จากความท้าทายของอาณาจักรไก่ทอด ที่แบรนด์อื่นๆ ทั้งที่ขายไก่ทอดโดยตรง หรืออาหารอื่นที่พยายามเพิ่มเมนูไก่ทอดเข้ามาแย่งชิงมาร์เก็ตแชร์ KFC ผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจอาหารจานด่วน (QSR) ในประเทศไทยมากกว่า 32 ปี ขอแก้เกมด้วยการเสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์ด้วยดีเอ็นเอ “KFC Always Original” เป็นตัวจริง…เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ตอกย้ำชัดๆ ใครกันแน่คือตัวจริงเรื่องไก่ทอด
ล่าสุดส่งมิวสิควิดีโอสุดแนวเพลง “ตัวปลอม” ที่ได้ 2 นักร้องชื่อดัง ลุลา และ วงโปเตโต้ นำเอาเพลงที่คุ้นหูมา Cover ใหม่ เอาใจผู้บริโภครุ่นใหม่หัวใจฮิปสเตอร์ กลุ่ม Gen Z ผ่านกลยุทธ์ Music & Pop Art ใช้ดนตรีและศิลปะเป็นสื่อเข้าถึงผู้บริโภค เพราะทั้งสองสามารถแสดงออกถึงตัวตนของผู้สร้างชิ้นงานนั้นๆ และยังสามารถสร้างแรงบันดาลใจต่อผู้รับสารได้อีกด้วย
โดยมิวสิควิดีโอเป็นการเล่าถึง Insight ของคู่รักหนุ่มสาวคู่นึง ผู้ชายลุคเซอร์ กับ ผู้หญิงที่สวยน่ารักตามพิมพ์นิยมในโซเชียลมีเดีย ซึ่งต่างก็มีความคิดเป็นตัวของตัวเอง จนเกิดเป็นปัญหาชีวิตรัก ในมิวสิควิดีโอสอดแทรกความคิดที่แท้จริงของทั้งคู่ด้วยถ้อยคำที่เห็นแล้วเรียกเสียงฮาได้เป็นระยะ จนกระทั่งในที่สุดเขาและเธอก็ต้องยอมรับในความเป็นจริง เพราะฝืนในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนของตัวเองต่อไปไม่ไหว มิวสิควิดีโอทั้งสองเรื่องจากศิลปินทั้งสองเล่าเรื่องราวของ ชายหนุ่ม กับหญิงสาวคนละแง่มุม เป็นตัวแทนของความคิดสองฝั่ง ถึงจะเจอเหตุการณ์เดียวกันก็เถอะ เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้ดูเรื่องหนึ่งแล้วก็อยากจะดูอีกเรื่องตามไปด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอผลงานศิลปะของกลุ่มศิลปินภาพประกอบ (Illustration) ชื่อดัง อย่าง จักรกฤษณ์ อนันตกุล, TUNA DUNN, ClubPopp, Benz Tanawat และ Jayoto มาสร้างสรรค์โชว์ความเป็นออริจินัลด้วยลายเส้นและความคิดสร้างสรรค์ตามสไตล์ตัวเองผ่านเฟซบุ๊ก KFC Thailand และผลงานบางส่วนจะนำไปประชาสัมพันธ์สู่สาธารณะผ่านสื่อนอกบ้านตามแหล่งรวมวัยรุ่นไทยอย่างย่านสยามสแควร์ตลอดเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมนี้ด้วย
ทั้งหมดนี้ KFC ตั้งใจจะสื่อสารว่า KFC เป็นมากกว่าแบรนด์ไก่ทอดที่มีจุดเด่นด้านผลิตภัณฑ์ ก้าวไปสู่แบรนด์แห่งแรงบันดาลใจที่ขับเคลื่อนสังคม ซึ่งเป็นทิศทางของ KFC ทั่วโลกที่ต้องการมุ่งไปในทางนี้ และ KFC เชื่อว่าความแข็งแกร่งของแบรนด์และพฤติกรรมของผู้บริโภครุ่นใหม่มีความเหมาะสมแล้วที่จะนำไปสู่การปรับภาพลักษณ์ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของ KFC ไม่ใช่เพิ่งเริ่มทำเป็นครั้งแรก แต่เริ่มมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วอย่างค่อยเป็นค่อยไป เช่น
– ยูนิฟอร์มของพนักงาน ซึ่งก็เป็นคนรุ่นใหม่เช่นกัน มีความอิสระมากขึ้น จากที่ต้องใส่กางเกงสแลคสีดำ ก็สามารถใส่กางเกงยีนส์ที่ดูสุภาพ ท่อนบนดูทันสมัย คล่องแคล่ว กระฉับกระเฉงมากขึ้น
– ปรับปรุงร้าน รวมทั้งบริการส่ง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภคทุกๆ Touch Point เช่น ให้บริการ Free Wifi ในกรุงเทพฯ และตัวเมืองขอนแก่นรวมกว่า 100 สาขา และจะขยายให้ครอบคลุมทุกสาขาทั่วประเทศคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายนนี้เพื่อที่ลูกค้าจะได้เข้าถึงโซเชียลมีเดียได้ง่ายขึ้น รวมทั้งปรับปรุงแพ็กเก็จจิ้งของอาหารให้ทันสมัย จับกระชับมือ พกพาสะดวกขึ้น
– ตั้งราคาที่เหมาะสมด้วยกลยุทธ์ Right Price, Right Value อย่างเช่นในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาก็มีชุดโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับครอบครัว จนกระทั่งเดือนเมษายน และเดือนมิถุนายนที่ผ่านมายอดขายของ KFC สูงสุดตั้งแต่เคยทำธุรกิจมาในประเทศไทยเลยทีเดียว
– นำเสนอเมนูที่ถูกอกถูกใจ ล่าสุด ส่ง ชุดดับเบิ้ลชีสซิงเกอร์ ที่อร่อยเข้มข้น ถึงรสชาติกับชีสสองแผ่นเต็มๆ หรือนำเมนูยอดนิยมไก่ทอดชิลลี่ชิส ปรุงสดเต็มรสชีส สุดขีดพริกเผา กลับมาจำหน่ายอีกครั้ง เข้ากับกระแสผู้บริโภคที่กำลังฮิต “ชีส” ลงสู่ตลาด
– สื่อสารเรื่อง Brand Story ของผู้พันแซนเดอร์ส ผู้ก่อตั้งแบรนด์ KFC ซึ่งมุ่งมั่นทำตามความเชื่อของตัวเอง แม้ว่าจะถูกปฏิเสธมากี่ครั้งก็ไม่ย่อท้อ จนแบรนด์ KFC ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน ตรงตามความฝันของคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเป็นเจ้าของกิจการและมีทางเลือกในอาชีพของตัวเอง (อ่านเพิ่มเติมที่ https://www.brandbuffet.in.th/2016/05/kfc-david-sanders-brand-history/ )
คอยดูให้ดี KFC ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ภายใต้แนวคิด “Always Original” ต่อเนื่องตลอดปี ติดตามได้ที่เฟซบุ๊ค KFC Thailand หรือร่วมแสดงพลังของ “ตัวจริง” ผ่านแฮชแท็ก #KFCAlwaysOriginal