมาก ส่งผลต่อการสร้างเม็ดเงินมหาศาลให้กับภาคการท่องเที่ยวของไทย
และเพื่อให้ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ช้อป – ชิม – ชิลล์ ของนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนเมืองไทย ล่าสุด “ภาคีกลุ่ม Central Bangkok” ได้ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท จัดงานเทศกาลอาหาร “Central Bangkok Tastes of The World” หวังปลุกปั้นให้เป็นอีกหนึ่ง Signature Event ระดับประเทศ ที่จัดต่อเนื่องทุกปี เพื่อสร้างชื่อให้กับ Central Bangkok และเป็นแม่เหล็กดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในย่านการค้านี้
เหตุผลที่ “กลุ่มเซ็นทรัล” เลือกจัดเทศกาลอาหาร เพราะประเทศไทยขึ้นชื่อในด้านการเป็นเมืองอาหารอร่อย และมีความหลากหลายของประเภทอาหาร ทั้งอาหารไทยในแต่ละภูมิภาค และอาหารนานาชาติ เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศชื่นชอบ โดยในปี 2558 CNN Travel เผยว่าอาหารไทยติดอันดับ 4 ของโลก
“ภาคีในกลุ่ม Central Bangkok ทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ในการจัดงาน Central Bangkok Tastes of The World โดยเราหวังว่างานดังกล่าว จะเป็น “Food Destination” ของคนทั่วโลก โดยเฉพาะในแถบเอเชีย และจะมีส่วนผลักดันให้อาหารไทยขยับติด 1 ใน 3 ของอาหารโลกในอนาคต รวมทั้งส่งผลให้ผู้ประกอบการด้านการไทยมีรายได้เพิ่มมากขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในอีกทางหนึ่ง โดยเราคาดว่ากิจกรรมครั้งนี้จะมีรายได้สะพัดไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท” คุณพิชัย จิราธิวัฒน์ ผู้แทนภาคีผู้ประกอบการในย่าน Central Bangkok กล่าว
จะสังเกตได้ว่าในแต่ละ Signature Event จัดขึ้นตามเทศกาลสำคัญๆ ทั้งของไทยที่คนต่างชาติรู้จัก เช่น เทศกาลสงกรานต์ และของโลก เช่น ปีใหม่สากล, ตรุษจีน เทศกาลสำคัญของชาวจีนทั่วโลก และคนไทยเชื้อสายจีน ทำให้สามารถกระจายการจัด Signature Event ไปในแต่ละช่วงของปี เกิดการหมุนเวียนของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในย่าน Central Bangkok ตลอดทั้งปี ไม่ได้กระจุกอยู่เฉพาะช่วงปลายปี ซึ่งเป็น High Season ด้านการท่องเที่ยวเหมือนที่ผ่านมา
อย่างงานคริสต์มาส ในย่าน Central Bangkok จะเริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป จากนั้นส่งต่อไปยังงานเคาท์ดาวน์ในเดือนธันวาคม ไปจนถึงประมาณมกราคม เมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม จะเป็นงานตรุษจีน จากนั้นช่วงหน้าร้อน ในเดือนเมษายนจัดเทศกาลสงกรานต์ และเมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม ก็เป็นเทศกาลอาหาร โดยในแต่ละปี Signature Event เหล่านี้ จะมีการคิดธีมใหม่ๆ มานำเสนอ เพื่อสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้คนที่มาย่านนี้
สำหรับงาน Central Bangkok Tastes of The World กลุ่มเซ็นทรัลคาดการณ์ว่าต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 – 5 ปีในการปลุกปั้นให้เป็น Signature Event ที่ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศรับรู้และอยู่ในการจดจำว่าถ้าเป็นงานเทศกาลอาหารระดับโลก ต้องเป็นงานนี้เท่านั้น เหมือนเช่นที่ประสบความสำเร็จมาแล้วกับเทศกาลเคาท์ดาวน์
จัดเต็ม 3 Big Food Events
“Bangkok Varee @CentralWorld” ทุ่มงบกว่า 40 ล้านบาท นำเสนอกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมไทยแขนงต่างๆ จำลองวิถีชีวิตริมแม่น้ำเจ้าพระยาเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชาวบางกอกมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่เป็นความผูกพันมาอย่างแนบแน่นจนกลายเป็นเสน่ห์ของชุมชนดั้งเดิมของกรุงรัตนโกสินทร์ที่มีความหลากหลายด้านวัฒนธรรมเกิดเป็นความสุนทรียะในตัวเอง อีกทั้งยังทำให้คนในสังคมได้เรียนรู้ความเป็นอยู่และเรื่องราวอันยาวนานของกรุงเทพฯ ในอดีต ภายใต้คอนเซ็ปต์การจัดงานได้นำตัวเลข “234” แห่งการครบรอบกรุงรัตนโกสินทร์ มาใช้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการสื่อความหมายถึง วิถีชีวิตริมวารีของชาวบางกอก มีร้านค้ากว่า 300 ร้านค้า ตั้งแต่วันที่ 14 – 31 กรกฎาคม 2559 ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
“Central Food Hall World Gastronomy 2016” ทุ่มงบกว่า 20 ล้านบาท จัดงานแสดงอาหารและจำหน่ายอาหารจากแบรนด์ดังนานาประเทศทั่วโลก มากกว่า 1,000 รายการ จาก 30 ประเทศทั่วโลก เช่น ซอสบาร์บีคิวสูตรต้นตำรับจากอเมริกา ขนมชีสเค้กจากญี่ปุ่น มันฝรั่งรสเห็ดทรัฟเฟิ้ลจากสเปน นอกจากนี้ภายในงานยังมีความพิเศษ คือคลาสเวิร์คช้อปทำอาหารนานาชาติเพื่อการกุศลกับเชฟระดับแนวหน้าของเมืองไทย ระหว่างวันที่ 19 – 24 กรกฎาคม 2559 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
“Eathai Expansion” งานนี้ Eathai ศูนย์รวมอาหารชื่อดังของเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ ใช้งบ 40 ล้านบาท ปรับโฉม “Eathai” พร้อมจัดกิจกรรม “Eathai Expansion” โดย 30 ล้านบาท สำหรับปรับโฉมใหม่ ได้มีการขยายพื้นที่จากเดิม 2,500 ตร.ม. เป็น 3,550 ตร.ม. จัดสรรเป็น 13 โซน เช่น ครัว 4 ภาค, สตรีทฟู้ด, ลิตเติลไชน่าทาวน์ นอกจากนี้ยังมีร้านข้าวสาร Eat Thai Rice โดยคาดว่าหลังเปิดตัว Eathai โฉมใหม่จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น จากเดิม 1,500 คนต่อวัน เป็น 3,500 คนต่อวัน แบ่งเป็นชาวต่างชาติ 60 % และคนไทย 40% ในส่วนของชาวต่างชาติ 60% แบ่งเป็นเอเซีย 30% และยุโรป-อเมริกา 20% ตะวันออกกลาง 10%
ขณะที่งบประมาณอีก 10 ล้านบาท สำหรับจัดกิจกรรม “Eathai Expansion” ฉลองโฉมใหม่ ระหว่างวันที่ 21 กรกฎาคม -7 สิงหาคมนี้ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่
นอกจากนี้งาน Central Bangkok Tastes of The World มีโรงแรมในย่านนี้ เช่น โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพ ราชประสงค์, โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน และ โรงแรมโฮเทล มิวส์ แบงค็อก ร่วมออกบูธจำหน่ายบัตรรับประทานอาหารราคาพิเศษจากโรงแรม