“โปเกม่อน” เป็นการ์ตูนในความทรงจำของหนุ่มสาววัยนี้ ที่เด็กๆเคยมีตัวเอก “ปิกาจู” อยู่ในความทรงจำ ฉะนั้นเมื่อเจอเกมที่มีทั้งความใหม่ไฮเทคอย่างเทคโนโลยี AR “augmented reality” และความเก่าคลาสสิครำลึกความสนุกวัยเด็กอย่างเกม “Pokemon Go” หนุ่มสาวทั้งหลายจึงเปิดในรับได้ไม่ยาก และก็ติดกันถ้วนหน้า
เกม “Pokemon Go” เกิดเป็นกระแส ทั้งแชร์กันคุยกันทั่วโลกโซเชียล และขึ้นสื่อหลักระดับโลกอย่าง CNN ต้องทำสกู๊ปพิเศษเรื่องนี้ไปไม่กี่วันก่อน ส่วนตัวเกมก็ติดชาร์ทยอดนิยมทั้งในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก สะท้อนว่านี่คือเทรนด์ระดับโลกอย่างแท้จริง
ส่วนในไทยนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะแค่เล่นได้ไม่กี่วันก็ฮิตระเบิดจนโดนบล็อกเล่นเอาบ่นกันถ้วนหน้า แต่ว่าก็มีข่าวลือกันว่าน่าจะกลับมาเล่นได้อีกก่อนปลายเดือนกรกฎาคมนี้แน่ๆ
อย่างไรก็ตาม ชาวแอนดรอยด์ไทยบางคนก็ลงเองโดยโหลดไฟล์ APK จาก https://m.apkpure.com/pok%C3%A9mon-go/com.nianticlabs.pokemongo ส่วนชาว iOS ก็ logout ชื่อเดิมแล้วสมัครใหม่เป็นชาวออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์แล้วดาวน์โหลดที่ https://itunes.apple.com/nz/app/pokemon-go/id1094591345 ตามๆกัน
อิงกับสถานที่จริง Reai time, Real World
จุดเด่นสุดของตัวเกมคือการอิงกับสถานที่จริงต่างๆ ทั่วเมือง โดยจะมีตัวโปเกม่อนสุ่มเกิดเรื่อยๆตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งหากอยู่ใกล้ตัวเรา ตัวแอพเกมก็จะสั่นแจ้งเตือนว่ามีโปเกมอนอยู่ใกล้ๆ ซึ่งหลายคนไม่รอให้มันมาเกิดใกล้ๆ แต่ออกไปเดินหากันเลย เช่น นักศึกษาเดินหาทั่วมหาวิทยาลัย หรือคนทำงานไปเดินหาตามศูนย์การค้าหรือสวนสาธารณะ
บางสถานที่ก็มี “ดราม่า” เช่นอนุสรณ์สถาน 9/11 ที่อดีตที่ตั้งตึก World Trade Center นิวยอร์คที่ถูกเครื่องบินชน และที่พิพิธภัณฑ์รำลึกเหยื่อการสังหารหมู่นาซีสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ก็ยังอุตส่าห์มีโปเกม่อนและมีคนไปจับกัน สร้างความไม่พอใจอย่างกว้างขวาง
กระแสอีกแนวก็คือการรวมกันเรียกร้องให้มือถือบางระบบที่ไม่รองรับเกมนี้ ให้รองรับบ้าง เช่นมือถือที่ใช้ชิปอินเทล หลายๆ รุ่น เช่น Asus Zenfone จนทีมงานนินเทนโดต้องรีบออกอัพเดตตาม และยังมีอีกหลายกระแสที่เกมนี้ก่อขึ้นในรอบเดือนที่ผ่านมา
การมองเห็นตัวโปเกม่อนนั้นเป็นเทคโนโลยี “augmented reality” คือยกมือถือที่เปิดเกมอยู่ มองเล็งที่ต่างๆเหมือนจะถ่ายรูป ก็จะเห็นภาพซ้อนตัว โปเกม่อนอยู่บนสถานที่จริง เหมือนมันอยู่ตรงนั้นจริงๆเลยทีเดียว
