แม้ว่าหลายคนจะกังวลกับสภาพเศรษฐกิจที่อาจจะทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคระดับรากหญ้า ไปจนถึงระดับกลางได้รับผลกระทบ แต่สำหรับ เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป หรือ CMG ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามระดับพรีเมี่ยม 8 แบรนด์ กลับบอกว่าที่ผ่านมา ยังเติบโตถึง 12% โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์ใหม่อย่าง THREE ซึ่งเติบโต 30% หลังจากเปิดตัวในประเทศมาเพียง 3 ปี
อุสรา ยงปิยะกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส CMG เล่าถึงแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามและเครื่องสำอาง THREE ว่า เป็นเครื่องสำอางพรีเมี่ยมจากญี่ปุ่น ที่ชูจุดขาย 3 ประการ 1. Natural แบรนด์ดีเอ็นเอ เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ 2. Honest ซื่อสัตย์ในงานวิจัย บอกส่วนผสมอย่างตรงไปตรงมา รวมทั้งแพ็กเก็จจิ้ง ที่นำเสนอทั้งหมด ใช้ความเรียบง่าย 3. Creative ในประเทศญี่ปุ่นมีแนวทางในการทำตลาด ที่สร้างประสบการณ์กับผู้บริโภค โดยมี Concept Store ที่มีห้องนวดหน้า เพื่อให้ผู้บริโภค เข้าใจถึงสินค้าโดยตรง เจ้าหน้าที่ที่ให้คำแนะนำสินค้า จะถูกเรียกว่า Creator ไม่ใช่แค่ BA เหมือนแบรนด์อื่นๆ เพราะมีหน้าที่จัดสรรค์สินค้าที่เหมาะกับความต้องการ ในประเเทศญี่ปุ่นแบรนด์ THREE มีสินค้าหลากหลาย ครอบคลุมไปจนถึงอาหารเสริมที่เน้นคุณค่าจากธรรมชาติอีกด้วย
และจากเทรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความสนใจสินค้าจากธรรมชาติ รวมทั้งผลิตภัณฑ์กลุ่มพรีเมี่ยม ผู้บริโภคไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ จึงทำให้ยอดขายของแบรนด์ THREE เติบโต 30% โดยมีสินค้าขายดี 3 อันดับแรก ประกอบด้วย คลีนซิ่งออยล์ โฟมล้างหน้า และแป้งฝุ่นเบา เฉลี่ยยอดขาย 200 ชิ้นต่อวัน นอกจากนี้ยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่กลุ่ม Hair เพิ่มเข้ามา รวมทั้งบุกตลาดในต่างจังหวัดเริ่มต้นที่เชียงใหม่และภูเก็ต กับเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย จากปัจจุบันมีอยู่ 14 เคานท์เตอร์ กับป๊อปอัพ เคานท์เตอร์ 3 แห่ง ปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 2 เคานท์เตอร์ แล้วปีหน้าก็จะเพิ่ม Concept Store ที่นำผู้บริโภคให้สัมผัสประสบการณ์กับแบรนด์มาขึ้น นอกจากนี้ยังมีแผนนำเอาสินค้าแบรนด์ THREE ไปทำตลาดในประเทศอินโดนีเซีย
อุสรา ยงปิยะกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส CMG
ในส่วนของแบรนด์ใหม่ในเครือ CMG อุสรา กล่าวว่า น่าจะเป็นปี 2018 จึงจะเปิดตัว วิธีการคัดเลือกแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาด โดยมีวิธีการมอง จาก 1. วิสัยทัศน์ของแบรนด์ว่ามีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจในแบบของตัวเองหรือไม่ 2. มีเสียงตอบรับที่ดีในตลาดประเทศอื่นๆ 3. ตลาดในประเทศไทยยังมีช่องว่างเหลืออยู่ สำหรับแนวโน้มการขายด้วยช่องทางออนไลน์สำหรับ CMG ยังถือว่ามีสัดส่วนการขายไม่สูงนัก เพราะกลุ่มเป้าหมายยังเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซือน้อยกว่ากลุ้มเป้าหมายหลัก อีกทั้งอัตราการซื้อต่อยอดบิลก็น้อยกว่าการซื้อผ่านเคานท์เตอร์ โดยเฉลี่ยแล้ว การซื้อที่เคานท์เตอร์จะซื้อ 3 ชิ้นต่อบิล แต่การซื้อออนไลน์จะมีเพียง 1 ชิ้นต่อบิลเท่านั้น อย่างไรก็ตามช่องทางนี้ มีอัตราการเติบโตที่ดี อีกทั้งยังถูกใช้ทำโปรโมชั่นเพื่อทำให้ผู้บริโภครู้จักและทดลองใช้สินค้า