Better Social หนึ่งในแคมเปญที่เป็น talk of the town ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ปลุกกระแสคนใช้โซเชียลให้หันมาคิดก่อนแชร์ ผ่านทางคลิป “ความจริงของชายที่เคยถูกสังคมตราหน้าว่า ‘ไอ้โรคจิต’” ซึ่งได้รับกระแสตอบรับจากโลกออนไลน์เป็นอย่างดี โดยคลิปไวรัลนี้ถูกแชร์ออกไปต่อๆ กันกว่า 150,000 ครั้ง มียอดคนดูมากกว่า 6 ล้านครั้ง และบนโลกออนไลน์ พร้อมใจกันติดแฮชแท็ก #BetterSocial #เช็คก่อนแชร์ #ชัวร์ก่อนแชร์
จุดประสงค์แคมเปญ Better Social เกิดขึ้นเพื่อสร้างพื้นที่ที่จะช่วยผลักดันคุณภาพให้สังคมดีขึ้น โดยเฉพาะสังคมออนไลน์ที่ส่งผ่าน ถ่ายเทข้อมูลกันอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะลืมฉุกคิด วิเคราะห์และตระหนักถึงผลกระทบที่ตามมา Better Social จึงเป็นพื้นที่ส่วนกลางเพื่อรณรงค์ให้ทุกคนใช้สื่อโซเชียลอย่างสร้างสรรค์ มีสติ เช็คก่อนแชร์และเสพข้อมูลต่างๆ บนโลกออนไลน์อย่างมีวิจารณญาณ เพื่อสังคมออนไลน์ที่ดีขึ้น
โดยเบื้องหลังการทำความดีของแคมเปญนี้ มาจากทีมโซเชียลของบริษัท AP Thai ซึ่งในวันนี้ Brand Buffet จะมาเปิดเบื้องหลังสัมภาษณ์ทีมงานที่ช่วยทำให้แคมเปญดีๆ เกิดขึ้น และปลุกกระแสให้คนออนไลน์หันมาเช็คก่อนแชร์ ชัวร์ก่อนแชร์
ที่มาของแคมเปญ Better Social
ทีมโซเซียล AP Thai เกริ่นเริ่มต้นว่า “โครงการนี้เริ่มต้นตั้งแต่ Social Media เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตประจำวันของคนในสังคม และเริ่มมีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันตั้งแต่การใช้สื่อสารทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว แบ่งปันข้อมูลที่สนใจ รวมทั้งอัพเดทข่าสารต่างๆ เรียกได้ว่าทุกอย่างสามารถรับรู้ได้เพียงปลายนิ้ว ทำให้เราเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายมาก แต่ปัจจุบัน ด้วยความที่ข้อมูลทุกอย่างไปเร็วมาก จนขาดการคัดกรอง บางเรื่องจริง บางเรื่องไม่จริง ก็ถูกแชร์ออกไปอย่างรวดเร็ว หลายๆ ครั้งที่คนแชร์ข้อมูลเพียงแค่อ่านแค่หัวข้อ หรือแค่เห็นรูปภาพ ยังไม่ทันอ่านเนื้อหาให้ข้างในเลยด้วยซ้ำ ทำให้ข้อมูลที่แชร์ออกไปต่ออย่างบิดเบือน”
“จริงๆ แล้ว Viral Video ตัวนี้ เป็นความตั้งใจของทีมออนไลน์ ที่ทำขึ้นมาตาม Philosophy หลักของ AP คือการให้ความสำคัญกับ Space ซึ่ง Space ในที่นี้หมายถึง พื้นที่แห่งความสุข พื้นที่ที่เป็นบ้าน พื้นที่ที่เป็นสังคมสภาพแวดล้อมที่ดี รวมไปถึงพื้นที่บนโลกออนไลน์ด้วย เราอยากให้ทุกคนใส่ใจในการใช้ Space บนโลก Social อย่างมีจิตสำนึก ด้วยการแชร์ข้อมูลอย่างระมัดระวัง จึงเกิดเป็นแคมเปญ Better Social Space ขึ้นมา ทั้งนี้ก็เพื่อคนในโลกออนไลน์ อยู่ในพื้น Social Space อย่างมีความสุข”
คิดว่าอะไรที่ทำให้แคมเปญนี้เป็นทอล์คออฟทาวน์
เพราะความ Real ของเนื้อหา ที่เป็นความรู้สึกจริงจากบุคคลจริงที่ตกเป็นเหยื่อจากประเด็นที่เกิดขึ้นจริงในสังคมออนไลน์ ที่มาแชร์ประสบการณ์อันเลวร้ายที่เกิดจากการไม่คิดก่อนแชร์ให้เราฟัง จากข่าว “ไอ้โรคจิต ซ่อนกล้อง” ที่ถูกแชร์ในโลกโชเชียลอย่างมาก รวมทั้งสื่อต่าง ๆ ที่ไม่ใช่แค่สื่ออนไลน์ได้มีการนำเสนอประเด็นนี้ จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปในวงกว้าง ที่ถึงแม้ภายหลังจะมีการแก้ไขและพยายามอธิบายความจริง แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร ซึ่งจากแคมเปญนี้ถือว่าเราได้เปิดช่องทางให้ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อได้มาระบาย พูดความจริง พูดความรู้สึก ความเจ็บปวดที่เค้าได้รับเป็นครั้งแรก หลังจากที่เค้าไม่เคยได้มีโอกาสได้ออกมาพูด และโดนสังคมรุมประนามอยู่ฝ่ายเดียว