จากนั้นก็ “จับโปเกม่อน” โดยลากนิ้วบนจอเพื่อโยน “โปเกบอล” ไปให้โดนตัวโปเกมอน โดยต้องลากนิ้วให้เป๊ะทั้งทิศทางและน้ำหนัก คล้ายๆในเกมชู้ตบาสที่หลายคนเคยลากนิ้วเล่นกันบนมือถือมานาน ซึ่งตัวโปเกมอนสามารถปัดป้องลูกบอลเราโยนได้ด้วย คือไม่ได้ยอมให้จับง่ายๆ หลังจากที่จับมาแล้วผูเล่นก็จะนำเอาโปเกม่อนของแต่ละคนมาสู้กัน แต่ก่อนจะสู้ได้เก่งกาจ ต้องให้โปเกม่อนของเราเข้า Gym เพื่อฝึกซ้อมก่อน ซึ่ง Gym นี่ก็เป็นสถานที่ที่เกิดแบบสุ่มเช่นกัน และจะย้ายไปเรื่อยๆ ดังนั้นถ้าหากว่าพิกัดใดถูกกำหนดให้เป็น Gym ในช่วงเวลานั้นแล้วละก็จะคร่าคร่ำไปด้วยเหล่าผู้หลงใหลเกมนี้ไปอยู่รวมตัวกัน
ใครได้อะไรจาก Pokemon Go
ในเชิงธุรกิจแล้ว ผู้ได้ประโยชน์เต็มๆลำดับแรกก็คือ Nintendo ซึ่งทำรายได้จากการเติมเงินในเกมนี้เต็มๆ เช่น การเติม 0.99$ ซื้อ “Lucky Egg” ซึ่งผู้เล่นหลายๆคนเต็มใจจ่ายทันทีที่เล่นเป็น เพื่อทำให้เกมเล่นสนุกขึ้น และยังมีการเติมอื่นๆ การขายของเล่นอย่าง “สายรัดข้อมือเพื่อหาโปเกม่อน” และผลประโยชน์ต่อเนื่องไปได้อีกมหาศาลจากฐานผู้เล่นจำนวนมากทั่วโลก โดยผู้เล่นส่วนใหญ่เป็นคนที่อินกับสตอรี่ของโปเกม่อนอยู่แล้ว ทำให้เป็นผู้บริโภคที่มีอายุราวๆ 20 ปีขึ้นไป ซึ่งมีกำลังซื้อ ราคาหุ้นของบริษัท Nintendo เจ้าของเกมราคาพุ่งขึ้นเกือบ 30% ในไม่กี่วันหลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศหลักๆ
นินเทนโด เคยพยายามพัฒนาเกมที่เล่นบนสมาร์ทโฟนมาแล้ว ชื่อว่า Miitomo แต่ก็ไม่ได้รับความนิยม เทียบไม่ได้เลยกับเมื่อครั้งที่นินเทนโดประสบความสำเร็จกับเกมคอนโซล เช่น Mario, Donkey Kong จนกระทั่งมาถึง Pokemon Go เรียกได้ว่ากู้ชื่อนินเทนโดกลับมาแบบสง่างาม
นินเทนโดยังมีอีกฐานะ คือเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ตัว Pokemon ซึ่งกำเนิดและโด่งดังในปี ค.ศ.1996 ถือว่าความนิยมลดทอนลงในสื่อหลัก แต่ก็กลับมาได้อีกครั้งด้วยการเป็นเกมไฮเทคครั้งนี้ เพราะอดีตเด็กๆ ที่เคยติดตามดู ก็โตมาเป็นหนุ่มสาวที่เล่นเกม Pokemon Go วันนี้ ทั้งเพื่อความสนุกท้าทาย และกระตุ้นความทรงจำดีๆ วัยเด็กไปด้วยในตัว
ฝ่ายบริษัท Niantic ซึ่งร่วมพัฒนาเกมนี้มากับนินเทนโดนั้น ก็ชำนาญการสร้างเกมลักษณะนี้มานาน มีผลงานเกม Ingress ที่คล้ายกันแต่ดังเฉพาะในหมู่ geek (ผู้เชี่ยวชาญไอที) ,มาก่อน แต่ไม่ดังในวงกว้างเพราะ “ไม่ป๊อป”และเข้าใจยากสำหรับคนทั่วไป ไม่เหมือนครั้งนี้ที่ร่วมกับบริษัทที่เข้าใจตลาด mass มากกว่าจึงประสบความสำเร็จอย่างมากจากเทคโนโลยีเดิมๆที่มีอยู่
