กว่า 18 ปี แล้วที่สตาร์บัคส์ (Starbucks coffee) เชนร้านกาแฟสัญชาติอเมริกันเข้ามาทำธุรกิจในตลาดประเทศไทย จากร้านเล็กๆร้านเดียว และขยายสาขาเพิ่มขึ้นตามดีมานด์ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันมีมากกว่า 262 สาขา ทั่วประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ (กาแฟ) และ สร้างประสบการณ์การดื่มการแฟให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดแบรนด์หนึ่งในประเทศไทย
จุดน่าสนใจ คือ การสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า Starbucks มีพัฒนาการสาขามาตลอดเวลา เริ่มจากปี 1998 สาขาแรกในเมืองไทยที่ “เซ็นทรัลชิดลม” ในการวางตัวเป็น Third Place ให้ลูกค้ามาหาประสบการณ์กับการดื่มด่ำรสชาติของกาแฟ พ่วงกับการสร้างความแตกต่างในสาขาต่างๆด้วยดีไซน์ที่ประยุกต์ให้เข้ากับแต่ละพื้นที่ กระโดดข้ามมาปี 2013 Starbucks Community Store หลังสวน หรือ ร้านกาแฟเพื่อชุมชนสาขาแรกนอกสหรัฐอเมริกา ที่รายได้จะถูกนำไปบริจาคให้กับชุมชนชาวไร่กาแฟ จากนั้นปี 2014 สาขาที่ 200 ใน อ.วังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่สร้างด้วยอิฐแดง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์สำคัญของจังหวัด ขณะเดียวกันก็มีการเปิด Starbucks Reserved Store (มีมุมกาแฟคัดพิเศษพรีเมี่ยมและเครื่องชงแบบดั้งเดิม) และล่าสุดกับประสบการณ์ระดับพรีเมี่ยม Starbucks Reserved Experience Store แห่งแรกในประเทศไทย
Starbucks Reserved Experience Store คือ โมเดลร้านกาแฟอีกรูปแบบนึงจากสตาร์บัคส์ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การดื่มกาแฟให้พรีเมี่ยมและปราณีตมากยิ่งขึ้น มีรูปดาวและตัว R เป็นสัญลักษณ์ พร้อม 3 เอกลักษณ์ ได้แก่
1. กาแฟชั้นเลิศ และหายากจากแหล่งเพาะปลูกเดียว (Single Origin) หรือแหล่งเล็กๆ จากทั่วโลกถูกคัดสรรมาให้ลูกค้าได้ดื่มในร้าน โดยจะหมุนเปลี่ยนไปเรื่อยๆไม่ซ้ำ ภายใต้แบรนด์กาแฟ Starbucks Reserve ถูกบรรจุในซองสีทองดูเล่อค่าและพรีเมี่ยม
2.เครื่องชงชั้นเยี่ยม จัดเต็มมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น Pour Over , Siphon , Chemex เป็นต้น หรือแม้กระทั่งสุดยอดเครื่องชง Victoria Arduiro รุ่น Black Eagle VA 388 (ในสาขาศูนย์การค้าเกษรเท่านั้น)
3. บาริสต้าแซ่บๆในด้านความสามารถศิลปะการชงกาแฟ หรือเรียกว่า Coffee Master ผู้ที่มีความชำนาญด้านกาแฟ และ การชงเพื่อดึงเอารสชาติกาแฟที่ดีที่สุด
ร้าน Starbucks Reserved Experience Store เปิดให้บริการแล้วสาขาแรกของไทย คือ สาขาศูนย์การค้าเกษร ภายในร้านลูกค้าสามารถดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟชั้นเลิศ สายพันธ์ุพิเศษ ประกอบชมศิลปะการชงจาก Coffee Master ได้บนเคาน์เตอร์ Experience Bar 360 องศา หรือที่เรียกว่า Slow Bar ทำให้ใช้เวลาละเลียดกาแฟได้อย่างเต็มที่ และเห็นขั้นตอนการชง ขณะเดียวกันก็มีมุมกาแฟแบบปกติให้บริการด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมี Starbucks Reserved Experience Store สาขาที่ 2 คือ เซ็นทรัล อีสต์วิลล์
ในแง่การตลาดมีแผนการขยายสาขาในประเทศไทย ปัจจุบัน Starbucks มีสาขารวมทั้งหมด 262 สาขา แบ่งเป็น ร้านปกติ 228 สาขา Coffee Leadership (สาขาที่เป็น Reserve Store มีมุมกาแฟคัดพิเศษ พร้อมเครื่องชงแบบดั้งเดิม) 20 สาขา และ Drive Thru 14 สาขา โดยตั้งเป้าขยายสาขาทั้งสิ้น 300 สาขาภายในปี 2018
ส่วนบัตรสมาชิก My Starbucks Rewards มีจำนวน 680,000 สมาชิก แบ่งเป็นระดับ Gold : 48,000 ระดับ Green : 38,000 และ ระดับ Welcome : 600,000 ซึ่งสร้างยอดขายได้ 50% ของยอดขายทั้งหมด
“สำหรับ Starbucks Reserved Store (ร้านที่มีรูปตัว R และ ดาว) เปิดมาแล้ว 4-5 ปีในประเทศไทย เพื่อตอบรับกระแสของผู้บริโภคที่หันมาดื่มกาแฟแบบพรีเมี่ยมหรือพิถีพิถันมากขึ้น อีกทั้งร้านกาแฟแบบ Specialty ในตลาดก็มีมากขึ้น จะทำอย่างไรให้ลูกค้ายังอยู่กับเรา เราจึงต้องสร้างประสบการณ์อะไรใหม่ๆให้กับผู้บริโภคทั้งเรื่องกาแฟและการตกแต่งร้าน อีกทั้ง Starbucks Reserved Store ยังสะท้อนภาพลักษณ์แบรนด์ของผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟอีกทางหนึ่ง” เมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
คอกาแฟตัวจริงต้องการสัมผัสรสชาติกาแฟระดับพรีเมี่ยม พร้อมกับบรรยากาศสุดฟิน ค้นหาสัญลักษณ์ดาว และ R ได้แล้ววันนี้