ทั้งนีสามารถดูความความสำเร็จได้จาก จำนวนยอดแชร์คลิปกว่า 150,000 ครั้ง มียอดคนดูมากกว่า 6 ล้านครั้ง และบนโลกออนไลน์พร้อมใจกันติดแฮชแท็ก #BetterSocial #เช็คก่อนแชร์ #ชัวร์ก่อนแชร์ แต่ถ้าจะให้พูดถึงกระแสของแคมเปญนี้จริงๆ มองว่ายังตอบไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ามันกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ แต่สิ่งที่เห็นแน่ๆ นั้นคือ เราได้เห็นคนรอบตัวเรา เป็นเพื่อน เป็นญาติที่เรารู้จัก แชร์แคมเปญนี้กันมากมาย รวมไปถึงข้อความที่แสดงถึงกำลังใจที่ส่งถึงคุณวุฒิ ผู้ที่เสียหายจากประเด็นในแคมเปญ ที่มีอย่างล้นหลาม มันแสดงให้เห้นแล้วว่า คนในสังคมออนไลน์เริ่มตระหนักถึงการเช็คข้อมูลก่อนที่จะแชร์ เริ่มหาข้อมูลความจริงก่อนที่จะแชร์ นั่นคือการเปลี่ยนแปลงสังคมออนไลน์ไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง
อยากบอกอะไรกับคุณวุฒิ – จิราวุฒิ ลิมปนาทไพศาล เจ้าของเรื่องราว
หากใครจำได้ เมื่อประมาณปลายปี 2557 มีภาพชายหนุ่มคนหนึ่งบนรถไฟฟ้าบีทีเอสที่ได้รับการแชร์ลงไปบนโลกออนไลน์ ก่อนที่จะถูกต่อว่าอย่างหนัก จนส่งผลกระทบต่อครอบครัวและหน้าที่การงาน และผู้ชายคนนั้น คือคุณวุฒิ – จิราวุฒิ ลิมปนาทไพศาล ที่กล้าออกมาแชร์ประสบการณ์เลวร้ายนี้ผ่านคลิป ความจริงของชายที่เคยถูกสังคมตราหน้าว่า ‘ไอ้โรคจิต’ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนในสังคม
“ขอขอบคุณคุณวุฒิมากๆ ที่กล้าเข้ามาแชร์ประสบการณ์ที่เลวร้าย เพื่อให้เป็นอุทาหรณ์ให้กับคนอื่นๆ ทั้งๆ ที่เป็นความทรงจำที่ไม่ดีนัก และจากเรื่องราวของคุณวุฒิ คงจะทำให้คนในโลกออนไลน์แชร์ข้อมูลอย่างมีสติ และทำให้พื้นที่ Social Space น่าอยู่ขึ้น คุณวุฒิ คือจุดเริ่มต้นที่ดี ของ Better Social Space”
สุดท้าย… ทางทีมงานอยากบอกอะไรถึงทุกคนบนโลกโซเชียลบ้าง
“ต้องขอขอบคุณพลังชาว Social Media ทุกคน ที่ช่วยกันส่งกำลังใจที่มีอย่างล้นหลามให้กับคุณวุฒิ หลังจากที่เราปล่อยแคมเปญตัวนี้ออกไป มันแสดงให้เห็นว่า Better Social Space กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว และจากผลกระทบที่เกิดจากการแชร์ข้อมูลโดยไม่ได้ตรวจสอบความถูกต้อง นอกจากจะสร้างความเข้าใจผิด สร้างความเสียหายกับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ ยังสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นมากมายตามมาอีกด้วย อีกอย่างที่เราไม่เคยลืมและเป็นส่วนผลักดันสำคัญที่ทำให้เกิดแคมเปญนี้ขึ้นมาก็คือ AP เป็นหนึ่งในองค์กรที่สร้างสัมคม เราก็อยากให้ทุกสังคมเป็นสังคมที่น่าอยู่ด้วยเช่นกัน”
คลิปไวรัลนี้นับว่าเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าการเช็คก่อนแชร์และคิดก่อนโพสต์เป็นพฤติกรรมที่สำคัยอย่างยิ่งในโลกออนไลน์ที่ข่าวสารเดินทางไปได้ไว และนี่นับเป็นอีกหนึ่งแคมเปญดีๆ จาก AP Thai ที่สร้างพื้นที่ผลักดันคุณภาพให้สังคม เพื่อให้สังคมเป็นสังคมที่น่าอยู่มากยิ่งขึ้น