Niantic เจ้าของเกม Ingress นี้ มี Google ถือหุ้นอยู่ด้วย จึงได้ใช้ระบบ Google Map มาเสริมเกมในแง่แผนที่ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็ง และทางกูเกิลก็ได้ประโยชน์จากความฮิตของเกมนี้ด้วยเช่นกัน
และนอกจากเกมนี้ ก็มีบริษัทอื่นๆ เกาะกระแสทำเกมคล้ายกันออกมา เช่น เกม “City Spirit Go” (โปรดสังเกตคำว่า “Go” ) จากจีนให้โหลดในแอพสโตร์ มาขอเกาะกระแส แต่มุ่งไปที่ชาวจีนในประเทศเท่านั้น
ในทางอ้อมเชื่อว่าผู้ผลิตดีไวซ์และบรรดาโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือทั้งหลายก็น่าจะแฮปปี้กับเกมที่อิงกับสถานที่จริงแบบนี้ เพราะเป็นการกระตุ้นให้ผู้บริโภคใช้สมาร์ทโฟนคุณภาพดีกับใช้ดาต้ามากขึ้น
นักการตลาดควรใช้อะไรจากปรากฏการณ์นี้
และมาถึงประเด็นสำคัญ คือเราๆท่านๆนักการตลาดหรือธุรกิจ sme รายย่อยทั่วไป จะใช้ประโยชน์จากกระแส “คนจับโปเกม่อน” นี้อย่างไรได้บ้าง ?
– ศูนย์การค้า ร้านค้า ร้านอาหาร สามารถดึงดูดคนเล่นเกมนี้ให้เข้าศูนย์ฯเข้าร้าน เช่น เสนอให้ส่วนลดกับผู้เล่น Pokemon Go เผื่อจะได้เข้ามาหามาจับโปเกม่อนในบริเวณร้าน จะได้เกิดการแชร์การพูดถึงขึ้น social network ต่อๆ ไป
– ศูนย์การค้า ร้านค้า ร้านอาหาร หรือแม้แต่ โรงแรม รีสอร์ท อาจจะคอยแจ้งอัพเดตทาง social ว่ามีโปเกม่อนให้จับกี่ตัวตรงไหนบ้างในพื้นที่ตัวเองช่วงนั้นๆ ดึงดูดผู้เล่นให้เข้ามาล่ามาจับ ซึ่งแน่นอนว่าต้องซื้อหรือใช้บริการด้วย
– และในอนาคต ไม่แน่ Nintendo อาจทำ Pokemon Go เป็นแพลตฟอร์มโฆษณา เช่น ให้มีโปเกม่อนพิเศษไปโผล่ในร้านค้า หรือศูนย์การค้า หรือโรงแรม/รีสอร์ท ที่ซื้อโฆษณา เรียกได้ว่าเป็นการใช้โปเกม่อน โก เรียกทราฟฟิคมายังสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง หรือ ใช้ตัวโปเกม่อน, ไอเท็มพิเศษในเกมในรูปแบบ Branded แบรนด์เข้าไปตรงๆ ซึ่งหากจุดนั้นมาถึงเมื่อไร (คงอีกไม่นาน) ผู้ประกอบการหรือนักการตลาดทั้งหลายก็ไม่ควรพลาดเข้าไปลงทุนจับจองการโฆษณาบนสื่อใหม่ที่น่าสนใจนี้เป็นรายแรกๆ ซึ่งจะได้รับความสนใจมากกว่าไปเมื่อมีผู้ลงโฆษณาเยอะแล้วภายหลัง
มุมมองและการวิเคราะห์ทั้งหมดนี้ อยู่บนสมมติฐานว่า “Pokemon Go” จะไม่ได้เป็นแค่ของเล่นแฟชั่นชั่วคราว แต่จะสามารถก้าวขึ้นเป็นกึ่งเกมกึ่ง platform ใหม่ที่จะรองรับอะไรอื่นๆต่อไปได้อีกมาก ซึ่งจะเป็นจริงตามนี้หรือไม่ ต้องจับตามองกันต่อไป !
ภาพจาก …
www.theverge.com/2016/6/10/11898470/pokemon-go-ios-android-niantic-ingress-ar-first-look
www.usgamer.net/articles/watch-where-youre-pokemon-go-ing
www.news18.com/news/tech/how-pokemon-go-ar-game-is-leading-to-robberies-injuries-1268447.html
แปลและเรียบเรียงโดย Somkid Anektaweepon